logo-heading

เวย์น รูนี่ย์ อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขียนคอลัมน์ผ่าน "เดอะ ไทมส์" ถึงเหตุการณ์ที่ตนเองโดนใบแดงไล่ออก เกมที่ทัพ "สิงโตคำราม" พ่ายแพ้ต่อ โปรตุเกส ในการดวลจุดโทษ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2006 โดยยอมรับว่าเป็นความรู้สึกเลวร้ายที่สุดของในชีวิตค้าแข้ง พร้อมเปิดใจถึงวีรกรรม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อดีตเพื่อนร่วมทีม ที่เข้ามายั่วยุอารมณ์ ก่อนมีช็อตที่กะพริบตาที่ดังไปทั่วโลกประหนึ่งว่าทำสำเร็จกับภารกิจทำให้ "เสี่ยรูน" โดนไล่ออก

รูนี่ย์ เล่ายาวว่า "มันเป็นการฟาวล์ชัดเจน คำพูดนี้ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เข้ามาตะคอกใส่ผม ดึงเสื้อผม และ ผลักอกผม การไปย่ำใส่ คาร์วัลโญ่ มันเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกขาดการยั้งคิด ผมรู้ทันทีว่ามันเป็นใบแดง และ ต้องกลับเข้ามาในห้องแต่งตัว มีจอเล็กๆให้นั่งชม" "ตอนนั้นผมคิดว่า ถ้าเราชนะผ่านเข้ารอบไปได้ ผมจะโดนแบนในรอบรองชนะเลิศ และ นัดชิงชนะเลิศ แต่ถ้าแพ้ มันจะเป็นความผิดของผม มันเป็นความรู้สึกเลวร้ายและแปลกประหลาดที่สุดของผมในชีวิตค้าแข้ง" "ผมเองมีโทรศัพท์อยู่ในมือ และ ได้รับข้อความมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ โรนัลโด้ ทำ เพราะเหตุการณ์นั้น โรนัลโด้ วิ่งไปถามผู้ตัดสิน ให้ไล่ผมออกจากสนาม ช่วงเวลานั้นผมไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาทำ แต่การได้นั่งในห้องแต่งตัวมันทำให้ผมสงบสติอารมณ์" "ผมถามตัวเองว่าถ้าเป็นผมจะทำแบบเดียวกันกับ โรนัลโด้ ไหม? ก็อาจจะ ผมจะไปเผชิญหน้ากับผู้ตัดสิน เพื่อทำให้แน่ใจว่าเขาต้องโดนไล่ออก เพราะถ้าเขาถูกใบแดง มันจะช่วยให้เราได้รับชัยชนะ แต่เอาจริงๆเกมนั้นผมพยายามทำให้ โรนัลโด้ โดนใบเหลืองจากจังหวะพยายามพุ่งล้มในครึ่งแรก ส่วนเรื่องที่เขากะพริบตา ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น มันไม่มีอะไร" "เมื่อผมสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ผมก็เดินไปเจอ โรนัลโด้ ตรงอุโมงค์ทางเดิน ผมรู้สึกว่ามันสำคัญที่ต้องพูดกับเขาแบบต่อหน้าในช่วงที่สถานการณ์มันยังคุกรุ่น เขามองผม เหมือนอยากให้ผมขอโทษ แต่ผมมีเพียงแค่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในหัว ผมเลยพูดว่า ฉันไม่ได้มีปัญหากับนาย ขอให้นายโชคดีกับทัวร์นาเมนต์นี้ และ เดี๋ยวรอเจอกันในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า จากนั้นพวกเราจะพาทีมเป็นแชมป์ลีกด้วยกัน"
logoline