logo-heading

ไม่มีอะไรพลิกล็อคสำหรับคู่ชิงชนะเลิศศึกกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ หลังจาก บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะ โอลิมปิก ลียง ไปได้สำเร็จ 3-0 ประตู ในรอบรองชนะเลิศ ลิ่วเข้าสู่รอบชิง ไปดวลกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และนี่เป็น 6 ประเด็นเด็ดหลังเกมนัดนี้ที่ขอบสนามนำมาฝากกัน

 

1.การจัดทีม

แม้จะลงเล่นถี่มากในช่วงนี้ แต่การที่ ลีกเอิง ประกาศตัดจบไปก่อนใครเพื่อนด้วยพิษโควิด ทำให้นักเตะของ โอลิมปิก ลียง ได้พักเยอะกว่าใคร จึงฟิตสุดๆ ไม่มีตัวเจ็บไม่มีตัวแบน ส่วนทางฝั่ง บาเยิร์น มิวนิค นั้น บุนเดสลีกา ก็แข่งขันจบครบเป็นลีกแรกจาก 5 ลีกดัง หลังกลับมาจากโควิด ซึ่งก็ทำให้นักเตะฟิตพร้อมเช่นกัน นั่นหมายความว่าทั้ง ฮันซี่ ฟลิค กุนซือ "เสือใต้" และ รูดี้ การ์เซีย เฮดโค้ช "โอแอ็ม" สามารถจัดทีมชุดที่ดีที่สุด ฟิตที่สุดลงเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งแน่นอนของ บาเยิร์น นั้นก็นำมาโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, โธมัส มุลเลอร์ และ แซร์จ นาบรี้ ขณะที่ทาง ลียง ก็มี เมมฟิส เดปาย เป็นตัวความหวัง ร่วมกับ ฮุสเซม อูอาร์ และ คาร์ล โตโก อีคัมบี  

2.ลียง เริ่มต้นได้ดีกว่าที่คิด

ก่อนเกมนี้จะเริ่มต้นขึ้น ด้วยฟอร์มการเล่นที่โคตรจะสะเด่าของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ถล่ม บาร์ซ่า มา 8-2 ทำให้หลายฝ่ายมองว่า "เสือใต้" นั้นเหนือกว่ามาก ถึงขนาดที่บ่อนรับพนันถูกกฏหมายออกราคามาให้ บาเยิร์น ต้องชนะขาด 3 เม็ด ถึงจะได้กินเต็มๆ คิดดูละกันว่ามันห่างชั้นกันขนาดไหน ทว่าบอลรอบรองถ้วยใหญ่แบบนี้ ลียง ก็ขอสู้ตายถวายหัว พวกเขาเริ่มต้นเกมด้วยความคึกคัก ไล่บีบเพรสซิ่งบี้เข้าใส่ บาเยิร์น มิวนิค แบบไม่ได้กลัวศักดิ์ศรีดีกรีแชมป์ บุนเดสลีกา นั่นทำให้ช่วง 15 นาทีแรกของเกม "เสือใต้" ออกอาการไปไม่เป็นเหมือนกัน ทว่าทางฝั่ง ลียง เองก็เขวี้ยงโอกาสทองที่จะออกนำทิ้งไปเองถึง 2 ครั้งเห็นๆ โดยก่อนจะโดนยิงขึ้นนำ 1 นาที คาร์ล โตโก อีคัมบี ก็เพิ่งจะหลุดไปยิงชนเสาอย่างน่าเสียดาย ถ้าลูกนั้นเปลี่ยนเป็นประตูขึ้นนำ ไม่แน่เราอาจเห็นคู่ชิงเป็น 2 ทีมจาก ลีกเอิง ฝรั่งเศส ไปแล้วก็เป็นได้  

3.แต่เมื่อทำไม่ได้ก็โดนลงโทษ

ในเมื่อบุกกดดันเพรสซิ่งเข้าใส่ มีโอกาสหลุดเดี่ยวไปยิง แต่ทำไม่สำเร็จ ขาดความเฉียบคมดีแต่ป้อล่อไม่เป็นแบบนี้ ก็เสร็จ บาเยิร์น จนได้ เรียกว่าตามสูตรสำเร็จเลย มีโอกาสก่อนแล้วทำเค้าไม่ได้ก็ต้องโดนลงโทษ ซึ่งทีมระดับ บาเยิร์น ไม่ปล่อยให้โอกาสทองแบบนี้หลุดมืออยู่แล้ว ซึ่งประตูขึ้นนำ 1-0 นี่ต้องชมการวางบอลยาวจากหลังมาให้ แซร์จ นาบรี้ จากนั้นอดีตแข้งอาร์เซน่อล ก็โชว์พริ้วแตะหนีผู้เล่น ลียง มา 3-4 คน ก่อนจะตะบันเข้าประตูไปอย่างสวยงาม   

4.พอโดนนำปุ๊ป เกมเปลี่ยนเลย

หลังโดนขึ้นนำแบบงงๆ เพราะกำลังเล่นดีกว่าแท้ๆ ผู้เล่นของ ลียง ก็ดูจะช็อค สติหลุดไปดื้อๆ เกมที่ดีกว่าก็กลายเป็นรองชัดเจน บาเยิร์น เล่นง่ายผ่อนคลายไร้ความกดดัน ต่างกับ ลียง ที่พยายามเร่งเกมจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เสียบอลง่ายเกินไป แล้วก็ทำให้ "เสือใต้" ได้สวนกลับน่ากลัวๆ หลายหน ซึ่งสุดท้ายก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 33 จากจังหวะที่ อิวาน เปริซิช หลุดไปในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนจะปาดเข้ากลางให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ชาร์จจ่อๆ แต่บอลพันแข้งพันขาตัวเอง ทว่าโชคยังดีที่สุดท้ายบอลกระเด็นไปเข้าทาง นาบรี้ วิ่งเข้ามาซัดหนีมือ แอนโธนี่ โลเปส เข้าประตูไป เป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ และก็เป็นประตูที่ 9 จาก 9 นัดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ด้วย หลังออกนำ 2-0 ก็ทำให้ บาเยิร์น เล่นสบายขึ้นเยอะ ส่วนผู้เล่น ลียง ก็เหมือนจะถอดใจยอมแพ้ซะแล้ว   

5.สถิติของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ช่วงท้ายเกม บาเยิร์น มิวนิค ก็มาได้ประตูย้ำชัยชนะปิดกล่อง จากการขึ้นเทคตัวโหม่งเต็มกะบาลของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำให้พี่แกซัดไปแล้ว 15 ประตู จากการลงเล่น 9 นัดใน แชมเปี้ยนสื ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำได้อย่างต่ำ 15 ประตู ในฤดูกาลเดียว โดยคนแรกและคนเดียวที่ทำได้ก่อนหน้านี้คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำได้ 3 ครั้ง (17 ประตูในฤดูกาล 2013/14, 16 ประตู ในฤดูกาล 2015/16 และ 15 ประตู ในฤดูกาล 2017/18) นอกจากนี้ เลวานดี้ ยังสร้างสถิติเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ยิงใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างต่ำ 9 นัดติดต่อกัน โดยก่อนหน้านี้มีแค่ รุด ฟาน นิสเตรลอย ที่ทำได้ 9 นัดติด เมื่อปี 2003 และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำได้ 11 นัดติด ในปี 2018  

6.คู่ชิงในฝัน

ชัยชนะของ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้พวกเขาได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งถือว่าเป็น "ดรีม ไฟนอล" หรือ คู่ชิงในฝัน เพราะก่อนเกมนี้ก็มีหลายฝ่ายที่กังวลว่าคู่ชิงปีนี้มันจะจืดชืดไปหน่อยถ้า 2 ทีมจาก ลีกเอิง ฝรั่งเศส จะต้องมาดวลกันเอง ซึ่งแน่นอนว่าเรตติ้งคงจะตกลงไปไม่น้อย แต่พอเป็น "เสือใต้" กับ เปแอสเช คนต้องรอติดตามมากขึ้นแน่ๆ เพราะถือว่าเป็น 2 ทีมที่มีเกมรุกที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยกันทั้งคู่ โดยนัดชิงชนะเลิศจ้าวยุโรป ฤดูกาลนี้จะตะบันแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคมนี้ ที่สนาม เอสตาดิโอ ดาลุซ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส รังเหย้าของสโมสร เบนฟิก้า   

ชิน ชินพัฒน์

logoline