logo-heading

ต้องบอกว่าช่วงนี้ข่าวการเตรียมจะย้ายทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาแรงแซงทุกข่าวจริงๆ เล่นเอากระแสบอลโลกซาลงไปเลย

  เม็ดเงินมูลค่า 100 ล้านยูโร คือจำนวนเงินที่ ยูเวนตุส จะต้องจ่ายให้ เรอัล มาดริด เพื่อปิดดีลนี้ แต่ทำไมทุกอย่างมันดูรวดเร็ว มาไวไปไวไปหมด มีข่าวไม่ถึงสัปดาห์ก็ใกล้จะปิดดีลนักเตะเบอร์ 1 ของโลกซะแล้ว ซึ่งไอ้ที่ทุกอย่างดูง่ายดายอาจเป็นเพราะ 2 ทีมนี้ทำธุรกิจ ซื้อ-ขาย นักเตะกันบ่อย โดยเฉพาะช่วง 10 กว่าปีหลังนี้ ทำให้อาจจะรู้ใจรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี ดังนั้นวันนี้มาเปิดประวัติการทำธุรกิจร่วมกันของ 2 ทีมนี้กันหน่อย   1.หลุยส์ เดล โซล (เรอัล มาดริด ไป ยูเวนตุส)   ย้อนกลับไปในปี 1962 เดล โซล คือนักเตะคนแรกที่มีการทำธุรกิจซื้อ-ขายกัน ระหว่าง เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส โดยหลังจากที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับทัพ "ราชันชุดขาว" ลงเล่น 55 นัด ยิงได้ถึง 22 ประตู ทั้งที่เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ ทำให้ "ไอ้ม้าลาย" ตัดสินใจกระชากตัวมาร่วมทีม และอยู่ยาวถึง 8 ปี ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ โรม่า และกลับมาปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับต้นสังกัดแรกในชีวิตอย่าง เรอัล เบติส   2.ซีเนอดีน ซีดาน (ยูเวนตุส ไป เรอัล มาดริด)   ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากการซื้อ-ขาย เดล โซล ในปี 1962 ยูเวนตุส กับ เรอัล มาดริด ก็ไม่เคยทำธุกิจร่วมกันอีกเลยจนกระทั่งปี 2001 "ราชันชุดขาว" ตัดสินใจทุ่มเงิน 77.5 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติโลกในเวลานั้น คว้าตัวยอดกองกลางแห่งยุคอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน มาร่วมทีม และกลายเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ เรอัล มาดริด กวาดแชมป์มาครองได้เพียบ ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับทีมไปในปี 2006 เท่านั้นยังไม่พอเลิกเล่นแล้ว ยังผันตัวมาเอาดีทางด้านกุนซือ กุมบังเหียนทัพ "ราชันชุดขาว" พาทีมซิว แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ปีติด แถมแชมป์ลีกอีก 1 สมัย ขึ้นชั้นตำนานของสโมสรไปเป็นที่เรียบร้อย   3.เอเมอร์สัน (ยูเวนตุส ไป เรอัล มาดริด)   หลังจากที่ ซีดาน แขวนสตั๊ดในปี 2006 เรอัล มาดริด ก็จำเป็นต้องหาตัวตายตัวแทนของ "ซิซู" ซึ่งสงสัยคงติดใจกองกลางจาก "ไอ้ม้าลาย" กระมัง เพราะยอมควักเงิน 16 ล้านยูโร สอย เอเมอร์สัน มาร่วมทีม ทว่าผลงานของเจ้าตัวยังห่างไกลจาก ซีดาน อีกมากโข ปรับตัวเข้ากับสไตล์บอลสเปนไม่ได้ ฟอร์มห่วย แถมมีปัญหาทะเลาะกับ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้เป็นโค้ชอีก ทำให้อยู่ได้ซีซั่นเดียวก็ถูกเลหลังขายทิ้งให้ เอซี มิลาน ด้วยค่าตัวสุดถูกเพียง 6 ล้านยูโร   4.ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (ยูเวนตุส ไป เรอัล มาดริด) และ (เรอัล มาดริด กลับ ยูเวนตุส)   ช่วงซัมเมอร์ปี 2006 ปีเดียวกับที่ซื้อ เอเมอร์สัน เรอัล มาดริด ก็จ่ายอีก 7 ล้านยูโร ซิวแนวรับที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกกับ อิตาลี มาหมาดๆ อย่าง คานาวาโร่ เข้ามาเสริมแกร่ง ซึ่งตอนนั้นถือว่าแอบช็อกเบาๆ ที่ค่าตัวสุดถูกขนาดนี้ แต่ก็เป็นเพราะอายุอานามที่ปาเข้าไป 32 ปีละด้วย ซึ่ง คันนาวาโร่ ก็สอบผ่านแบบสบายๆ ใช้ลูกเก๋าบวกทางบอลอันยอดเยี่ยมหยุดแนวรุกคู่แข่งได้ดี เป็นตัวหลักให้ "ราชันชุดขาว" อยู่ 3 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายกลับไปอยู่กับ ยูเว่ ในปี 2009 แบบฟรีๆ   5.อัลบาโร่ โมราต้า (เรอัล มาดริด ไป ยูเวนตุส) และ (ยูเวนตุส กลับ เรอัล มาดริด)   หลังพยายามพิสูจน์ตัวเองมา 4 ฤดูกาลว่าดีพอที่จะเป็นตัวจริงของ เรอัล มาดริด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ โมราต้า ยอมโยนผ้าขาวขอย้ายทีม ซึ่ง ยูเวนตุส เองก็เห็นแววเลยรับมาชุบเลี้ยง สนนราคาเบาๆ 20 ล้านยูโร ในปี 2014 แต่ก็มีเงื่อนไขว่า "ราชันชุดขาว" สามารถซื้อคืนได้ ซึ่ง โมราต้า ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อเนื่องสมใจ ผลงานถือว่าใช้ได้เลย ทำให้เริ่มมีทีมดังๆ สนใจ พร้อมจ่ายค่าตัวกระชากไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด เห็นแววว่าจะฟันกำไรได้แน่ จึงตัดสินใจใช้ออปชั่นซื้อกลับในปี 2016 ใช้บริการอยู่ฤดูกาลเดียว ก็ขายต่อให้ เชลซี ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ฟันกำไรสบายๆ   6.ซามี เคดิร่า (เรอัล มาดริด ไป ยูเวนตุส)   หลังจากโดนอาการบาดเจ็บ เล่นงานอยู่บ่อยครั้งในระหว่างปี 2013-2015 ทำให้ เรอัล มาดริด ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ยอมปล่อยให้เป็นฟรีเอเย่นต์ย้ายทีมได้แบบฟรีๆ จึงเข้าทาง ยูเวนตุส ที่ชอบเอาของฟรีมาชุบเลี้ยงอยู่แล้ว ด้วยวัยตอนนั้นแค่ 28 ปี ดีกรีตัวจริงทีมชาติเยอรมัน เอามาต่อให้เจ็บ ก็เสียค่ารักษานิดหน่อย แต่ถ้าไม่เจ็บเล่นได้ก็คุ้มแน่นอน ปัจจุบันอยู่กับ "ม้าลาย" มา 3 ฤดูกาลแล้ว อาการบาดเจ็บยังมีรบกวนอยู่บ้าง แต่ไม่มาก ซึ่งถ้าไม่เจ็บก็ได้ลงเป็นตัวจริงประจำ  

และนี่คือประวัติการซื้อ-ขาย ทำธุรกิจร่วมกันระหว่าง ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ดูแล้วผู้บริหารน่าจะคุยกันถูกคอ มีแววที่ดีล "พี่โด้" จะจบลงเร็วๆ นี้ สูงมาก

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline