logo-heading

ดูจากการลงทุนเสริมความแข็งแกร่งของ ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์นี้แล้วรู้สึกได้ว่ามันเป็นการเสริมทัพที่ดีกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาจริงๆ

เราจะคุ้นชินบ่อยๆ กับ ลิเวอร์พูล ซึ่งในแต่ปีมักจะมีบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสโมสรออกมาประกาศกร้าวพวกเขาจะเป็นแชมป์แน่นอนในปีนั้น แต่ผลสุดท้ายมันก็ไม่เกิดสักทีจนบางทีแฟนๆ อาจจะรู้สึกเอือมๆ ไปบ้าง แต่พอมาวันนี้ดูจากองค์ประกอบต่างๆ มันเหมือนจะดูเวิร์คกว่าทุกๆ ครั้ง และมันอาจส่งผลให้ฝันของพวกเขาเป็นจริงสักทีในการเถลิงบัลลงก์แชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 1990 และนี่คือ 4 เหตุผลที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้

1.แก้ไขปัญหาผู้รักษาประตูได้แล้ว

จากการใช้ ซิมง มินโญเลต์ และ ลอริส คาริอุส ดูเหมือนมันจะเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ก้าวไปไม่ถึงฝันในการสัมผัสกับถ้วยแชมป์สักที เพราะความผิดพลาดง่ายๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยจนเกินให้อภัย ดังนั้นการมีนายทวารมือดีๆ มาช่วยให้อุ่นใจมันก็อาจเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่พวกเขากำลังหาอยู่ และมันกำลังจะเกิดขึ้นกับตัว อลิสสัน โกล์ของ โรม่า ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วทั้งใน อิตาลี, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงกับทีมชาติ บราซิล ลิเวอร์พูล กำลังจะได้ตัวไอ้หมอนี่มาด้วยค่าตัวสถิติโลกของตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ 67 ล้านปอนด์ ถ้าจะถามว่าค่าตัวมันแพงเกินไปไหม ? ก็แพง แต่มันก็น่าลงทุนอยู่นะ เพราะนี่คือผู้รักษาประตูที่มีเปอร์เซนต์เซฟประตูสำเร็จเป็นอันดับ 2 ของ 5 ลีกดังยุโรปที่ 80.1 % เป็นรองแค่ แยน โอบลัค ของ แอตเลติโก มาดริด เท่านั้นที่ 85.8 %

2.เดยัน ลอฟเรน กลับมามีฟอร์มที่แข็งแกร่ง และมีความมั่นใจมากขึ้น

ปัญหาในแนวรับก็คล้ายๆ กับปัญหาในตำแหน่งผู้รักษาประตู เพราะที่ผ่านมาเกมรับของ ลิเวอร์พูล ก็ถือเป็นจุดอ่อนเหมือนกัน ซึ่งตัว เดยัน ลอฟเรน ก็เป็นคนที่ถูกด่าเยอะในเรื่องความผิดพลาดที่เกิดขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมา แต่หากดูจากฟอร์มกับทีมชาติ โครเอเชีย ใน ฟุตบอลโลก 2018 ก็นับว่าแข็งแกร่งใช้ได้เลย และนั่นก็น่าจะช่วยยกระดับความมั่นใจให้กับพี่แกได้มากทีเดียว ยิ่งได้ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ มาเป็นพาร์ทเนอร์ มันก็เหมือนจะเป็นคู่ดูโอ้ที่ลงตัวมากๆ จริงๆ ‘มันคือสิ่งที่วิเศษสำหรับผม ในมุมมองของหลายๆ คนคิดว่าผมจะกลายเป็นตัวปัญหา แต่ผมว่ามันไม่ใช่นะ ผมพา ลิเวอร์พูล เข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และตอนนี้ผมพา โครเอเชีย เข้าถึงรอบชิง ฟุตบอลโลก 2018 ได้แล้ว ผมว่าทุกคนควรจะรู้สึกได้แล้วนะว่าผมนั้นคือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลก อย่ามาสบประมาทผมอีกเป็นอันขาด’ ลอฟเรน ได้กล่าวไว้

3.แดนกลางที่แข็งแกร่งและมีมิติมากขึ้น

ถ้าไปวัดกับทีมใหญ่ๆ ด้วยกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่าศักยภาพของผู้เล่นในแผงกองกลางอาจจะสู้ใครไม่ค่อยได้เท่าไหร่กับการมี จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม ลัลลาน่า, เจมส์ มิลเนอร์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่ในช่วงซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล ได้ 2 สตาร์ใหม่มานั่นคือ ฟาบินโญ่ จาก โมนาโก และ นาบี เกอิต้า จาก อาร์บี ไลป์ซิก ทั้ง 2 แข้งรายนี้เป็นผู้ที่มีความรวดเร็วคล่องตัว, ความแข็งแกร่ง และความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะข้อหลังสุดน่าจะกำลังเป็นที่ต้องการสำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะได้เห็นกองกลางของ ลิเวอร์พูล มีมิติและความหลากหลายมากขึ้น

4.มี 3 ทหารเสือที่ดีที่สุดในโลก

การมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ ลิเวอร์พูล มีลุ้นความสำเร็จในพักหลัง พวกเขา 3 คนซัดไปรวมกัน 57 ประตูให้กับสโมสรใน พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และอีกมากมายในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นอกจากนี้ทั้ง 3 คนก็ยังมีจุดเด่นที่เหมือนๆ กันนั่นคือเทคนิค, ความรวดเร็วคล่องตัว มันจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะสับเปลี่ยนตำแหน่งทดแทนกันได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือทั้ง ซาลาห์, ฟีร์มีโน่ และ มาเน่ อายุยังน้อยและยังสด มันเหมาะสมอย่างมากกับแท็คติกของ คล็อปป์ ที่เน้นใช้พละกำลังของตัวนักเตะเป็นหลักในแท็คติกต่างๆ จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วไม่ว่าใครต่างก็ยกย่องว่านี่คือหน่วย 3 ทหารเสือที่อันตรายที่สุด ณ เวลานี้  

-HaMuDosSantos- 

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline