logo-heading

อนาคตของ จอร์จินโญ่ กองกลางอิตาลีของ เชลซี ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามว่าเขาจะยังได้ไปต่อกับทัพ "สิงห์บลูส์" ในฤดูกาลหน้ารึป่าว? เพราะหลังจากพักเบรคโควิด พอกลับมาความสำคัญของเจ้าตัวก็ลดหายไปจนน่าตกใจ และเหมือนจะเป็นส่วนเกินของทีมด้วยซ้ำไป

  50 ล้านปอนด์ คือค่าตัวที่ เชลซี ควักจ่ายให้ นาโปลี เมื่อปี 2018 เพื่อกระชาก จอร์จินโญ่ มาคุมเกมแดนกลาง ซึ่งเขาเข้ามาพร้อมกับฮายาลูกรักของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือ เชลซี ในเวลานั้น เนื่องจากเคยร่วมงานกันมาก่อนที่ นาโปลี แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ซาร์รี่ ตะบี้ตะบันใช้ จอร์จินโญ่ ลงสนามแบบไม่สนใจว่านักเตะจะปรับตัวได้มั้ย หรือใครจะต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง หรือใครจะต้องขยับไปเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด ซาร์รี่ ไม่สนใจอี๋แxดอะไรทั้งนั้น รักลูกชายคนนี้อย่างมาก ส่งลงเล่นแม่งแทบทุกนัด แม้ฟอร์มการเล่นจะไม่เอาอ่าวเลยก็ตามที จนกระทั่งเริ่มโดนแฟนๆ เชลซี ร้องยี้ ว่าแบบนี้มันเกินไปหน่อยมั้ย  รอยร้าวระหว่าง ซาร์รี่-จอร์จินโญ่ กับ แฟนบอล ส่งผลให้บรรยากาศในทีมไม่ค่อยดีนัก แฟนบอลหาว่า ซาร์รี่ ลำเอียงเกินไป แต่ที่ทำให้หลายฝ่ายหงุดหงิดยิ่งกว่าคือการโยก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ดีกรีแชมป์โลก ไปเล่นเป็นตัวรุก กึ่งปีก ทั้งๆ ที่ในเวลานั้นหากพูดถึงกองกลางตัวรับจอมขยัน ก็องเต้ คือเบอร์ 1 ของโลกเลยด้วยซ้ำ พอโดนโยกย้ายตำแหน่งตามนิสัยของ ก็องเต้ แกไม่ปริปากบ่นอยู่แล้ว ยิ้มรับคำสั่ง แต่ผลงานมันดันไม่ดีเหมือนก่อน ก็แน่หละ กูถนัดตัดเกมวิ่งไล่บี้คู่แข่งแย่งบอล อยู่ๆ จะให้กูไปเล่นเกมรุกซะงั้น มันก็เลยทำได้ไม่ดี แถมผลงานโดยรวมของ เชลซี มันก็ไม่ได้ดีด้วย แต่สิ่งนึงที่ต้องชม จอร์จินโญ่ ก็คือ ช่วงแรกๆ ที่ย้ายมา ฟอร์มการเล่นไม่ดี โดนแฟนๆ ร้องยี้ แต่พี่แกก็ไม่เคยแสดงอาการต่อต้านแฟนบอลตัวเองเลยนะ ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เป็นมืออาชีพที่ดีคนนึง และสุดท้ายผลงานมันก็ดีขึ้นมาตามลำดับจริงๆ แต่หากถามว่าดีเทียบกับตอนที่ ก็องเต้ เล่นมั้ย มันก็ไม่ อย่างไรก็ตาม ซาร์รี่ ผู้เป็นกุนซือก็ให้เหตุผลว่าตามแท็คติกของเขาจำเป็นต้องใช้กองกลางอย่าง จอร์จินโญ่ สุดท้ายก็อย่างที่บอกครับ ในเมื่อผลงานโดยรวมของทีมมันไม่ดี สไตล์ไม่ถูกใจแฟนบอล ซาร์รี่ กับ เชลซี ก็มีอันต้องแยกทางกัน แม้จะคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาครองได้ก็ตามที การโบกมือลาจากไปของ ซาร์รี่ ทีแรกก็มีคำถามว่าจะเอาลูกรักอย่าง จอร์จินโญ่ ติดสอยห้อยตามไป ยูเวนตุส ด้วยมั้ย ซึ่งสุดท้ายคำตอบก็อย่างที่เราเห็นครับว่า ไม่! ทีนี้ปัญหามันก็มาตกอยู่ที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือคนใหม่ที่เข้ามารับไม้ต่อจก ซาร์รี่ นี่หละครับว่าจะเอาอย่างไรกับ จอร์จินโญ่ เสียงเรียกร้องถาโถมจากแฟนๆ ให้เอา เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กลับมาเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางเหมือนเดิม พลางจับ จอร์จินโญ่ ไปนั่งข้างสนาม ทว่าช่วงต้นฤดูกาล ก็องเต้ ดันได้รับบาดเจ็บซะอย่างนั้น ทำให้ แลมพาร์ด ตัดสินใจใช้แผนเดิมที่คล้ายๆ กับที่ ซาร์รี่ วางเอาไว้ นั่นทำให้หัวใจหลักในแดนกลางก็ยังคงเป็น จอร์จินโญ่ เหมือนเดิม แต่เป็น จอร์จินโญ่ เวอร์ชั่นที่เริ่มปรับตัวกับสไตล์ฟุตบอลอังกฤษได้แล้วนะ จังหวะเริ่มทัน ความผิดพลาดเริ่มน้อยลง จนได้รับความไว้วางใจมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่ แลมพาร์ด ตั้งให้เป็นรองกัปตันทีม เชลซี เลยด้วยซ้ำ ประกอบกับครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา ก็องเต้ เดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวหาย 3 วันดี 4 วันไข้ แลมพาร์ด เลยไม่ได้เรียกใช้งานแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ จอร์จินโญ่ ยึดตำแหน่งตัวจริงไปยาวๆ ทว่าพอติดพักเบรกโควิด มันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับ ก็องเต้ ที่ได้พักฟื้นร่างกายให้หายกลับมาฟิตเต็มที่อีกครั้ง แถมช่วงก่อนเบรคโควิดกองกลางดาวรุ่งอย่าง บิลลี่ กิลมอร์ ก็เริ่มได้รับโอกาสลงสนามบ้าง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีทีเดียว บวกกับ แลมพาร์ด ได้มีเวลาคิดวิเคราะห์แก้ไขปรับปรุงจุดบกพร่องของทีม ซึ่งเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงแท็คติกหลายๆ อย่างหลังกลับมาลงเตะอีกครั้ง จากที่เป็นคนสำคัญลงเล่นตัวจริงใน พรีเมียร์ลีก ไปถึง 24 นัด อยู่ๆ เจอพิษพักเบรคโควิดเข้าไป กลับมาอีกที จอร์จินโญ่ ก็กลายเป็นส่วนเกินของทีมไปซะงั้น เพราะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่นัดเดียวทั้งนั้น และก็เป็นเกมล่าสุดที่แพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปเละเทะ 3-0 ซะด้วย แถมไอที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเนี่ยก็เพราะ ก็องเต้ กับ กิลมอร์ มันดันเจ็บพร้อมกัน ฉะนั้นก็เป็นที่แน่ชัดแล้วหละว่า จอร์จินโญ่ ไม่ใช่คนสำคัญที่จำเป็นอีกต่อไปแล้วในทีมของ แลมพาร์ด คำถามคือต่อจากนี้อนาคตของ จอร์จินโญ่ จะเป็นอย่างไร? ว่ากันตามตรงผลงานของ ดาวเตะวัย 28 ปี ฤดูกาลนี้มันก็ไม่ได้แย่บัดซบอะไรสักเท่าไหร่เลยหนะ หนำซ้ำยังเป็นกองกลางที่ไว้ใจได้คนนึงของทัพ "สิงห์บลูส์" ด้วย ตอนนี้ จอร์จินโญ่ ก็คงนั่งงงพร้อมกับถามตัวเองอยู่ว่า กูทำอะไรผิด? แต่อย่างว่าแหละ โค้ชเป็นคนเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีม และแท็คติก ครั้งนึงแข้งระดีกรีแชมป์โลกอย่าง ก็องเต้ ยังเคยต้องหลีกทางให้ จอร์จินโญ่ เพราะแท็คติกของโค้ชเลย ทั้งที่ไม่ได้เล่นแย่อะไร ฉะนั้นครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่า จอร์จินโญ่ จะต้องตกไปเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ต่อจาก ก็องเต้, กิลมอร์, มาเตโอ โควาซิช และ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ในแท็คติกของ แลมพาร์ด บ้างเหมือนกัน ทั้งหมดทั้งมวลดูจากสถานการณ์แล้ว สรุปได้ว่า จอร์จินโญ่ คงหมดอนาคตกับ เชลซี แล้วหละ ถ้าไม่มีนักเตะตัวหลักเจ็บ โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแทบไม่มี ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะเป็นการขายทิ้ง ซื้อมา 50 ล้านปอนด์ ใช้ไป 2 ปี ขายได้สัก 40 ล้านปอนด์ มันก็ไม่เลวนะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรมากมาย. .. แล้วคุณหละคิดว่าอนาคตของ จอร์จินโญ่ กับ เชลซี จะเป็นอย่างไร  

ชิน ชินพัฒน์

logoline