ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2017-18 ในที่สุดก็เดินทางมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศจนได้ ส่วน 2 ทีมที่ที่จะเข้ามาชิงชัยกันนั้นก็ไม่มีการพลิกโผแต่อย่างใด เพราะเป็น 2 ทีมที่ได้กุมความได้เปรียบมาตั้งแต่เกมนัดแรกในรอบรองชนะเลิศ
ที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือเป็น 2 ทีมที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยฝั่งหนึ่งต้องการป้องกันแชมป์ให้ได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันนั่นก็คือ เรอัล มาดริด ส่วนอีกมุมหนึ่งก็ต้องการทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่กลับมาให้ได้นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล กลับการคัมแบ็กอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2005 ดังนั้นก่อนที่สังเวียน ณ กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน จะเปิดฉากกันในวันที่ 26 พฤษภาคม นี้อันดับแรกเลยในตอนนี้ทาง "ขอบสนาม" จะขอพาทุกท่านไปดูสถิติเปรียบเทียบกันว่าผลงานในแต่ละด้านของทั้งคู่นั้นเป็นอย่างไรบ้างในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยเกมรุก
เรอัล มาดริด หลายๆ คนทราบกันดีว่าพวกเขามีผลงานที่ย่ำแย่มากในฤดูกาลนี้โดยเฉพาะเรื่องของการถล่มประตูที่ขาดความน่ากลัวไปเยอะ จนส่งผลให้หมดลุ้นในรายการ ลา ลีกา และ โกปา เดล เรย์ ไปอย่างไว แต่ถ้าเป็นในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นพวกเขากลับทำได้ดีเยี่ยมและรักษามาตรฐานของตัวเองในฐานะแชมป์เก่าได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้พวกเขายิงได้ 30 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 12 นัด เฉลี่ยอยู่ที่ 2.5 ประตูต่อเกม ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ได้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียนพวกเขาก็ถูกยลโฉมใหม่หมดจนกลายเป็นเครื่องจักรสังหารไปโดยปริยาย เกมบุกทะลุทะลวงเร้าใจสามารถถล่มแหลกใส่ได้ทุกๆ เกมบวกกับปีนีนักเตะในทีมต่างก็มีฟอร์มที่แจ่มกันทั้งนั้น และนั่นก็ไม่แปลกที่ตอนนี้พวกเขาจะเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อ 1 ฤดูกาลที่ 46 ประตูจากการลงเตะ 14 เกม เฉลี่ยยิงได้ 3.28 ประตูต่อเกม โดยมีนัดเดียวที่พวกเขาไม่สามารถทลายประตูคู่แข่งได้นั่นคือเกมที่เจ๊า ปอร์โต้ 0-0เกมรับ
ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ เรอัล มาดริด ผิดฟอร์มไปในซีซั่นนี้ก็มาจากปัญหาเกมรับที่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บหลายคนและบ่อยครั้งมากๆ ทำให้บางทีต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ตัวสำรองหรือไม่ก็ต้องดันเด็กขึ้นมาใช้แก้ขัดไปก่อน ซึ่งพลพรรค "ราชันชุดขาว" โดนเจาะตาข่ายไปทั้งหมดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ 15 ประตูจาก 12 เกม เฉลี่ยเสีย 1.25 ประตูต่อนัด ลิเวอร์พูล ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ได้ชื่อว่าเกมรับอ่อนยวบมากๆ ทีมหนึ่ง แต่ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก สถิติจำนวนการเสียประตูนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีใช้ได้กับตัวเลขที่ 16 ประตูจาก 14 เกม (รวมรอบคัดเลือกกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ด้วย) เฉลี่ยแล้วเสียอยู่ที่ 1.2 ประตูต่อเกม3 ประสานในแนวรุก
อย่างที่บอกไปว่า เรอัล มาดริด นั้นมีฟอร์มการถล่มประตูที่ห่วยแตกมากๆ ในปีนี้ ซึ่งปัจจัยสำคัญนั้นก็มาจาก 3 ประสานแนวรุก BBC มีฟอร์มที่ห่วยแตกสุดๆ เริ่มที่ คาริม เบนเซม่า ไอ้หมอนี้หนักที่สุดเพราะในลีกกดไปแค่ 5 ประตูเท่านั้นจาก 28 เกม ส่วนในเวทียุโรปทำได้ 4 ประตูจากการลงสนาม 8 เกม ตามด้วย แกเร็ธ เบล อาจจะดูฟอร์มโอเคอยู่ แต่ปัญหาเดียวคือเจออาการบาดเจ็บตามเล่นงานไม่ขาดสาย และก็มีบ้างหลายๆ เกมที่ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง เขายิงได้ 12 ประตูจาก 23 นัดใน ลีก ก็ถือว่าไม่เลวเท่าไหร่ แต่ใน ยูซีแอล เบล ยิงได้แค่ลูกเดียวเท่านั้นจาก 6 นัดที่ได้ลงเล่น ส่วนในรายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นี่ก็ยังเป็นตัวความหวังของทีมเหมือนเดิม เขาฟอร์มตกไปสุดๆ ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่นับตั้งแต่เข้าสู่ศักราชปี 2018 เจ้าของโค้ดเนม CR7 ก็กลับมาสวมวิญญาณเพชฌฆาตจอมโหดอีกครั้งกับผลงาน 15 ประตูใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และอีก 24 ประตูใน ลา ลีกา ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล โดดเด่นมากๆ ในส่วนของรุกอย่างที่รู้กัน ทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ ซัดไปในลีกคนละ 31, 15 และ 10 ลูกตามลำดับ เท่านั้นยังไม่พอในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังจัดไปอีกคนละ 10,10 และ 9 ลูกตามลำดับ เรียกได้ว่าตอนนี้พวกเขาคือทีมที่มีเกมรุกโหดที่สุดในยุโรปเลยทีเดียวคีย์แมนสำคัญ
เรอัล มาดริด - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่นทุกรายการ : 41 นัด ยิงรวมทุกรายการ : 42 ประตู ยิงในลีก : 24 ประตู แอสซิสต์ในลีก : 5 ครั้ง ยิงใน แชมเปี้ยนส์ ลีก : 15 ประตู แอสซิสต์ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2 ครั้ง แฮตทริก : 1 ครั้ง ลิเวอร์พูล - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงเล่นทุกรายการ : 49 นัด ยิงรวมทุกรายการ : 43 ประตู ยิงในลีก : 31 ประตู แอสซิสต์ในลีก : 9 ครั้ง ยิงใน แชมเปี้ยนส์ ลีก : 10 ประตู แอสซิสต์ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก : 4 ครั้ง แฮตทริก : 0 ครั้ง สถิติที่น่าสนใจของทั้ง 2 ทีม - การเจอกันของ ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด นั้นจะเป็นการรีแมตช์นัดชิง ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1981 ซึ่งเกมนั้น ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 1-0 - เรอัล มาดริด เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ถึง 16 ครั้ง มากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ - ซีเนดีน ซีดาน เป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่พาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ 3 สมัยติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่ มาร์เซลโล่ ลิปปี้ เคยทำได้ในช่วงปี 1996 ถึง 1998 - ลิเวอร์พูล ยิงประตูทีมเยือนได้ถึง 10 ลูกใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ทำสถิติเทียบเท่ากับที่ เรอัล มาดริด ทำได้เมื่อฤดูกาล 2013-14 - ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ 3 ที่ยิงได้แตะหลัก 40 ประตูใน 1 ฤดูกาล ต่อจาก บาร์เซโลน่า 45 ประตูฤดูกาล 1999-2000 และ เรอัล มาดริด 41 ประตู ในฤดูกาล 2013-14 โดยตอนนี้กดไป 46 ประตู ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ มาเน่ ยิงประตูรวมกันใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ไป 29 ประตูในซีซั่นนี้ โดยแบ่งเป็น 10, 10, 9 ตามลำดับ ถือเป็นแนวรุก 3 ประสานที่ยิงได้มากที่สุดในการแข่งขันนี้ - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นเจ้าดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ณ ปัจจุบันที่ 120 ประตู-HaMuDosSantos-
เจาะแผนการเล่นสล็อต! ทำไมลิเวอร์พูลถึงเลือกสานต่อคล็อปป์!?
4 ประเด็นใหญ่ก่อนศึกศักดิ์ศรี ปราสาทสายฟ้า เปิดรังดวล กิเลนผยอง
ทำไม ?? อาทิตย์ เบิร์ก ถึงเป็นเป้าหมายใหม่ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"
หรือว่าเส้นทางการลุ้นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล จะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ ?
ช่วงเวลาวัดใจ! อุทัยธานี กับการยอมเสี่ยงเปลี่ยนแม่ทัพ หนีตาย 5 นัดสุดท้าย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม 
