logo-heading

โดยปกติแล้วตามธรรมเนียมหนังญี่ปุ่น สูตรสำเร็จส่วนมากคือการทำหนังรักซิ้งๆ ผสมผสานความผิดหวังเจ็บปวด การจากลา แต่กลับ Kids on The slope มันไม่ใช่และแตกต่างจากสิ่งที่เราพบเห็นโดยทั่วไป

Kids on the Slope สร้างมาจากเวอร์ชันมังงะ (เรื่อง Sakamichi no Apollon ของโคดามะ ยูกิ) พี่หมีเองไม่เคยดูหรืออ่านมาก่อน แต่รู้ว่าแกนหลักใจความสำคัญของตัวหนังคือมิตรภาพของตัวละครหลักและดนตรีแจ๊ส 2 ประเด็นนี้มันร้อยเรียงเรื่องราวจนทำให้หนังดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ ตัวละครหลักที่มีชีวิตไลฟ์สไตล์แตกต่างกันมาก คาโอรุ นิชิมิ (แสดงนำโดย ยูริ จิเน็น) เด็กเนิร์ด ชอบเก็บตัวที่ถูกวางชีวิตเอาไว้ว่าต้องเติบโตขึ้นไปเป็นหมอ แต่ดันมอบหัวใจให้กับการเล่นเปียโนและดนตรีคลาสสิก แล้วชีวิตที่แสนซังกะตายของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อย้ายโรงเรียนมาพบกับ ริตสึโกะ มุคาเอะ (แสดงนำโดย นานะ โคมัตสึ) เพื่อนร่วมห้องที่ทำให้เขารู้จักกับรักครั้งแรก และ เซ็นทาโร่ คาวาบุจิ (แสดงนำโดย ไทชิ นาคากาวะ) นักเลงหัวไม้ผู้แสนอ่อนโยน ที่ชักชวนให้คาโอรุเข้าสู่โลกดนตรีแจ๊ซ และนั่นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล หนังแม้จะย้อนยุคไปในปี 1966 แต่บริบทวิธีการดำเนินเรื่องเหมือนสูตรหนังวัยรุ่นญี่ปุ่นทั่วไป หนังไม่ทำให้น้ำเน่า ซึ้งกันใจ ผู้กำกับไม่ได้เลือกวิธีการเดิมๆ เพื่อขยี้อารมณ์คนดู แต่นำเสนอเรื่องราวที่มันจริงจังจับต้องได้ในชีวิตมนุษย์ มันเลยเข้าที่เข้าทางในความรู้สึกส่วนตัวของพี่หมี ฉากที่ประทับใจมากสุดคือการเล่นดนตรีในโรงเรียนที่คาโอรุและเซ็นทาโร่ต้องแสดงให้คนทั้งโรงเรียนดูแบบสดๆ ทั้งที่ตอนนั้นตัวละครเอกผิดใจกันไม่พูดไม่จา แต่เพราะเสียงเพลงทำให้ทั้งคู่ลืมความบาดหมางแล้วมาบรรเลงเพลงแจ๊สได้อร่อยเหาะ สรุป : เป็นการชมหนังญี่ปุ่นเกือบ 2 ชั่วโมงที่เพลิดเพลิน ฉีกกรอบแนวทางเดิมๆทิ้งไป ไม่จำเป็นต้องสร้างความดราม่าเรียกน้ำตาแบบสูตรสำเร็จหนังซามูไร และเสียงเพลงในหนังสร้างมิตรภาพที่ดีระหว่างเพื่อนได้อย่างลงตัว แจกรีวิว 8.5/10
logoline