logo-heading

"คนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด" ไม่มีใครเหมาะสมกับประโยคนี้ ในช่วงเวลานี้มากไปกว่า รัดย่า เนียงโกลัน อีกแล้ว ที่เล่นดีโคตรกับ โรม่า แต่กลับถูกหมางเมินอดไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 กับทีมชาติเบลเยี่ยม

  อย่างที่รู้ๆ กันมาสักระยะว่า เนียงโกลัน เคยมีปัญหาไม่ลงรอยกับ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้เป็นกุนซือทีมชาติมาก่อน แต่สุดท้ายก็เหมือนจะปรับความเข้าใจกันได้ และหลายฝ่ายก็คาดว่าคงถูกเรียกเป็น 23 ขุนพลไปช่วย "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ล่าแชมป์โลกแน่นอน เพราะฟอร์มการเล่นกับต้นสังกัดนั้นแจ่มแมวแวววับมาก เป็นส่วนสำคำญที่ทำให้ โรม่า ทะลุไกลไปถึงรอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก   ทันทีที่ "มาร์ตี้" แบโผ 28 ขุนพลสุดท้าย ก่อนตัดเหลือ 23 คนออกมา โดยไร้ชื่อของ เนียงโกลัน เจ้าตัวถึงกับทนไม่ไหวประกาศรีไทร์เลิกเล่นทีมชาติแม่งเลย   “มันมีความเจ็บปวดมากมายในหัวใจของผม ที่ต้องบอกว่าผมขอยุติกับการรับใช้ทีมชาติเบลเยี่ยม ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อได้เป็นตัวแทนช่วยบ้านเกิด บางครั้งการเป็นตัวของตัวเองมันก็สามารถฆ่าคุณทางอ้อมได้ ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะกลายเป็นแฟนบอลที่คอยส่งแรงใจ”   ด้านบนคือข้อความที่กองกลางพันธ์ดุโพสต์ลงในไอจี ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ แหมเป็นผม ผมก็รู้สึกว่า เห้ย ไม่โอเคเหมือนกัน เพราะกูอุตส่าห์เล่นดีแทบตาย แต่นี่แค่ 28 คนยังไม่มีปัญญาติดเลย มันก็ต้องน้อยใจเป็นธรรมดา แล้วนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกแล้วด้วยที่โดน ปฏิบัติแบบนี้ เดี๋ยวจะเล่าย้อนไปให้ฟังหน่อยนึง   นับตั้งแต่ มาร์ติเนซ ซึ่งเป็นคนสเปน ถูกตั้งเข้ามาคุมทีมชาติเบลเยี่ยม (แบบงงๆ) เมื่อปี 2016 เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะไม่ถูกชะตากับ เนียงโกลัน ตั้งแต่แรกเห็น อาจจะเป็นเพราะนิสัยดิบห่ามของนักเตะ ที่สำคัญเลยคือดูดบุหรี่จัดมาก โค้ชคนไหนห้ามไม่ฟัง เพราะเจ้าตัวถือคติว่าก็ในเมื่อสูบแล้วยังซ้อมได้ดี ยังเล่นได้แจ่ม จะเลิกเพื่อ? ตัวกูของกู เข้าใจป้ะ!   นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้ "มาร์ตี้" เหม็นขี้หน้า เนียงโกลัน เดี๋ยวเรียกติดบ้าง เดี๋ยวไม่เรียกบ้าง เรียกมาก็ไม่ใช้บ้างนู่นนี่ จนในที่สุดฟางเส้นรองสุดท้ายของแข้งวัย 30 ปีก็มาถึง เมื่อสิงหาคม ปีที่แล้ว เจ้าตัวประกาศเลิกเล่นทีมชาติทันที หลังไร้ชื่อติดทีมลงเล่นรอบคัดเลือกบอลโลก แต่ประกาศได้สักพักก็กลับลำ ตั้งสติและเปิดใจเคลียร์กับ มาร์ติเนซ จนจูบปากกัน แต่ท้ายสุดเท่าที่เห็นก็จูบไม่สนิท จนเกิดการประกาศรีไทร์รอบสอง และคราวนี้คงไม่ยอมเสียเชิงมวยกลับไปอ้อน กุนซือชาวสเปนอีกแล้ว   เท่านั้นยังไม่พออีกเรื่องที่ถ้าผมเป็น เนียงโกลัน ก็คงต้องน้อยใจเป็นธรรมดาคือไอพวกมิดฟิลด์ที่ "มาร์ตี้" เรียกมาต่ละคนเนี่ย ชื่อชั้นไม่มีใครดีกว่าเขาเลยสักคน ทั้ง มุสซ่า เดมเบเล่ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์), เลอันแดร์ เดนคองซ์เกอร์ (อันเดอร์เลชท์), มารูยาน เฟลไลนี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), นาเซอร์ ชาดลี่ (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน), ยูรี ตีเลม็องส์ (โมนาโก) และ อเซล วิตเซล (เทียนจิน ฉวนเจียน)   เห็นมั้ยล่ะ แต่ละชื่อเห็นจะมีแค่ เดมเบเล่ กับ เฟลไลนี่ 2 คนแหละที่พอสูสีสู้ได้ ดังนั้นถ้าโค้ชไม่อคติ ยังไงๆ เนียงโกลัน ก็ต้องติด นี่ลำเอียงจนถึงขนาดมีชาวเบลเยี่ยม ตั้งแคมเปญเรียกร้องให้ติดทีมชาติเลยทีเดียวนะ   มองมาที่ด้านของ มาร์ติเนซ บ้าง แน่นอนว่าการหั่นชื่อแข้งดังขนาดนี้ ต้องมีนักข่าวถามว่า เพราะเหตุใด? คำตอบที่ได้นั้นคือ   "รัดย่า เนียงโกลัน เป็นนักเตะระดับท้อป แต่เหตุผลที่เขาไม่มีชื่อนั้นมันเป็นเรื่องของแท็คติก ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราทำผลงานกันได้ดีมาก แต่เป็นนักเตะคนอื่นที่ลงเล่นในตำแหน่งของเขา เรารู้ว่า รัดย่า คือกำลังสำคัญของสโมสร แต่เราไม่มีที่ว่างสำหรับเขาในทีมชาติเบลเยี่ยม"   ถามสั้นๆ คำเดียว มันเป็นเรื่องของแท็คติกจริงหรอวะ?! หลอกเด็กเถอะพี่ นี่นักข่าวกับแฟนบอลทั่วโลกนะโว้ยย แต่เอาเหอะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด คนเป็นกุนซือก็คือคนเลือกนักเตะ ฉะนั้นก็คงต้องให้เกียรติการตัดสินใจของ "มาร์ตี้" ด้วย ส่วน เนียงโกลัน ก็ทำถูกแล้วหละ ที่ประกาศเลิกเล่น เพราะเป็นผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน  

ท้ายสุดถ้าเกิดพลิกล็อก เบลเยี่ยม ร่วงตกรอบ ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม คนที่โดนชุดใหญ่หนีไม่พ้น มาร์ติเนซ แน่นอน ส่วน เนียงโกลัน ก็คงนอนขำอยู่ที่บ้านอย่างสะใจ หึหึ

ชิน ชินพัฒน์

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline