logo-heading

คอสตาส ซิมิกาส แบ็กซ้ายทีมชาติกรีซ กำลังพิสูจน์ตัวเองให้เห็นอยู่เรื่อยๆว่า ฟอร์มการเล่นของเขา ดีพอที่จะลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล และ สามารถกดดันใส่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ต้องร้อนๆหนาวๆ เพราะหากไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ ก็มีโอกาสถูกเบียดไปนั่งข้างสนามอยูเหมือนกัน

ถึงแม้ว่า ร็อบโบ้ จะมีผลงานอันเป็นประจักษ์ เป็นหนึ่งในดีลที่คุ้มค่าที่สุดของ หงส์แดง เพราะไปซื้อตัวมาจาก ฮัลล์ ซิตี้ แค่ 8 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตามไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าไปตลอด ช่วงหลัง โรเบิร์ตสัน เริ่มมีอาการบาดเจ็บ และ ผลงานแผ่วๆลงไป

ทำให้ ซิมิกาส ได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น และ ผลงานกลับโดนใจสาวก เดอะ ค็อป เหลือเกิน ถึงขั้นที่หลายๆคนเชียร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ลองดรอป โรเบิร์ตสัน และ ส่ง ซิมิกาส เป็นตัวจริงแบบยาวๆดูบ้าง เผื่อมีอะไรที่มันน่าตื่นเต้นมากขึ้น ซึ่งเหตุผลอะไรที่ทำให้แฟนบอล หงส์แดง คิดแบบนั้นและส่งใจถึง ซิมิกาส มากขึ้น ไปวิเคราะห์กันครับ

- ไม่เคยปริปากบ่น และ พัฒนาตัวเองเสมอ

คอสตาส ซิมิกาส ย้ายจาก โอลิมเปียกอส มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2020 จริงๆแล้วเขาถือว่าเป็นแบ็กซ้ายลำดับ 2 ด้วยซ้ำ เพราะเดิมที หงส์แดง อยากได้ตัว จามาล เลวิส แบ็กซ้าย นอริช ซิตี้ แต่โดนโก่งราคาถึง 40 ล้านปอนด์ ทำให้สุดท้ายจึงไปเลือกเซ็นสัญญากับ ซิมิกาส สนนราคาแค่ 11 ล้านปอนด์ ซิมิกาส ถูกดึงเข้ามาเพื่อเป็นอะไหล่สำรองของ โรเบิร์ตสัน เพราะในทีม ลิเวอร์พูล ไม่มีตัวแบ็คอัพในตำแหน่งนี้เลย หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องถ่าง เจมส์ มิลเนอร์ ไปเล่นตำแหน่งนั้นแทน แต่ซีซั่นแรกของ ซิมิกาส กับ หงส์แดง เขาต้องนั่งสำรองจนก้นด้าน ได้ลงเล่นบนเวที พรีเมียร์ลีก ไปแค่ 2 นัด และ เป็นสำรองทั้งหมด โดยได้เล่นฟุตบอลถ้วยแบบหยุมหยิม ณ ตอนนั้น ซิมิกาส มีกิจวัตรประจำวัน คือถ่ายรูปคู่กับสุนัขตัวโปรดเวลาอยู่บ้าน เพราะแทบไม่มีรูปใส่เสื้อ ลิเวอร์พูล ลงสนามอยู่เลย อย่างไรก็ตามแบ็กซ้ายรายนี้ ไม่เคยปริปากบ่น ไม่เคยโอดครวญต่อโชคชะตา ทำงานตัวเองอย่างเงียบๆ พัฒนาฝีเท้า เพื่อรอให้โอกาสมาถึง เขาดูมีความสุข แม้ไม่ได้ลงสนาม ถึงขั้นขอสถาปนาตัวเองเป็น "กรีซ สเก๊าเซอร์" อารมณ์เหมือนเป็นเด็กท้องถิ่นยังไงยังงั้น 1 ฤดูกาลอาจเป็นเวลาที่ยาวนาน แต่มันก็คุ้มค่ากับการรอคอย เพราะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ ซิมิกาส ได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น นัดแรกที่เขาลงเล่นเป็นตัวจริง มีช็อตตื่นสนาม ก่อนจะโดน เจมส์ มิลเนอร์ ตบหน้าไปที เพื่อเรียกขวัญกลับมา และ มันเหมือนจะได้ผล เพราะฟอร์มของเจ้าตัว ดีวันดีคืนจริงๆ

- ลงตัวจริงเมื่อไหร่ทีมชนะตลอด

ถึงแม้ผลการแข่งขัน อาจไม่เกี่ยวกับโชคดวง แต่ยุคนี้สาย มูเตลู หรือ ฮวงซุ้ย ก็สามารถเอามาเกี่ยวโยงกันได้หมด ซึ่งแน่นอนว่า ซิมิกาส เป็นเหมือนตัวนำโชคของ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว เพราะเมื่อไหร่ที่เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ลิเวอร์พูล สามารถเก็บชัยชนะได้หมดในซีซั่นนี้ และ ที่สำคัญคือ "คลีนชีต" ทุกนัด เริ่มจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 นัด ที่เจ้าตัวได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรก เอาชนะได้ทั้ง นอริช ซิตี้ 3-0 / ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 และ ไล่ถล่ม คริสตัล พาเลซ 3-0 ขณะที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงแม้จะต้องลงเจอกับ แอตเลติโก มาดริด แต่ ซิมิกาส ก็มีส่วนสำคัญช่วย หงส์แดง ตบนิ่มๆได้อีก 2-0 ส่วน คาราบาว คัพ ก็ไล่ถลุง นอริช อีก 3-0 และ ตบ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ อีก 2-0 เห็นไหมครับว่า ซิมิกาส ลงตัวจริงให้ ลิเวอร์พูล เมื่อไหร่ ทีมชนะได้ทุกนัด และ ไม่เสียสักประตูเดียว ซึ่งผิดกับฟอร์มของ หงส์แดง ในช่วงนี้ ที่มีสะดุดเสมอกับ ไบรท์ตัน 2-2 และ ล่าสุดเพิ่งแพ้ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 ซึ่งเป็นนัดที่ โรเบิร์ตสัน ลงตัวจริงทั้งหมด ทำให้สาวก เดอะ ค็อป เริ่มส่งเสียงร้องให้โอกาสกับ ซิมิกาส ซึ่งฝีเท้าก็ไม่ได้ต่างกันเยอะ ที่สำคัญอาจเป็นตัวนำโชคให้กับทีมได้ด้วย

- สไตล์เปิดบอลแม่นๆ

ถึงแม้สภาพของ ซิมิกาส เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน แววตาดูไม่มีความมั่นใจ แต่หลังจากที่เขาตั้งหลักปรับตัวได้บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ทำให้ความมั่นใจกลับมาเต็มสูบ และ มันก็ส่งผลให้เขาได้ปล่อยพลังเต็มที่ โดยเฉพาะการกดท่าอัลติ "แลบลิ้นเปิดบอล" เพื่อความแม่นยำ ต่อให้ ซิมิกาส ไม่ได้ทำแอสซิสต์ถล่มทลาย มีเปิดบอลให้ ดิโอโก้ โชต้า ทำประตูใส่ เบิร์นลี่ย์ ไป 1 ครั้ง แต่กระนั้นการครอสบอลของเขานับว่าน่ากลัวมาก ถึงขั้นที่เพื่อนๆพี่ๆในทีม ไว้วางใจให้ไปเปิดลูกเตะมุมในหลายๆจังหวะด้วยซ้ำ จริงอยู่ที่ โรเบิร์ตสัน ก็มีสกิลการเปิดบอลอันแม่นยำเหมือนกัน และ ขึ้นชาร์ตนักเตะที่ทำแอสซิสต์ให้กับทีมอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เหมือนว่าผลงานเกมรุกจะตกลงไป การประสานงานทางฝั่งซ้าย ดูไม่ไหลลื่นเหมือนแต่ก่อน ทำให้ผลงานของ ซิมิกาส ดูเด่นขึ้นมาตรงจุดนี้ จากการส่องดูหลายๆคอมเมนท์ของแฟนบอล หงส์แดง ในช่วงที่ ซิมิกาส ลงสนาม พวกเขาชื่นชมการเปิดบอลของนักเตะ "กรีซ สเก๊าเซอร์" มากๆ เพราะมันดูมีวิถี และ โค้งโฟกัสเข้าเป้า เรียกว่าได้คะแนนตรงนี้ไปเต็มๆ เพราะ DNA ของ ลิเวอร์พูล คือเกมบุก ดังนั้นการเติมขึ้นไปช่วยแนวรุก และ สามารถครอสบอลได้อย่างแม่นยำแบบนี้ มันก็จะทำให้โอกาสยิงประตูมีเยอะมากขึ้น

- การประสานงานกับผู้เล่นฝั่งซ้าย

เรื่องผลงานของ ร็อบโบ้ ในหลายๆซีซั่นที่ผ่านมา ไม่ต้องไปพูดถึงอะไรอีกแล้ว มันเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ จนมีส่วนสำคัญพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรก แต่ถ้าวัดจากฟอร์มแค่ฤดูกาลนี้ นับว่าฟอร์ม โรเบิร์ตสัน ก็แอบตกลงไปเหมือนกันครับ ไม่ค่อยเติมรุกเท่าไหร่, ไม่ได้ครอสบอลเยอะเหมือนเมื่อก่อน และ อาการบาดเจ็บก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการลงเล่นของ ซิมิกาส มันทำให้เกมฝั่งซ้าย ลิเวอร์พูล ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ไม่ใช่แค่การครอสบอล แต่มันเป็นเรื่องการเติมรุกด้วย ที่บุกขึ้นหน้า ประหนึ่งว่าตัวเองเล่นตำแหน่งปีก และ การประสานงานกับพวก ซาดิโอ มาเน่ ก็ไม่ได้ดูเคอะเขิน ซ้ำยังผ่อนหนักเป็นเบาให้กับเกมรุก ลิเวอร์พูล ได้ด้วย จากเหตุผลทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นการด้อยค่า โรเบิร์ตสัน ว่ามีฟอร์มการเล่นที่แย่กว่า แต่ด้วยผลงานตอนนี้ ทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายๆคน เริ่มเชียร์ให้ ซิมิกาส ได้ลงสนามเป็นตัวจริงเยอะกว่านี้ และ เกมคืนวันเสาร์ที่ หงส์แดง จะเปิดบ้านพบกับ อาร์เซน่อล .. ซิมิกาส มีโอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริง เพราะ ร็อบโบ้ มีอาการบาดเจ็บ และ มารอดูกันว่า ผลงานจะเป็นดั่งที่กล่าวไว้หรือไม่

ฮาย ฮาวดี้

logoline