อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ แนะนำแข้งช้างศึกรักษาความฟิตต่อเนื่องช่วงบอลลีกพักยาว เผยมีแผนเรียกนักเตะทีมชาติไทย เข้าแคมป์เก็บตัวในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ หากฟีฟ่าประกาศปฏิทินฟีฟ่าเดย์ในช่วงเดือนกันยายน กลับมาแข่งขันอีกครั้ง
อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องแผนการเตรียมทีมในปีนี้ว่า “จริงๆ แล้วถ้าในสถานการณ์ปกติเราจะต้องมีการฝึกซ้อมและเตรียมการแข่งขันกันอยู่ แน่นอนว่าทุกคนรู้สึกอึดอัดใจ ไม่ว่าจะเป็นตัวผมเอง และแฟนบอลทุกๆ ท่าน”
“แต่สถานการณ์แบบนี้อยากให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันให้กับทางภาครัฐ และอยากให้นักกีฬาทุกคนใช้โอกาสนี้ พัฒนาและขัดเกลาฝีเท้าตนเองให้ดียิ่งขึ้น”
“อาจจะมีปัจจัยหลายอย่างที่เราอาจจะไม่สามารถรักษาสภาพร่างกายของเราได้อย่างเต็มที่ ก็อยากให้ทุกคนพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ก่อน”
“ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ผมอยากให้นักกีฬาทุกคนฝึกฝนตนเอง ถ้าเหตุการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เราจะได้โชว์ศักยภาพของเราให้แฟนบอลได้เห็นอีกครั้ง และอยากให้แฟนบอลทุกคนอดทนรอ จะได้รับชมฟุตบอลที่สนุกสนาน ขอให้ทุกคนสู้ไปด้วยกันครับ”
นอกจากนี้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ยังเปิดเผยด้วยว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 เข้าสู่ภาวะปกติ และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ประกาศให้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์ในช่วงเดือนกันยายน (ระหว่าง วันที่ 31 สิงหาคม - 8 กันยายน ) กลับมาแข่งขันอีกครั้ง ต้องขอความร่วมมือจากสโมสรสมาชิก ในการปล่อยตัวนักกีฬา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโปแกรมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ในช่วงเดือนตุลาคม
“ผมอยากจะขอความร่วมมือจากสโมสรสมาชิก หากฟุตบอลกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้ง ในการปล่อยตัวนักกีฬา เพื่อให้เราได้วางแผนเก็บตัวหรืออุ่นเครื่อง เตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อีก 3 แมตช์สุดท้ายที่เหลือ มีความสำคัญกับทีมชาติไทยของเรามากๆ”
“ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 จะเข้าสู่ภาวะปกติหรือไม่ ซึ่งฟีฟ่าและเอเอฟซี จะประเมินสถานการณ์ต่อไป”
สำหรับ สถานการณ์การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง กลุ่ม จี นั้น ทีมชาติไทย ลงสนามไปแล้ว 5 นัด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 มี 8 คะแนน รั้งอันดับ 3 มีคะแนนตามจ่าฝูง 3 คะแนน โดยยังเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีก 3 นัด ประกอบด้วย เกมแรกพบกับ อินโดนีเซีย (เหย้า) เกมที่สองพบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เยือน) และปิดท้ายกับ มาเลเซีย (เหย้า)
