logo-heading

โลกของฟุตบอลมันไม่มีอะไรแน่นอนอย่างที่คุณเข้าใจกันทั้งเรื่องในสนามที่คุณอาจจะเป็นฝ่ายเหนือกว่าครองเกมบุกได้มากกว่า แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องชนะเสมอไป

เช่นเดียวกับเรื่องนอกสนามอย่างเส้นทางอาชีพต่อให้คุณจะเก่งมาจากไหนก็ใช่ว่าจะอยู่ ณ จุดๆ นั้นได้ตลอด ยกตัวอย่างเคสล่าสุดคือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดกับ บาร์เซโลน่า พาทีมเป็นแชมป์ ลา ลีกา แบบทิ้ง แอตเลติโก มาดริด และ เรอัล มาดริด ไม่ติดฝุ่น แต่มันก็ดันมีข่าวลือเกิดขึ้น แถมมาจากสื่อในแคว้นกาตาลันด้วยว่าเขาอาจต้องตกงานก็เป็นได้ในหลายๆ ปัจจัย ถ้าเกิด บัลเบร์เด้ ต้องโดนเด้งจากเก้าอี้นายใหญ่ บาร์ซ่า จริงๆ มันก็น่าตกใจอยู่หรอก แต่มันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ในโลกของฟุตบอลมีกุนซือผลงานโดดเด่นและเข้าตาหลายคน แต่สุดท้ายต้องตกงานไปแบบไม่ยุติธรรม อูไน เอเมรี่ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด กุนซือผู้พา เซบีย่า เก็บแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 3 สมัยติดได้เข้ามารับงานต่อกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่ีอปี 2016 ซึ่งถึงแม้ปีแรกจะเสียท่ายกแชมป์ ลีก เอิง ให้ โมนาโก แต่ถ้าวัดถึงความสำเร็จทั้งหมด อูไน เอเมรี่ สามารถกอบโกยได้ถึง 7 ถ้วยเลยทีเดียวภายในระยะเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น และด้วยความที่เป็นกุนซือที่เชี่ยวชาญด้านเกมบุกอยู่แล้วนั่นทำให้ เปแอสเช ซัดในลีกปีนี้ไปทั้งหมด 108 ประตู แถมยังเหลืออีก 1 นัดให้ถลุงเพิ่มอีกด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางตัวของ เอเมรี่ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ได้ออกมาแถลงการณ์แยกทางกันถึงแม้จะมีโปรไฟล์ที่ดีกับทีมตลอด 2 ปีก็ตาม ซึ่งคาดกันว่าเหตุผลหลักมาจากผลงานใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องตกรอบไปอย่างไวตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของ เรอัล มาดริด ซึ่งทำให้เจ้าของทีม นาสเซอร์ อัล-เคห์ไลฟี่ ไม่ปลื้มเป็นอย่างมาก และตอนนี้สโมสรก็หาคนมารับช่วงต่อในปีหน้าได้แล้วนั่นคือ โธมัส ทูเคิ่ล คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด กุนซือมากประสบการณ์และมากฝีมือชาวอิตาเลี่ยนพิสูจน์ตัวเองมามากมาย ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ไหนก็มักจะมีความสำเร็จเรื่องถ้วยแชมป์ติดไม้ติดมือมาเสมอ แต่นั่นมันก็ไม่ได้การันตีเลยว่าเขาจะอยู่คุมทีมๆ ได้ในระยะยาว ปี 2009 คาร์โล อันเชล็อตติ ถูกแต่งตั้งให้เข้ามาทำงานที่ อังกฤษ ครั้งแรกกับ เชลซี และสามารถกวาดได้ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ พร้อมสร้างสถิติิยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 103 ลูก (ตอนนี้โดน แมนฯ ซิตี้ ทำลายแล้ว) แต่จากนั้นในฤดูกาลต่อมาถึงแม้จะพา เชลซี ป้องกันแชมป์ไม่สำเร็จ แต่ก็จบเป็นอันดับ 2 รองแชมป์ แต่สุดท้ายก็โดนปลดออกจากตำแหน่งไปเพียงเพราะไม่มีถ้วยแชมป์ เช่นเดียวกับชีวิตที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ตลอดระยะเวลา 2 ปีถึงแม้จะคว้าแชมป์ ลีก เอิง ได้ในปี 2013 แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเจ้าของทีมก็เลยได้ซองขาวไปอีก มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด นี่ก็เป็นผู้จัดการทีมที่ไม่ควรตกงานอย่างยิ่ง ย้อนกลับไปสมัยปี 2013 มานูเอล เปเยกรินี่ ถูกแต่งตั้งให้เข้ามากุมบังเหียน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แทนการจากไปของ โรแบร์โต้ มันชินี่ และก็ประกาศศักดาพา ‘เรือใบสีฟ้า’ ผงาดงาบทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ ลีก คัพ ได้ในฤดูกาลนั้น และยังมีตัวเลขสถิติยิงได้ถึง 102 ประตูในเกมลีกปีนั้นด้วย ฤดูกาลถัดมาถึงแม้จะป้องกันแชมป์ไว้ไม่ได้ แต่ก็ได้จบที่อัันดับ 2 พร้อมโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แถมฟอร์มการเล่นก็ไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานเลย จนกระทั่งในฤดูกาล 2015-16 แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ออกมาประกาศยืนยันว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่แทนที่ เปเยกรินี่ ในฤดูกาลหน้าทั้งที่ซีซั่นนั้นยังแข่งไม่จบ ถึงแม้จะเป็นการกระทำที่ดูไม่โปรเฟสชั่นแนล แต่กุนซือชาวชิลีก็โชว์สปิริตความเป็นมืออาชีพด้วยการพาทีมคว้าสิทธิ์ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก และคว้าแชมป์ ลีก คัพ มาครองได้ก่อนตกงานในท้ายที่สุด แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด ก่อน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในปัจจุบันในยุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต้องบอกเลยว่าถ้าไม่มี แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ สเปอร์ส อาจจะยังไม่มาถึงจุดนี้ก็เป็นได้ เพราะย้อนกลับไปในช่วงปี 2008 ช่วงที่ สเปอร์ส กำลังตกอับ ‘จ่าแฮร์รี่’ เข้ามาสานต่อจาก ฆวนเด้ รามอส พาทีมไต่จากโซนตกชั้นมาจบอันดับ 8 ในปีนั้น เท่านั้นยังไม่พอเขายังพาทีมได้ตั๋วกลับไปผจญภัยในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีอีกด้วย นับวัน เร้ดแนปป์ ยิ่งปั้น สเปอร์ส ให้แข็งแกร่งมากขึ้นๆ เรื่อย แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 ‘ไก่เดือยทอง’ จบอันดับ 4 แต่กลับไม่ได้สิทธิ์ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะ เชลซี ที่จบอันดับ 6 ดันบุกไปชูถ้วยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึงกรุงมิวนิค และนั่นก็นำมาซึ่งการปลด ‘จ่าแฮร์รี่’ ออกจากตำแหน่ง ซึ่งเจ้าตัวทำใจยอมรับกับเรื่องดังกล่าวไม่ได้ถึงขั้นเปิดปากสาปส่งสโมสรกันเลยทีเดียว ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด หลังจาก เชลซี สามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยน้ำมืือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ แต่พอซีซั่นถัดมากราฟชีวิตของทัพ ‘สิงห์บลูส์’ ก็ดิ่งเหวสุดๆ จนมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในตำแหนงกุนซือ โดย เชลซี สั่งปลด ‘อาร์ดีเอ็ม’ และตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามากุมบังเหียน ราฟา ถึงแม้จะได้ชื่อว่ากุนซือที่มากฝีมือและเชี่ยวชาญสุดๆ ในรายการบอลถ้วย แต่เหล่าสาวก ‘เดอะ บลูส์’ ดูจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ เพราะเคยเป็นกุนซือให้ ลิเวอร์พูล มาก่อน อย่างไรก็ตามนายใหญ่มาดบ๋อยอ้วนคนนี้นี่แหละที่เสกแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ให้ เชลซี ในปีนั้น แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้ตนได้ทำงานต่อในรั้ว เดอะ บริดจ์ เพราะเจ้าของทีม โรมัน อบราโมวิช ไล่เขาออกและเรียก โชเซ่ มูรินโญ่ กลับคืนสู่บ้านหลังเก่าในคำรบที่ 2 บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด นอกจากจะมีโปรไฟล์ยอดเยี่ยมพาทีมชาติ สเปน ครองบัลลังก์เบอร์ 1 ของโลกอยู่พักหนึ่งในช่วงที่คว้าแชมป์โลกปี 2010 และ ยูโร 2012 ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านั้นในระดับสโมสร บิเซนเต้ เดล บอส ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ กับ เรอัล มาดริด ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย และ ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ อินเตอร์คอนติเนนมัล คัพ อีกอย่างละ 1 สมัย แต่มันดูไม่ค่อยยุติธรรมกับ บอสเก้ เท่าไหร่เมื่อทาง ‘ราชันชุดขาว’ ตัตสินใจไม่ให้สัญญาใหม่กับเขา และได้ประแยกทางกันเพียงแค่ระยะเวลาไม่ถึง 1 วันหลังจาก เรอัล มาดริด ได้ฉลองแชมป์ ลา ลีกา สมัยที่ 29 โดยทางสโมสรให้เหตุผลว่ามีแนวทางการทำงานที่ไม่ลงรอยกัน โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด โรแบร์โต้ มันชินี่ เทรนเนอร์มาดคุณชายเคยพา อินเตอร์ มิลาน ก้าวไปอยู่ในจุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและครองเบอร์ 1 ของเวที กัลโช่ เซเรีย อา ในช่วงกลางยุคมิลเลเนี่ยมกับการหยิบแชมป์ลีก 3 ปีพร้อม โคปปา อิตาเลีย กับ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า อีกอย่างละ 2 สมัย อย่างไรก็ตามหลังฤดูกาล 2007-08 หลังจากทัพ ‘เนรัซซูรี่’ ได้ฉลองแชมป์กันอย่างแฮปปี้มีความสุข มันชินี่ กลับถูกบอร์ดบริหารของสโมสรยื่นซองขาวไล่ออกจากตำแหน่งไปโดยเหตุผลนั้นคาดกันว่ามาจากปัญหาเรื่องแผนการทำทีมรวมถึงเรื่องของทัศนคติที่ไม่ตรงกัน ก่อนที่ อินเตอร์ มิลาน จะไปดึง ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ มาสานต่อ โลร็องต์ บล็องก์ กุนซือผลงานดี แต่โดนปลด คนนี้อยู่ในเคสเดียวกันกับ อูไน เอเมรี่ เปี๊ยบเลย เผลอๆ จะเลวร้ายกว่าด้วยซ้ำ เพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีในรั้ว ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ตั้งแต่ 2013-16 ชายที่ชื่อ โลร็องต์ บล็องก์ สามารถเสกแชมป์ให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ถึง 11 โทรฟี่ เลยทีเดียว แต่ในรายการระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นความต้องการสุดท้ายของเจ้าของทีม นาสเซอร์ อัล-เคห์ไลฟี่ แต่ บล็องก์ ก็ยังไม่สามารถพาทีมไปใกล้ความฝันนั้นได้ โดยไปได้ไกลสุดคือรอบ 8 ทีมที่สุดท้ายที่ต้องสยบด้วยน้ำมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซีซั่น 2015-16 ก่อนที่สโมสจะประกาศสั่งปลดเขาออกจากตำแหน่งในช่วงซัมเมอร์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่นานเพิ่งจะได้สัญญาใหม่อีก 2 ปี  

-HaMuDosSantos-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline