เหตุผลมันมี! ทำไมเด็กหงส์ (ส่วนใหญ่) ถึงไม่ชอบขี้หน้า แกรี่ เนวิลล์

หากเราเอ่ยปากถามแฟนบอล ลิเวอร์พูล ว่าใครคือนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหม็นขี้หน้ามากที่สุด เชื่อเลยว่าชื่อของ แกรี่ เนวิลล์ อดีตกัปตันทีม "ปีศาจแดง" ต้องโผล่ขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นๆ เผลอๆ จะเข้าป้ายเป็นที่ 1 เลยด้วยซ้ำ เพราะการกระทำ คำพูดต่างๆ นาๆ ของพี่แกมันล่อตีน "เดอะ คอป" สัสๆ

อย่างช่วงนี้พี่แกก็กำลังเมามันส์กับการปั่นกระแสในทวิตเตอร์ให้ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ยกเลิกกลายเป็นโมฆะไปเลย เพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตา "หงส์แดง" ชูถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ว่าแล้วขอรวบรวมเหตุผลหน่อยว่าทำไม แกรี่ เนวิลล์ ถึงกลายเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของเหล่า "เดอะ คอป"  

มีเลือดผีเต็มขั้น

แกรี่ เกิดและเติบโตในละแวกเมืองแมนเชสเตอร์ และเข้าร่วมทีมเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ชุดเยาวชน เรื่อยไปจนเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในปี 1992 ลากยาวจนแขวนสตั๊ดไปในปี 2011 เสร็จสรรพรวมแล้ว 19 ปีที่โลดแล่นอยู่บนฟลอร์หญ้าภายใต้สีเสื้อ "ปีศาจแดง" เพียงสโมสรเดียว ลงเล่นไปมากถึง 602 นัด มากสุดเป็นอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์สโมสร รองจาก ไรอัน กิ๊กส์, เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน, พอล สโคลส์ และ บิล โฟล์ค ฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เด็กที่เติบโตมาในละแวก แมนเชสเตอร์ ฝึกปรือฝีเท้ามากับทีมเยาวชนของ "ปีศาจแดง" ก่อนจะได้ขึ้นมาโลดแล่นในทีมชุดใหญ่นานเกือบ 20 ปี และได้รับเกียรติให้เป็นกัปตันทีมด้วย จะรักและบูชาสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบสุดหัวใจ  

เกลียดหงส์เข้าเส้น

หากรักเทิดทูลบูชา แมนฯ ยู ก็อาจจะดูไม่ได้มีอิมแพ็คอะไรมากมายให้แฟนหงส์แดงหม่นไส้หรือเหม็นขี้หน้ามากสักเท่าไหร่นัก เพราะแฟนผีแฟนหงส์ที่เป็นเพื่อนซี้กันก็มีเยอะแยะ แต่ แกรี่ นี่มีคาร์แร็คเตอร์ชัดเจนมากว่า "กูเกลียด ลิเวอร์พูล ชิพหายเลยโว้ย!" ถึงขนาดที่แฟนผีร่วมใจกันให้คำนิยามตัว แกรี่ เอาไว้ว่า "He is the Red and he hate scouser" ว่ากันว่า เนวิลล์ผู้พี่ เกลียด ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะเขาเติบโตมาในยุค 80 ซึ่ง "หงส์แดง" กำลังรุ่งเรือง แต่พี่แกดันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่เชียร์ แมนฯ ยู ทำให้สมัยนั้นโดนเพื่อนเด็กหงส์ข่มยับจนเป็นปม ซึ่ง แกรี่ เองก็เคยเล่าถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า "ผมโตมาในยุค 80 ช่วงที่ ลิเวอร์พูล กำลังครองบัลลังก์ เพื่อนส่วนใหญ่ที่โรงเรียนก็เป็นเด็กหงส์ทั้งนั้น ส่วนผมเป็นเด็กผีเต็มขั้นก็เลยโดนล้อเป็นประจำ เพราะตอนนั้นไม่ใช่ยุครุ่งเรืองของ แมนฯ ยูไนเต็ด" และคงเป็นเพราะปมในวัยเด็กนี้นี่แหละที่ทำให้ แกรี่ มีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ยูไนเต็ด เพื่อพาทัพ "ปีศาจแดง" กลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ และทวงบัลลังก์ยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษจาก ลิเวอร์พูล กลับมาให้ได้ ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทำมันได้สำเร็จ เหนือสิ่งอื่นใดคือทุกครั้งที่ แกรี่ ลงเล่นในศึก "แดงเดือด" เราจะเห็นได้ชัดว่าเขามีแพสชั่นกับเกมแบบสุดๆ วิ่งบ้าไล่จี้บดบี้ขยี้คู่แข่งเหมือนดูดม้ามา 2 เม็ดก่อนลงเล่น ซึ่งมันทำให้เห็นชัดว่าเขาเกลียด ลิเวอร์พูล เข้าเส้นขนาดไหน หนึ่งในวีรกรรมสุดแสบที่พิสูจน์ถึงความเกลียดชังนี้คือเกมแดงเดือดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2006 ที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ทำประตูชัยในนาทีสุดท้ายช่วยให้ "ผี" เชือด "หงส์" ไป 1-0 วีรกรรมที่ว่านั่นคือการดีใจแบบสุดพลัง ประหนึ่งว่าชาตินี้กูจะไม่ได้ดีใจอะไรแบบนี้อีกแล้ว ต่อหน้าเหล่าเดอะคอปที่ตามมาเชียร์ที่โรงละครแห่งความฝัน ซึ่งเจ้้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการดีใจแบบสุดเหวี่ยงในครั้งนั้นเอาไว้ด้วยว่า  "ผมจำได้ว่าช่วงท้ายเกม กิ๊กส์ ยืนอยู่ที่บอลแล้วเปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ เฟอร์ดินานด์ กระโดขึ้นโหม่งเข้าไป จากนั้นเสียงเฮก็ดังลั่นสนามราวกับสนามจะถล่ม และต่อจากนั้นสิ่งที่ผมทำก็มาจากสัญชาตญาณล้วนๆ ผมหันไปหาพวกแฟนหงส์ที่มุมธง และคิดว่า 'กูจะต้องวิ่งไปหาพวกมึง!'" "ผมวิ่งไปไกลพอประมาณ ผมแค่อยากปลดปล่อยสิ่งอยู่ในหัวออกมา เมื่อผมวิ่งไปถึงพวกแม่ง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ.. ไอ้พวกที่ร้องเพลงมา 89 นาที แม่งนิ่งเงียบ เงียบมากๆ เงียบราวกับเป็นใบ้กันหมด และนั่นคือหนึ่งในความรู้สึกที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลย ให้ตายเถอะ! สุดท้ายแม้ผมจะถูก เอฟเอ สั่งปรับ 5,000 ปอนด์ แต่ผมก็ยินดีจ่ายเพราะผมโคตรสะใจเลย จะปรับผมอีกร้อยครั้งก็ยอม ถ้าผมได้ทำแบบนี้อีก"  

บทสัมภาษณ์และการกระทำสุดกวนโอ๊ย

แน่นอนว่า ในเมื่อเป็นเด็กผีเข้าเส้น และเกลียดหงส์เข้าใส้ มันก็ต้องมีการให้สัมภาษณ์พูดจาจิกกัดกวนส้นตีนกันเป็นธรรมดา แต่ของ แกรี่ นี่มันไม่ค่อยจะธรรมดาเพราะพี่แกเล่นจัดหนักจัดเต็ม หาตีนจากเด็กหงส์ได้เก่งเชี่ยๆ ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว แกรี่ เนวิลล์ ถือเป็นหนึ่งในนักวิจารณ์น้ำดีคนนึงของ "สกาย สปอร์ต" เลยนะ ยกเว้นตอนที่ต้องพูดถึง ลิเวอร์พูล จะมีความกวนตีน และอคติอยู่หน่อยๆ ยิ่งหากเป็นการให้สัมภาษณ์หรือออกความเห็นนอกเวลางานในการเป็นนักวิจารณ์ให้ "สกาย สปอร์ต" แล้วด้วยเนี่ยนะยิ่งถึงพริกถึงขิงเข้าไปใหญ่ เดี๋ยวจะยกตัวอย่างให้ดูสักเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอละกัน เช่น "ผมมักพูดอยู่บ่อยๆ ว่าผมเกลียด ลิเวอร์พูล แต่ตอนนี้ผมว่ามันดูเบาไปแล้ว ตอนนี้ดีกรีความเกลียดมันซับซ้อนไปกว่านั้นอีก" หรืออย่างฤดูกาลที่แล้ว ช่วงที่แฟนหงส์กำลังเซ็งที่โดน แมนฯ ซิตี้ ปาดหน้าแซงคว้าแชมป์ไปในช่วงท้ายซีซั่น แกรี่ ก็ออกมาแหย่เหล่า เดอะคอป ที่กำลังเศร้าว่า "แมนฯ ยู จะกลับมาคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้ง ก่อน ลิเวอร์พูล ที่รอมาเกือบ 30 ปีแน่นอน และ โม ซาลาห์ ก็จะย้ายทีมด้วย ผมขอการันตีเลย" ไม่นานมานี้หลังมีกระแสว่า พรีเมียร์ อาจไม่แข่งต่อและจะยกแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล ไปเลย เนวิลล์ผู้พี่ ก็ได้หล่นความเห็นไว้ว่า "ดูจากแต้มที่นำห่าง ถ้าลีกจะตัดจบและยกแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล มันก็ได้นะ สมเหตุสมผลอยู่ แต่พวกเขาต้องฉลองแชมป์แบบไร้แฟนบอล ซึ่งผมจะรู้สึกเจ็บปวดน้อยกว่า อีกอย่างพวกเขาก็จะเป็นแชมป์ที่มีดอกจันแปะไว้ว่า 'แชมป์แข่งไม่จบ!' และเราก็จะเอาเรื่องนี้ไปแซวพวกเขาได้อีก 10-20 ปีเลย" ส่วนเรื่องการกระทำที่กวนโอ้ยล่อตีน ก็ล่าสุดเลยเพิ่งผ่านมาในนาน ก่อนจะประกาศเลื่อนเตะไปเพราะพิษโควิด เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังเกมที่พลิกล็อคที่สุดในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล บุกไปพ่ายทีมท้ายตารางอย่าง วัตฟอร์ด 3-0 พูลสวัสดิ์ โดนเปิดซิงความปราชัยนัดแรกในลีกฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อย พ้อมดับฝันการเป็นแชมป์ไร้พ่ายไปในตัว ซึ่ง แกรี่ ที่รอเวลานี้มานานก็อัพทวิตเตอร์ ทำหน้าตาอ้อนตีน ยิ้มแบบมีเลศนัยย์ พร้อมเปิดแชมเปญฉลอง เล่นเอาแฟนหงส์หลายคนเจ็บจี๊ดบาดลึกในใจ โดยที่ แกรี่ ไม่ต้องพูดอะไรเลยสักคำ https://youtu.be/U2lbhBPKI4M?t=9 และทั้งหมดนี้ก็คือวีรกรรมและสาเหตุที่ทำให้เหล่าสาวก "หงส์แดง" เหม็นขี้หน้า แกรี่ เนวิลล์ เข้าใส้ นี่ยิ่งถ้าไอ้ความพยายามปั่นให้การแข่งขันฤดูกาลนี้เป็นโมฆะในทวิตเตอร์ของพี่แกดันประสบความสำเร็จขึ้นมาด้วยเนี่ย ไม่อยากจะคิดเลยว่าสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คของพี่แกจะโดนเดอะคอปรุมถล่มแหลกขนาดไหน

ชิน ชินพัฒน์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมผ่านทางไลน์