logo-heading

ในที่สุด "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ก็ทำได้สำเร็จจนได้ คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน มาครองได้ชนิดที่ต้องลุ้นกันยันนัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยก่อนเกมนัดที่ 38 แอต.มาดริด มีคะแนนนำ เรอัล มาดริด อยู่ 2 คะแนนนั่นหมายความว่าเกมสุดท้ายในการบุกไปเยือนทีมหนีตกชั้นอย่าง เรอัล บายาโดลิด แค่ชนะก็จบคว้าแชมป์ ดูจะเป็นโจทย์ที่ง่ายๆ

  ทว่าพอเอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ง่ายเลย เพราะดันโดน บายาโดลิด ยิงขึ้นนำก่อนตั้งแต่ 18 นาทีแรก แต่สุดท้ายในครึ่งหลังก็รัว 2 เม็ดแซงเอาชนะคว้าแชมป์ไปได้ แล้วเม็ดที่ 2 ประตูชัยนั้นก็มาจาก หลุยส์ ซัวเรซ อดีตกองหน้าแชมป์ ลา ลีกา ที่ บาร์ซ่า คิดว่าหมดไฟไปแล้ว เอาจริงๆ หากย้อนกลับไปมองผลงานของ หลุยส์ ซัวเรซ ตลอด 6 ปี นับตั้งแต่ย้ายจาก ลิเวอร์พูล มาอยู่กับ บาร์เซโลน่า นอกจากอายุที่แตะหลัก 30 กว่าแล้ว ยังไม่เห็นตรงไหนที่ไม่คู่ควรจะอยู่กับ บาร์ซ่า ต่อเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นเพื่อนซี้ ลิโอเนล เมสซี่ เข้าขารู้ใจ มีความเป็นมือออาชีพ แล้วก็ไม่ได้เจ็บหนักบ่อย คือเอาง่ายๆ 6 ปีนี้ที่อยู่กับ บาร์ซ่า ลงมากลงน้อยก็การันตี 20 ประตูอัพ แต่แม้ 6 ปีที่ผ่านมาจะทำผลงานได้ดีแทบไม่มีที่ให้ติติงอะไร ทว่าดูเหมือนว่า “โนบิตะ” โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว อดีตประธานสโมสร บาร์เซโลน่า จะไม่ชอบขี้หน้า "หม่อมกัด" ซะอย่างงั้น ส่วนนึงเพราะอายุเริ่มเยอะ แล้วก็มีเด็กใหม่เติบโตขึ้นมาแทนที่ และที่สำคัญก็คือเรื่องการเมืองภายในของสโมสร ที่ด้วยความที่เขาซี้กับ เมสซี่ ที่เป็นอริกับ บาร์โตเมว ท่านประธานคนนี้ก็เลยพยายามเขี่ยไปให้พ้นทาง อีกส่วนก็เรื่องของค่าเหนื่อยที่มองว่าแพงเกินไป ท้ายสุด "โนบิตะ" ก็จัดการเฉดหัว หัวหอกทีมชาติอุรุกวัยทิ้งไป โดยคิดว่าไอ้หมอนี่หมดพิษสงแล้ว ปล่อยให้ แอต.มาดริด เอาไปแบบไม่ได้สนใจใยดีอะไร แต่ที่ไหนได้นี่คือการยื่นหอกให้ศัตรูแบบไม่รู้ตัวชัดๆ 36 นัด 21 ประตู คือผลงานในฤดูกาลสุดท้ายของ หลุยส์ ซัวเรซ กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งก็ยังงงกันอยู่ว่ามันไม่ดีพอที่จะอยู่ต่อตรงไหน? แต่ไม่เป็นไรสุดท้ายมึงอยากให้กูย้ายออก กูก็ออกก็ได้ แล้วเลยย้ายมาอยู่กับ "ตราหมี" หนึ่งในบิ๊กทีมของ ลา ลีกา ซึ่งเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์มันซะเลย พร้อมได้เงินค่าตัวที่ต้องบอกว่าโคตรถูกคือ 6 ล้านยูโร เท่านั้น ซึ่งจะว่าไปตอนแรก บาร์ซ่า ก็ไม่ได้สนใจอะไร ไม่ได้คิดหรอกว่า ซัวเรซ จะระเบิดฟอร์มยิงยับแล้วเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ แอต.มาดริด คว้าแชมป์มาครองได้ มองแค่ว่า โละเสี้ยนหนามที่เป็นดาวยิงสูงอายุค่าตัวแพง แถมยังได้เงินขวัญถุงมาอีกเล็กน้อยด้วย ก็ถือเป็นธุรกิจที่ไม่เลว ในวัย 33 ปีตอนที่ ซัวเรซ ย้ายมาอยู่กับ "ตราหมี" ใครๆ ก็คิดว่า ซัวเรซ หมดแล้วหละ คงไม่ได้จะเก่งกาจอะไร แม้จะยิงให้ บาร์ซ่า ในฤดูกาลสุดท้ายได้ถึง 21 ลูก แต่ก็คงเป็นเพราะเพื่อนปลุกปั้น ความเฉียบคมไม่เหมือนเดิม ทว่าพอเอาเข้าจริงๆ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย  ต้องยอมรับกันตามตรงว่า ทีมสนับสนุน ซึ่งหมายถึงศักยภาพของเพื่อนร่วมทีมทัพ "ตราหมี" นั้นมันไม่ได้ดีเท่า บาร์ซ่า บวกกับแผนการเล่นของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ผู้เป็นกุนซือก็ไม่ได้เอื้ออำนวยให้เล่นเกมรุกบุกเข้าใส่อีกด้วย แต่ก็ต้องขออวย ซัวเรซ เลยว่าพี่แกปรับตัวได้ดีทีเดียว ไม่บุกไม่เป็นไรพยายามปรับตัวเข้าหาให้เข้ากับแผนของโค้ช ด้วยความเป็นมืออาชีพ จนกระทั่งปรับตัวได้ จากนั้นก็กลายเป็นกำลังสำคัญที่ แอต.มาดริด จะขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว 21 ประตูจาก 32 นัด ใน ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประตูชัยในนัดสุดท้ายดับ เรอัล บายาโดลิด ทำให้ แอต.มาดริด คว้าแชมป์มาครองได้ น่าจะเป็นคำตอบพร้อมกับตอกหน้า บาร์ซ่า ได้แล้วว่า "มึงคิดผิด" ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อนซี้กัปตันทีม บาร์เซโลน่า คงจะยินดีกับ ซัวเรซ เพื่อนรัก แต่แฟนๆ บาร์ซ่า คงหงุดหงิดพอตัวที่ทีมดันโง่ปล่อยหอกระดับนี้ให้คู่แข่งแถมมันยังทิ่มแทงเข้าให้แบบชัดๆ  หากจะมองข้อดีอย่างเดียวในมุมของแฟนบาร์ซ่าที่ปล่อย ซัวเรซ ออกมาให้กับ แอต.มาดริด ก็คงจะเป็นที่ช่วยให้ เรอัล มาดริด อริอันดับ 1 ไม่ได้แชมป์ แค่นั้นแหละ แต่ถ้ารู้แบบนี้แล้วย้อนเวลากลับไปได้ บอร์ดบริหารชุดเก่าที่นำโดย โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว คงไม่ปล่อย ซัวเรซ ออกจากทีม ถ้าเก็บไว้เผลอๆ อาจได้แชมป์ในฤดูกาลนี้ไปแล้วก็เป็นได้ เพราะนอกจาก เมสซี่ ไอ้พวกแนวรุกที่โผล่เข้ามาทั้ง อุสมาน เดมเบเล่, อ็องตวน กรีซมันน์ หรือ เปดรี้ ก็ยังไม่ได้ดีเทียบเท่า ซัวเรซ ในวัย 34 ปีสักคนเลย "บาร์ซ่าไม่ให้ค่าผมและแอตเลติโก้เปิดประตูต้อนรับผม มันเป็นความรู้สึกยอดเยี่ยมกับสโมสรแห่งนี้ ซึ่งมีความจริงใจให้กัน" นี่คือหนึ่งในประโยคที่ ซัวเรซ กล่าวทั้งน้ำตาหลังพา ตราหมี คว้าแชมป์ ท้ายสุดแล้ว ก็คงต้องขอย้ำแล้วย้ำอีกให้แฟนๆ บาร์ซ่า ช้ำใจเล่นๆ ว่าคุณได้ยื่นหอกให้ศัตรูแบบที่คุณก็รู้ตัว แต่คุณดันคิดว่าหอกนั้นมันหมดพิษสงหมดความคมไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ไม่ใช่เลย ซัวเรซ ยังคงเป็น ซัวเรซ คนเดิมที่คมกริบและสร้างความแตกต่างได้เสมอ เขาเป็นกำลังสำคัญพา "ตราหมี" คว้าแชมป์ ลา ลีกา มาครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ซึ่งมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย หากปราศจากจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่ชื่อว่า หลุยส์ ซัวเรซ   

ชิน ชินพัฒน์

 
logoline