logo-heading

ทัพชบาแก้ว ลงเล่นด้วยความมุ่งมั่น ก่อนจะอาศัยทีมเวิร์กและชั้นเชิงที่เหนือกว่าชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 พร้อมได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก  รอบสุดท้าย ที่ประเทศฝรั่งเศส ปี 2019 ซึ่งเป็นการโลดแล่นรายการนี้ 2 สมัยติดต่อกันอีกด้วย

ฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายในกลุ่มเอ ประจำวันที่ 12 เมษายน  ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ณ สนาม คิงส์ อับดุลลอห์ ประเทศจอร์แดน เงื่อนไขการเข้ารอบฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ถ้าหาก ทัพสาวไทย เก็บผลเสมอได้อย่างน้อยในเกมนี้ จะไปโลดแล่นรอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส ปีหน้าทันที ครึ่งแรก นาที 27 ทีมไทย มาได้จุดโทษ ธนีกาญจน์ แดงดา หาจังหวะยิงหน้าเขตโทษ บอลไปโดนแขน ทาห์ไน อันนิส กัปตันทีมฟิลิปปินส์ ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกจุดโทษทันที และเป็น กาญจนา สังข์เงิน รับหน้าที่สังหารเข้าไป ทีมชาติไทยขึ้นนำฟิลิปปินส์ 1-0 ในนาที 28 หลังเสียประตู ฟิลิปปินส์ พยายามหาจังหวะเล่นลูกโด่งโจมตีไทย แต่สุดท้ายทำอะไรทัพชบาแก้วไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก แข้งสาวลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา นำก่อน 1-0 กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง นาที 53 เหล่าชบาแก้ว ได้เริงร่า สุชาวดี นิลธำรง พาบอลมาทางริมเส้นเปิดไปที่จุดนัดพบในเขตโทษ กาญจนา แปเน้นๆเข้าไป ทีมไทย นำห่างฟิลิปปินส์ 2-0 นาที 62 ทัพสาวไทย มาได้ประตูทิ้งห่าง 3-0 ศิลาวรรณ อินต๊ะมี ยิงฟรีคิกลูกโค้งเข้าประตูไป ช่วงทดเจ็บนาที90+3 เจซซี่ ชุค ของฟิลิปปินส์ มาทำประตูปลอบใจ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น จบเกมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชนะฟิลิปปินส์ 3-1 ตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเวิลด์ คัพ 2019 ที่ฝรั่งเศส เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันได้สำเร็จ เป็นชาติที่สองต่อจากจีน ที่ถล่มจอร์แดน 8-1 นอกจากนี้ทัพชบาแก้ว ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ ไปรอพบแชมป์กลุ่มบี ในวันอังคารที่ 17 เมษายนนี้ ในเวลา 20.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งต้องลุ้นกันระหว่างญี่ปุ่น,ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ 11 ตัวจริงทีมชาติไทย : วราภรณ์ บุญสิงห์ (GK), วารุณี เพ็ชร์วิเศษ, ดวงนภา ศรีตะลา, ณัฐกานต์ ชินวงษ์, สุนิสา สร้างไธสง, พิกุล เขื่อนเพ็ชร์, พิสมัย สอนไสย์, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, ธนีกานต์ แดงดา, กาญจนา สังข์เงิน,สุชาวดี นิลธำรงค์
logoline