logo-heading

อังกฤษ มาดีจริง ฟอร์มสวย ฟอร์สดขนาดนี้ หลายฝ่ายเริ่มเชื่อกันแล้วว่าการเดินไปถึงรอบชิงชนะเลิศ หรือ แชมป์โลก อาจไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันก็ได้ และนี่คือเหตุผล

อังกฤษ ลงเล่นพบ โคลัมเบีย ใน ฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยิงนำก่อน แต่มีโดนตีเสมอท้ายเกม ช่วยต่อเวบาพิเศษ 120 นาที ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ต้องดวลจุดโทษ เหมือน เดจาวู ที่ "สิงโตคำราม" หนีไม่พ้น ดวลจุดทโทษทีไรแพ้ตกรอบตลอด แต่ดันไม่ใช่คราวนี้ พวกเขาชนะได้ 4-3 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ จนใครๆ ก็คิดว่าหรือคราวนี้ "สิงโตหลับ" ที่ไม่มีใครคาดหวัง จะไปได้ถงแชมป์ ความเป็นไปได้พอมี ลองไปดูเหคุผลกัน รู้ตัวว่าอ่อน มหาพิชัยยุทธ ซุนวู กล่าวไว้ว่า "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ก็ชนะร้อยครั้ง" อังกฤษ มาเล่น บอลโลก คราวนี้ไม่ใช่ในฐานะ ทีมที่คิดว่าตัวเองเป็นยักษ์ใหญ่ เหมือนกับทุกครั้ง แต่มาในฐานะ ทีมเคยใหญ่ ต่างหาก วัดตามหน้าเสื่อเทียบกับทีมดังอื่นๆ พวกเขาดูด้อยกว่าทั้งสิ้น แม้กระทั่งทีมร่วมกลุ่มอย่าง เบลเยี่ยม ดังนั้นเวลาเล่นหรือจัดทีมก็เลยไม่ค่อยประมาท เจอทีมเล็ก ทีมใหญ่ ก็ใส่เต็มแบบใจสู้ได้หมด สื่อบ้านเกิดไม่คาดหวัง นี่เป็นปัจจัยความพังลำดับต้นๆ ของ อังกฤษ ทุกครั้งที่จะกรีฑาทัพออกนอกประเทศไปเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ สื่อบ้านเกิดจะประโคมข่าวราวกับว่าการไปเอาแชมป์โลก หรือแชมป์ยูโร สำหรับ อังกฤษ เป็นเรื่องที่ต้องทำได้ ไม่ได้ถือว่าแย่ ทั้งที่พูดกันตามความจริง อังกฤษ ก็ไม่เหนือกว่าชาวบ้านนัก ในแต่ละรายการ บางครั้งก็ดูถูกเย้ยหยันว่าไปไม่รอดหรอก งั้นงี้ๆ แต่ครั้งนี้ มาแบบไม่มีใครเขาคาดหวัง สตาร์ดังนับเรียงตัวได้ มีแต่เสียงรายงานความพร้อมและการเรียกตัวทั้งนั้น ไม่มีการตั้งเป้าแมวน้ำอะไรเลย ดังนั้นเมื่อปราศจากความกดดันที่อยู่บนบ่า ทีมก็เล่นได้สบายใจขึ้น ไม่มีสตาร์มากจากทีมใหญ่ ที่ผ่านมา อังกฤษ มักมีสตาร์มาจากทีมใหญ่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น พอล สโคลส์, เดวิด เบ็คแฮม จาก แมนฯ ยูไนเต็ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด จาก ลิเวอร์พูล หรือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด, จอห์น เทอร์รี่ จาก เชลซี นักเตะเหล่านั้นถูกมองว่าเป็นตัวความหวัง เป็นยุคทอง เป็นอะไรต่างๆ ก็ตามที่แล้วแต่จะตั้งชื่อ แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องแบกความกดดันเอาไว้ และมันก็มากเกินไป แต่คราวนี้สตาร์ของทีมชาติอังกฤษมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลายคน แฮร์รี่ เคน หรือ เดเล่ อัลลี การที่ไม่ได้มาจากทีมใหญ่ ความคาดหวังเลยลดลง แถมคราวนี้หลายฝ่ายยิ่งไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้ว ยิ่งทำให้พวกเขาเล่นกันอย่างสบายตัวขึ้น มี เซาธ์เกต เป็นกุนซือ อันที่จริง แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ใช่กุนซือที่เก่ง ฝีมือทองสมองเพชรอะไรมากมาย ตอนคุมระดับสโมสรก็ไปได้ไม่ดี ระดับเยาวชนทีมชาติอังกฤษ ก็ไม่ดีมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ เขาได้เปรียบกุนซือคนอื่นๆ คือรู้ไส้รู้พุงเด็กๆ นักเตะพวกนี้มานานแล้ว ทำทีมจากข้างในมาโดยตลอด มีระบบมีแบบแผนใหม่ๆ ไม่จำเจ และรู้ว่าใครเล่นอะไรได้ หรือไม่ได้ การที่เขารู้จักทีมมานาน ทำให้วางแผนได้เหมาะสมและรัดกุม ไปด้วย โชคเข้าข้างมาอยู่สายอ่อน นอกจากได้โชคเข้าข้างในแต่ละเกม ได้จุดโทษบ่อยโคตรๆ แล้วเนี่ย เกมสุดท้ายที่เจอกับ เบลเยี่ยม ต้องตัดสินการเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ก็ยังโชคดีที่ไม่ชนะอีก เกมนั้นสองฝ่ายต่างส่งสำรองลง แต่ด้วยความที่เล่นกันน่าอึดอัดทั้งคู่เพราะไม่มีใครอยากชนะ สุดท้าย เบลเยี่ยม ก็ได้ประตูนำจากความฮึดของ ยานาไซ ที่ถ้าไม่ใช่นัดนี้คงไม่ได้ลง ทำให้ อังกฤษ ได้ไปอยู่สายล่าง ที่ไม่มีทีมอดีตแชมป์โลกไปรวมตัวกันเหมือนสายบน ตอนนี้ อังกฤษ ต้องเจอกับ สวีเดน หากผ่านได้ ก็จะเหลือแค่ รัสเซีย หรือ โครเอเชีย ก็จะถึงนัดชิงทันที ไม่ต้องผ่านชาติใหญ่ๆ เลย ยิงจุดโทษชนะเสียที ที่ผ่านมาการยิงจุดโทษในฟุตบอลอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญเลย แน่นอนในลีกไม่มี ในบอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ ก็เพิ่งเอามาใช้ในไม่กี่ปีมานี้เอง แต่ก่อนก็รีเพลย์กันไปกันมาตลอด ขณะที่เวลามาเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ กว่าจะมาซ้อมยิงกันก็ตองรอให้รอดรอบแรกมาก่อน แต่คราวนี้ไมใช่ โค้ชสั่งให้ซ้อมตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ยังไม่เริ่ม ทำให้ได้ซ้อมนานจำไม่ใช่แค่ชำนาญ แต่มั่นใจด้วย ทั้งคนยิง คนรักษาประตู จนมารอบ 16 ทีมคราวนี้ก็ได้ใช้เลย พวกเขาดวลกับ โคลัมเบีย แล้วชนะไปได้ 4-3 ซึ่งเป็นการดวลจุดโทษชนะชาวเป็นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ บอลโลก ของัองกฤ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline