หากมีใครบอกว่าผ่านสองเดือนแรกของศึกไทยลีกไป ทีมน้องใหม่อย่างพีที ประจวบ จะเป็นรองจ่าฝูง คงไม่มีใครเชื่อถ้ามีคำพูดนี้เกิดขึ้นก่อนเปิดฤดูกาล 2018 แต่ตอนนี้มันเป็นไปแล้ว และมันก็ไปได้สวยด้วย โดยเฉพาะผลงานในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา "ต่อพิฆาต" ถือเป็นตัวแปลสำคัญในหลายๆ เหตุการณ์ จนต้องใช้คำว่ามันคือ "ปรากฏการณ์ พีที ประจวบ เอฟซี"
พีที ประจวบ เอฟซี ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดในฐานะทีมลำดับสุดท้ายของตารางคะแนนไทยลีก 2 เมื่อฤดูกาล 2017 ก็คือเป็นที่ 3 นั่นแหละ ซึ่งแน่นอนก่อนเปิดซีซั่นก็ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งร่วงตกชั้นร่วมกับชัยนาท และ แอร์ฟอร์ซ อีกสองทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นมาด้วยกัน
แต่เมื่อการแข่งขันผ่านไป 8 เกม สองเดือนถ้วน หากเหลือบไปดูที่ตารางคะแนนปรากฏว่าทีม
"ต่อพิฆาต" ผงาดขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงได้อย่างเซอร์ไพรส์ เป็นรองเพียงแค่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าทีมเดียวเท่านั้น
ทั้งหมดทั้งมวลคงต้องยอกความดีความชอบให้กับผู้เล่นของทีมพีที ประจวบ ทุกคน และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ
"โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล (นามสกุลพี่วังเขียนแบบนี้นะครับ ไม่มีตัวการันต์ เห็นเขียนผิดกันเยอะเลยเอามาบอก) ผู้เป็นกุนซือ เฉกเช่นเดียวกับแฟนบอลชาวประจวบ ก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญกับผลงานของทีมในเวลานี้
ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 8 เกม พีที ประจวบ ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 20 เสีย 13 มีอยู่16 คะแนนเท่ากับการท่าเรือ และ สุโขทัย นี่ก็เป็นอีกทีมที่ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้ร้อนแรงไม่แพ้กัน แต่เอาไว้ก่อน ทั้งสามทีมมีแต้ม ป็นรองจ่าฝูงปราสาทสายฟ้าอยู่ 6 คะแนน มันเป็นผลงานที่น่าประทับใจมาก
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาแมตช์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า
"ปรากฏการณ์ พีที ประจวบ เอฟซี" ก็คือเกมที่เปิดบ้านไล่ถล่มเอสซีจี เมืองทองฯ แชมป์ไทยลีก 4 สมัย ไป 6-1 เห็นสกอร์แล้วใครจะเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ ทีมน้องใหม่อัดรองแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วเอาซะกลับธันเดอร์โดมไม่ถูกเลยทีเดียว
และแมตช์นั้นเองที่ทำให้กุนซือกิเลนผยองอย่าง "โค้ชแบน" ต้องถึงกับประกาศลาออก ซึ่งแกก็คงจำฝังใจไปอีกนาน ถึงวันนี้ก็ยังไม่พร้อมกลับมารับงานกุนซือ
เด้งไปแล้วนะ 1 คน แมตช์ถัดมาติดๆ กัน ก็บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับกระต่ายแก้วถึงลีโอ สเตเดี้ยม 4-3 แม้ความพ่ายแพ้เกมนั้นจะยังไม่ทำให้ โจเซฟ เฟร์เรร์ กุนซือบีจี ตกงานในทันที แต่เกมต่อมาก็ไม่รอดเมื่อดันไปแพ้ทีมพัทยาต่ออีกนัด
และล่าสุดทีมประจวบก็บุกไปยำใหญ่แอร์ฟอร์ซ เพื่อนร่วมทีมน้องใหม่ด้วยกัน 3-1 เป็นเหตุให้โค้ชเตี้ย ถึงกับต้องรับผิดชอบผลงานเลยทีเดียว อะไรกันในเดือนๆ เดียว พีที ประจวบ มีเอี่ยวทำให้โค้ชตกงานไป 3 คน มันบ้าไปแล้ว
ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับศึกไทยลีกของเรา เพราะในทุกๆ ฤดูกาล มันจะต้องมีทีมน้องใหม่อยู่แล้วหนึ่งทีมที่จะทำผลงานได้เซอร์ไพรส์แบบนี้ ที่เขาเรียกกันว่า "น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์" อย่างปีที่แล้วก็เป็นอุบลฯ ที่ถ้าจำไม่ผิดเคยขึ้นไปเป็นจ่าฝูงด้วย แต่เลกสองผลงานดร็อปไปก็เลยจบกลางๆ ตาราง แต่ก็ถือว่าน่าพอใจ
ผิดกับสองทีมน้องใหม่ที่ขึ้นมาพร้อมกันอย่างชัยนาท และแอร์ฟอร์ซ ที่ดูแล้วน่าเป็นห่วงจริงๆ กับการที่จะต้องเป็นหนึ่งใน 5 ทีมที่ต้องกลับบ้านเก่าในฤดูกาลนี้
อย่างที่บอกไปจากผลงานทั้งหมดก็ต้องชื่นชมกุนซือใหญ่ของทีมอย่าง
"โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรองอ่องตระกูล ที่มีส่วนอย่างมากกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จากทีมน้องใหม่ที่เป็นทีมภูธร ทีมเล็กๆ ในศึกไทยลีก นักเตะก็โนเนม ไม่ได้เป็นแข้งชื่อดังระดับทีมชาติอะไร ตัวต่างชาติก็ไม่ได้เป็นบิ๊กเนม
แต่ส่วนผสมทั้งหมดกลับลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ นี่แหละมันคือการสร้างทีมฟุตบอลที่แท้จริง คุณไม่จำเป็นต้องมีนักเตะชื่อเสียงดังๆ หรือนักเตะที่เก่งเลิศเลอขนาดไหน เพียงแต่คุณใช้ทรัยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่า ใช้ให้ถูกวิธี รวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว แค่นั้นผลงานมันก็จะออกมาดีแน่นอน ผมรับประกัน
แต่อย่างไรก็ดีพีที ประจวบ เองก็คงจะลำพอง หรือประมาทอะไรไม่ได้ในฤดูกาลนี้ แม้ผลงานช่วงต้นจะทำได้ดี แต่ฟุตบอลลีกมันวัดกันยาวๆ หนทางยังอีกไกล เหลือโปรแกรมอีกตั้งยี่สิบกว่านัด อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ดังนั้นทีมพีที ประจวบ เองก็ต้องพยายามรักษาผลงานของตัวเองให้ดีแบบนี้ต่อไป จนจบฤดูกาล และผมเชื่อว่าทำได้ และมั่นใจด้วยว่าปีนี้ 5 ทีมตกชั้น ไม่มีชื่อของ "ต่อพิฆาต" อยู่ในนั้นแน่นอน
ชิชาริเต่า
