logo-heading

ทัพ "อินทรีเหล็ก" ไว้ลายแชมป์เก่า พลิกแซงชนะ สวีเดน 2-1 โดยได้ประตูชัยจากฟรีคิกของ โทนี่ โครส ในช่วงทดเจ็บ 90+4

เกมนี้ เยอรมัน จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อโอกาสเข้ารอบที่สดใส หลังนัดแรกพลาดท่าพ่าย เม็กซิโก 1-0 ทว่าเริ่มเกมมาได้ 32 นาทีกลับโดนจังหวะสวนกลับของทัพ "ไวกิ้ง" ทำพิษ โอล่า ตอยโวเน่น ชิพข้ามหัว มานูเอล นอยเออร์ เข้าประตูไป จากนั้น "อินทรีเหล็ก" พยายามโหมบุก แต่ก็ยังไล่ตีเสมอไม่ได้ จบครึ่งแรกตามหลัง 1-0 ครึ่งหลัง โยอาคิม เลิฟ เปลี่ยนเกมถอด ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ออก ส่ง มาริโอ โกเมซ ลงมาเพื่อเดินหน้าบุกเต็มที่และก็มาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วจาก มาร์โก รอยส์ ในนาทีที่ 48 จากนั้น เยอรมัน พยายามโหมบุกต่อเนื่องเพื่อ 3 คะแนน ทว่าก็ได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม แต่แล้วช่วงทดเจ็บก็มาได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย โทนี่ โครส เขี่ยให้ มาร์โก รอยส์ หยุดบอลก่อนวิ่งเข้ามาซัดโค้ง บอลลอยตุงตาข่ายพลิกนำ 2-1 ในนาทีสุดท้าย เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ ทำให้โอกาสเข้ารอบฟื้นกลับมาทันที และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะทัพ "อินทรีเหล็ก" ในเกมนี้ที่เราชาว "ขอบสนาม" ขอตัดเกรดให้

ตัวจริง

มานูเอล นอยเออร์ 7 เซฟลูกสำคัญไว้ได้ 2 ครั้ง แถมออกมาตัดบอลได้ดีตามแบบฉบับ นอยเออร์ แต่จังหวะที่เสียประตูก็ควรจะทำได้ดีกว่านี้หน่อย โยชัว คิมมิช 7 ขึ้นมาเติมเกมรุกทางฝั่งขวาได้ดีมาก วูบวาบ น่ากลัว จังหวะดักสกัดก็ไม่ค่อยพลาด แต่ปัญหาคือเกมนี้เจ้าตัวเปิดไม่ค่อยเข้าเป้า เยโรม บัวเต็ง 5 เป็นเกมที่ บัวเต็ง เล่นได้ต่ำกว่ามาตราฐาน เกือบทำทีมเสียจุดโทษในการสกัด มาร์คุส เบิร์ก แถมแทนที่จะช่วยพยุง รูดิเกอร์ เพราะ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เจ็บ กลับเป็นต้องให้ รูดิเกอร์ คอยประคองแทน แถมท้ายสุดมาโดนใบเหลืองแดงไล่ออกในนาทีที่ 82 อีก อันโตนิโอ รูดิเกอร์ 6 ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพราะ ฮุมเมิ่ลส์ ไม่ฟิต ซึ่งก้ถือว่าทำได้ดีพอสมควรโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ แต่ก็มีจังหวะเหวอปล่อยให้แนวรุก สวีเดน ได้ล่อเป้าเช่นกัน โยนาส เฮคเตอร์ 6.5 มีพื้นที่ในการเติมเกมทางด้านซ้ายมาก ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีในระดับนึง แต่ก็คล้ายๆ คิมมิช ที่ยังมีปัญหาในจังหวะสุดท้าย ทั้งรุกและรับ โทนี่ โครส 8.5 "เดอะแบก" ของทัพ "อินทรีเหล็ก" ในเกมนี้เลย ไม่ใช่แค่เป็นฮีโร่ซัดชัยในนาทีสุดท้าย แต่ทั้งเกมพี่แกเล่นได้ดีตลอด จ่ายบอล ผ่านบอล คุมเกมได้เยี่ยมยอด แม้ลูกที่ เยอรมัน โดนยิงเจ้าตัวจะมีส่วนในความผิดพลาดก็ตาม แต่โดยรวมเล่นได้ดีมาก เซบาสเตียน รูดี้ 6.5 เล่นได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะการช่วยตัดเกม แต่ได้ลงเล่นเพียงแค่ 30 นาทีก็ต้องถูกถอดออกไป เนื่องจากโดนกระแทกที่จมูก จนเลือดกำเดาไหลไม่หยุด มาร์โก รอยส์ 7.5 นอกจากจะทำประตูตีเสมอได้ในช่วงต้นครึ่งแรก ก็ยังมีส่วนร่วมกับเกมอยู่ตลอด โดยรวมถือว่าทำได้ดี แถมเป็นคนหยุดบอลจากลูกฟรีคิกให้ โครส ซัดประตูชัยด้วย โธมัส มุลเลอร์ 5.5 ปกติ มุลเลอร์ เป็นนักเตะที่ถูกโฉลกกับศึกฟุตบอลโลกมาก แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ครั้งนี้ เพราะเล่นแย่ตั้งแต่นัดที่แล้วยันนัดนี้ เปิดมั่วซั่ว หาบอลไม่เจอ เลี้ยงไม่ผ่าน ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ 6 มีโอกาสจะทำประตูให้ เยอรมัน ขึ้นนำได้ในช่วงต้นเกม แต่ก็เขวี้ยงโอกาสทิ้งไป โดยรวมก็มีทั้งจังหวะกระชากผ่านและไม่ผ่าน เล่นทรงๆ ต่ค่อนไปทางไม่ดี จนท้ายสุดก็โดนเปลี่ยนตัวออกหลังจบครึ่งแรก ติโม แวร์เนอร์ 6 ใช้ความเร็วของตัวเองสร้างปัญหาให้แนวรับ สวีเดน ได้พอสมควร แต่ในฐานะกองหน้าควรหาโอกาสยิงให้ได้มากกว่านี้ และคมกว่านี้ อย่างไรก็ตามจังหวะฟรีคิกตอนทดเจ็บที่นำมาสู่ประตูชัยก็ต้องให้เครดิตเขา ที่ลากไปเรียกฟาวล์ได้

ตัวสำรอง

อิลคาย กุนโดกัน 6 ลงมาแทน รูดี้ ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม เล่นไม่ได้โดดเด่นอะไร พยายามจะช่วยเกมรุก แต่ก็ยังมีจังหวะขาดๆ เกินๆ มาริโอ โกเมซ 6 ลงมาต้นครึ่งหลัง และมีส่วนทำให้ เยอรมัน ไประตูตีเสมอ จากนั้นก็มีโอกาสโขกจ่อๆ แต่ติดเซฟนายด่านสวีเดน จากนั้นก็ค่อยๆ หายไปจากเกม ยูเลี่ยน บรันด์ท 7.5 ได้ลงมาในนาทีที่ 87 แต่ถือว่าเปลี่ยนเกมได้เลย ทำให้เกมรุกของ เยอรมัน ดูดีขึ้นมาก และมีโอกาสส่องไกลชนเสาด้วย ถือว่าวูบวาบดูดีมีอนาคตเลยทีเดียว
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline