logo-heading

เป็นไปตามที่คาดเอาไว้เมื่อ บาร์เซโลน่า ได้ประกาศแต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน ให้เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่แทนที่ กีเก้ เซเตียน ที่ตกงานไปก่อนหน้านี้

หลายๆ คนรู้จัก โรนัลด์ คูมัน ดีอยู่แล้วเพราะเขาเป็นทั้งตำนานสมัยเป็นนักเตะและก็เป็นกุนซือที่ประสบการณ์โชกโชนอีกคน แต่วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ "รวมสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ โรนัลด์ คูมัน ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน"

ค้าแข้ง-คุม 3 ทีมดังลีก เอเรดิวิซี่

อย่างที่ทราบกันว่า โรนัลด์ คูมัน เป็นตำนานสมัยเป็นนักเตะและในเส้นทางสายกุนซือเขาก็เป็นผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์โชกโชนอีกคนนึงของวงการ รู้หรือไม่ว่า เขาเป็นคนเดียวในฮอลแลนด์ที่เคยผ่านการค้าแข้งและคุมทีม 3 ทีมใหญ่ของลีก เอเรดิวิซี่ ซึ่งได้แก่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, เฟเยนูร์ด และ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น โดยสมัยเป็นนักเตะเล่นให้ อาแจ็กซ์ ตั้งแต่ปี 1983-86 ลงเล่นไป 104 เกม ยิงได้ 30 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ 2 โทรฟี่ ถัดมาที่ปี 1986-89 ลงเล่นให้ พีเอสวี 130 เกม ยิงได้ 63 ประตู คว้าแชมป์ 6 โทรฟี่ ส่วน เฟเยนูร์ด คือสโมสรสุดท้ายในอาชีพของ โรนัลด์ คูมัน ลงเล่นไป 79 นัด ยิงได้ 23 ประตู ตลอด 2 ซีซั่นตั้งแต่ปี 1995-97 ตัดภาพกลับมาสมัยเป็นผู้จัดการทีม โรนัลด์ คูมัน พา อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ 4 โทรฟี่ ในช่วงปี 2001-05 คุมไป 151 เกม ชนะ 94 เสมอ 30 แพ้ 27 นัด มี Win Rate อยู่ที่ 62.25% ถัดมาช่วงปี 2006-2007 เจ้าตัวได้โอกาสคุมทีม พีเอสวี 63 เกม ชนะ 39 เสมอ 11 แพ้ 13 นัด มี Win Rate อยู่ที่ 61.9 % พาทีมคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย ก่อนที่ปี 2011-14 โรนัลด์ คูมัน จะเข้ามาคุม เฟเยนูร์ด เขาบัญชาทัพไปทั้งหมด 114 เกม ชนะ 65 เสมอ 22 แพ้ 27 นัด มี Win Rate อยู่ที่ 57.02% 

กองหลังจอมถล่มประตู

ถ้าคุณจะถามว่าในประวัติศาสตร์โลกหนังกองหลังคนไหนที่สามารถยิงประตูได้เยอะที่สุด คำตอบก็คือ โรนัลด์ คูมัน คนนี้นี่แหละ คุณฟังไม่ผิดหรอก เขาคือกองหลังจอมถล่มประตูที่ยังครองสถิติ นัมเบอร์ วัน บนสังเวียนลูกหนังที่ 253 ประตู ทิ้งอันดับ 2 อย่าง ดาเนี่ยล พาสซาเรลล่า ตำนานของ ริเวอร์ เพลท อยู่ถึง 78 ประตูด้วยกัน นับเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมกว่าตำนานกองหน้าหลายๆ คนเสียอีก โดยสมัยเป็นนักเตะ โรนัลด์ คูมัน เป็นกองหลังประเภท สวีปเปอร์ เป็นตัวคอยปัดกวาดซึ่งจะยืนอยู่หน้าตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่ คูมัน มักชอบเติมเกมขึ้นไปทำประตูอยู่บ่อยๆ แถมยังมีความฉมังและโปรเฟสชั่นแนลมากๆ เรื่องลูกนิ่งทั้งจุดโทษและลูกฟรีคิก

แชมป์ยุโรปสมัยแรก

บาร์เซโลน่า ปัจจุบันพวกเขาถูกจารึกไว้ว่าเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปัจจุบันที่ 5 สมัยด้วยกัน ถ้าจะพูดถึงความทรงจำระหว่างตัว โรนัลด์ คูมัน กับถ้วยใบใหญ่ของยุโรปภาพที่น่าจดจำที่สุดก็คือฤดูกาล 1991-92 เพราะเขาคือผู้ยิงฟรีคิกเป็นประตูชัยในนาที 112 พา บาร์เซโลน่า เอาชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 ณ สังเวียน เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม พร้อมกับคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และนั่นทำให้แฟนๆ บาร์เซโลน่า ตั้งฉายาให้เขาว่า Floquet de Neu (ฟลอเกต์ เดอ นู) เป็นชื่อของ กอริลล่าเผือก ในสวนสัตว์ของเมือง บาร์เซโลน่า

ครอบครัวนักฟุตบอล

โรนัลด์ คูมัน เป็นบุคคลในวงการลูกหนังอีกคนที่เกิดและเติบโตมาในตระกูลนักฟุตบอล เขามีพี่ชายคนนึงชื่อว่า เออร์วิน คูมัน ทั้ง โรนัลด์ และ เออร์วิน ต่างก็โตมาจากสโมสรแรกเริ่มนั่นคือ โกรนิงเก้น ทั้ง 2 คนไม่เคยลงสนามพร้อมกันในระดับสโมสร แต่พวกเขาทั้ง 2 คือส่วนหนึ่งของ ทีมชาติฮอลแลนด์ ชุดคว้าแชมป์ ยูโร ปี 1988 ที่ เยอรมัน เป็นเจ้าภาพ ก่อนที่ช่วงปี 2014-16 ทั้ง โรนัลด์ และ เออร์วิน จะได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งที่ เซาธ์แฮมป์ตัน โดยตัวของ โรนัลด์ เป็นกุนซือและ เออร์วิน เป็นผู้ช่วย เท่านั้นยังไม่พอนะ คุณรู้หรือไม่ว่า มาร์ติน คูมัน ผู้เป็นพ่อก็เคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อนเช่นกัน และส่วนใหญ่ก็จะโลดแล่นอยู่ใน เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ และก็เคยเป็นอดีตนักเตะของ โกรนิงเก้น ด้วยเช่นกัน >>> จำลองการจัดทัพ! ของ บาร์เซโลน่า ภายหลังจ่อตั้ง คูมัน เป็นกุนซือคนใหม่

หักอก "สิงโตคำราม"

ย้อนกลับไปสมัย ฟุตบอลโลก ปี 1994 รอบคัดเลือก โรนัลด์ คูมัน ก็เคยสร้างตำนานและภาพจำเอาไว้นั่นคือการหักอก ทีมชาติอังกฤษ ไม่ให้ไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เงื่อนไขในวันนั้นทัพ "สิงโตคำราม" จำเป็นต้องบุกไปเก็บชัยชนะให้ได้หากหวังตีตั๋วไปผจญภัยในทัวร์นาเมนต์ที่ สหรัฐอเมริกา แต่สุดท้ายผลปรากฏว่า ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายกดไป 2-0 ซึ่งความได้เปรียบของ ฮอลแลนด์ในเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 59 เมื่อ เดวิด แพลตต์ ทำโปรเฟสชั่นแนล ฟาวล์ จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป ก่อนที่สุดท้าย โรนัลด์ คูมัน จะสังหารลูกฟริคิกบริเวณหัวกระโหลกเข้าไปไม่พลาด

ท่าดีใจสุดแสบ

โรนัลด์ คูมัน หลายคนคงรู้ดีว่าเขาเป็นคนตลกและเป็นคนที่อารมณ์ดีคนนึงในวงการลูกหนัง แต่ถ้าย้อนกลับไปสมัยเป็นนักเตะเจ้าตัวก็มีวีรกรรมสุดแสบอยู่เหมือนกัน มันเกิดขึ้นในศึกฟุตบอล ยูโร 1988 รอบรองชนะเลิศ เมื่อ ทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายเอาชนะเจ้าภาพ ทีมชาติเยอรมันตะวันตก ได้ 2-1 ซึ่งเกมนั้น โรนัลด์ คูมัน เป็นคนยิงจุดโทษนาที 74 เป็นประตูตีเสมอ 1-1 โดยหลังจบเกม คูมัน เอาเสื้อของ โอลาฟ โธน ที่แลกมา เอามาเช็ดก้นต่อหน้าแฟน ๆ ในสนาม โฟล์คพาร์คสตาดิโอน เป็นการฉลองด้วยความสะใจ และก็โดนวิจารณ์มากมายถึงความเหมาะสม ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาขอโทษในภายหลัง 

สมัยค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า

ก่อนถูกแต่งตั้งให้เข้ามากุมบังเหียนโคตรทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ย้อนกลับไปสมัยเป็นนักเตะ โรนัลด์ คูมัน ก็เคยใช้ชีวิตในรั้ว คัมป์ นู มาก่อน ตั้งแต่ช่วงปี 1989-95 ได้ลงเล่นไป 264 เกม ยิงได้ 88 ประตู ขอย้ำอีกทีว่าลุงแกเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังนะ สถิติตัวเลขมันสวยกว่ายอดกองหน้าหลายๆ คนเสียอีก นอกจากนี้ โรนัลด์ คูมัน ยังเป็นส่วนสำคัญที่พา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ลา ลีกา 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย, ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า 3 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย และ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า โรนัลด์ คูมัน จะไปได้สวยขนาดไหนกับบทบาทนายใหญ่คนใหม่ป้ายแดงของ บาร์เซโลน่า เขาจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ภายในทีม และพาทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งได้หรือไม่ ? 

HaMu Dos Santos (หมู ขอบสนาม)

ส่วนหนึ่งของข้อมูล : todayonline ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline