logo-heading

หลังจากลงเล่นกับ ซันเดอร์แลนด์ ไป 79 นัด ใน 3 ฤดูกาล เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ ลิเวอร์พูล ในตอนนั้นก็ตัดสินใจทุ่มเงิน 20 ล้านปอนด์ สู่ขอ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เข้ามาร่วมทีม ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2011 พร้อมกับคำถามที่ว่า ไอหมอนี่มันเก่งพอจะอยู่กับ ลิเวอร์พูล หรอวะ? แล้วค่าตัว 20 ล้านปอนด์ เมื่อ 9 ปีที่แล้วก็ไม่ใช่ถูกๆ ซะด้วย แต่ก็ต้องอย่าลืมด้วยนะว่าตอนนั้นที่ "เฮนโด้" ย้ายเข้ามาเขาเพิ่งจะอายุ 21 ปีเท่านั้น ยังมีเวลาพัฒนาอีกเยอะ

  อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเวลาพัฒนาอีกเยอะ แต่ฟอร์มการเล่นในฤดูกาลแรกของเจ้าตัวกับทัพ "หงส์แดง" มันก็ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจนัก เหล่าเดอะคอป บางส่วนเริ่มร้องยี้ ไม่พอใจในตัวเขา แต่ "คิง เคนนี่" ก็ยังคงเชื่อมั่นและให้กำลังใจ และส่งลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ นั่นทำให้จบฤดูกาลแรกเจ้าตัวได้ลงเล่นไปถึง 48 นัดเลยทีเดียว และจบด้วยการคว้าแชมป์ ลีกคัพ มาครองได้จากการเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แต่แชมป์ถ้วยน้ำจิ้มอย่างลีกคัพ มันไม่เพียงพอต่อการยื้อตำแหน่งของ ดัลกลิช เพราะใน พรีเมียร์ลีก ดันจบอันดับที่ 8 ชวดคว้าโควต้าไปเล่นถ้วยยุโรปซะอย่างนั้น แถมยังเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 18 ปีอีกด้วย หลังจากที่ ดัลกลิช ผู้กระชากตัว เฮนเดอร์สัน เข้ามาร่วมทีมต้องหมดวาระไปเพราะทำอันดับได้ไม่ดีพอ คนใหม่ก็เข้ามานั่นคือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่มาพร้อมกับศิษย์รักจาก สวอนซี อย่าง โจ อัลเลน หนำซ้ำยังมี จอนโจ้ เชลวี่ กับ นูริ ซาฮิน อีกด้วย นั่นทำให้ เฮนเดอร์สัน เริ่มหมดความสำคัญ คู่ขาของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เริ่มสลับหมุนเปลี่ยนเวียนไป และสุดท้าย "บีร็อด" ก็ตัดสินใจว่า "เฮนโด้" คือส่วนเกินของทีม เพราะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนโปรดของ ร็อดเจอร์ส ช่วงซัมเมอร์ปี 2012 เฮนเดอร์สัน ได้รับการทาบทามจาก ฟูแล่ม ซึ่ง บีร็อด ไฟเขียวสดใสให้ย้ายไปได้เลย เชิญ แต่เจ้าตัวตัดสินใจที่จะขออยู่สู้ต่อ แม้ว่าจะต้องเป็นตัวสำรองก็ตามที ซึ่งเลือดนักสู้ที่มีอยู่ในตัว บวกกับความสามารถที่พยายามพัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เขานำความผิดหวังแปลเปลี่ยนเป็นพลัง แปลเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั้น และท้ายที่สุดมันก็สามารถเอาชนะใจ ร็อดเจอร์ส ได้สำเร็จ  ฤดูกาล 2013/14 เขากลายเป็นกองกลางตัวหลักของทีม ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ และเกือบสร้างประวัติศาสตร์พาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ แต่ก็ดันไปสะดุดม้าตายในช่วงท้าย โดน แมนฯ ซิตี้ ปาดหน้าเข้าป้ายไป แต่ซีซั่นนั้นก็ถือเป็นปีที่เขาเริ่มพิสูจน์ตัวเองให้ "เดอะ คอป" เห็นบ้างแล้วว่า ความทุ่มเทของเขานั้นเกินร้อย ซึ่งมันทำให้แฟนหงส์ เริ่มมอง เฮนโด้ ในด้านบวกมากขึ้น มากกว่าเดิมที่โดนด่าว่า เด็กเส้นดัลกลิช, 20 ล้านซื้อขยะ หรือ อาแปะ แปะบอลไปมาคืนหลัง หลังจบฤดูกาล 2013/14 ดาเนียล แอคเกอร์ ย้ายออกไปจากทัพ "หงส์แดง" ทำให้ตำแหน่งรองกัปตันทีมนั้นว่างลง ซึ่งสุดท้าย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ และใช่ครับ กลางปี 2015 เฮนเดอร์สัน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล แทนที่ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ย้ายออกไปอยู่กับ แอลเอ แกแลกซี่ กราฟชีวิตที่ดูไร้อนาคตของ "เฮนโด้" เมื่อปี 2012 ที่เป็นส่วนเกิน จะโดนขายทิ้งให้ฟูแล่ม แต่เจ้าตัวปฏเสธและขออยู่สู้ แม้จะต้องเป็นตัวสำรองหรือส่วนเกิน ตอนนี้มันประสบผลแล้ว ผ่านไปจากวันที่โดนเร่ขายทิ้งไปแค่ 3 ปี อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นกัปตันทัพ "หงส์แดง" ซะอย่างงั้น แต่จะว่าไปทางเดินของ เฮนโด้ ในตอนนั้นมันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะครับ เพราะ "พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง" เฮนเดอร์สัน โดนแฟนบอลคู่แข่งเยาะเย้ยถากถางอย่างหนัก ประมาณว่า ลิเวอร์พูล มึงมีกัปตันทีมดีสุดแค่นี้หรอวะ ดูปวกเปียกหน่อมแน้ม ไม่เห็นจะมีความเป็นผู้นำตรงไหนเลย แล้วมันก็ไม่ใช่แค่แฟนบอลทีมคู่แข่งนะครับ แฟนหงส์แดงเองตอนนั้นก็มีที่ไม่สนับสนุนเช่นกัน ซึ่งหากเป็นคนอื่นอาจจะกดดัน ท้อ เซ็ง เศร้า ห่อเหี่ยว ไปต่อไม่ไหว หมดกำลังใจ หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่ความรู้สึกเหล่านั้นใช้กับ เฮนโด้ ไม่ได้! เฮนเดอร์สัน อาจจะไม่ใช่กัปตันทีมที่เก่งเหมือน อลัน แฮนเซ่น ไม่ใช่สายบู๊ลุยแหลกเหมือน แกรมม์ ซูเนสส์ หรือไม่ใช่กัปตันลูกหม้อเหมือน สตีวี่ จี แต่สิ่งที่เขามีคือความมุ่งมั่นและเป็นศูนย์กลางซื้อใจเพื่อนร่วมทีม ผสานเพื่อนๆ ให้เป็นปีกแผ่นเดียวกันซึ่งแม่งตรงตามปรัชญาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป๊ะๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม พอ คล็อปป์ เข้ามา เฮนโด้ ถึงโดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เฮนเดอร์สัน เหมือนเป็นกองกลางตัวปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง อาจจะดูไม่สำคัญ ไม่ต้องมีก็ได้ แต่พอไม่มีก็เป็นเรื่องทุกที เผลอๆ สำคัญกว่าการขาด 3 แนวรุกไปซะอีกด้วยซ้ำ จากเด็กดาวรุ่งต๊อกต๋อยของ ซันเดอร์แลนด์ โดน คิง เคนนี่ ซื้อมาชุบเลี้ยง พร้อมความกดดันที่มากมายมหาศาลเกินกว่าที่เด็ก 21 ปี จะรับได้ แต่ เฮนโด้ ก็สู้ พอมาเจอ กุนซือใหม่อย่าง บีร็อด เจอหน้าปุ๊ปไม่ถูกชะตา โดนจับไปเป็นตัวสำรอง แถมพร้อมจะขายทิ้ง แต่ก็สู้ยืนยันจะอยู่ต่อ จนกระทั่งได้ใจโค้ช และปัจจุบันคือกัปตันทีมคนสำคัญที่ซอยเท้าพาทัพ "หงส์แดง" ชูถ้วยแชมป์ยุโรป และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขอคาราวะในความใจสู้ของคุณ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน  

ชิน ชินพัฒน์ 

logoline