สัปดาห์นี้มีลีกใหญ่ๆ เปิดทำการเพิ่มเติมนั่นคือ ลา ลีกา และ กัลโช่ เซเรีย อา และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมาย จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน !!!
แฮร์รี่ เคน ล้างอาถรรพ์
แฮร์รี่ เคน ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องจักรสังหารอีกคนหนึ่งของวงการลูกหนังที่มักยิงประตูถล่มทลายเสมอ ทว่าชีวิตของพี่แกเองเหมือนจะมีอาถรรพ์อยู่เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถทำประตูได้เลยในช่วงเดือนสิงหาคมไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตามอาถรรพ์ดังกล่าวได้ถูกทำลายลงแล้วในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ชนะ ฟูแล่ม 3-1 โดย แฮร์รี่ เคน เป็นคนยิงปิดกล่องลูกที่ 3Thank you for your fantastic support today ?#COYS pic.twitter.com/C96OTQp8Qi
— Tottenham Hotspur (@SpursOfficial) August 18, 2018
แชมป์เก่าลีกดังเก็บ 3 คะแนนได้หมด
เหล่าบรรดาทีมแชมป์เก่ามีคิวลงเตะกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาถึง 3 ทีมไม่ว่าจะเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, ยูเวนตุส และ บาร์เซโลน่า และพวกเขาสามารถเอาชนะได้ท้้งหมด แถมยังยิงได้ทีมละ 3 ประตูด้วย (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ชนะ แก็งก็อง 3-1, ยูเวนตุส ชนะ คิเอโว่ 3-2 และ บาร์เซโลน่า ชนะ อลาเบส 3-0)bon travail d'équipe ???? @KMbappe Crack ? pic.twitter.com/fHKnVNCN3s
— Neymar Jr (@neymarjr) August 18, 2018
โรนัลโด้ กับความผิดหวัง
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายจาก เรอัล มาดริด มา ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวที่แพงถึง 105 ล้านยูโร และเหล่าบรรดาแฟนบอลรวมถึงหลายๆ ฝ่ายต่างก็คาดหวังเอาไว้มากว่าจะได้เห็นพี่แกกระซวกตาข่ายในเกมกับ คิเอโว่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับกลายเป็นทางตรงกันข้ามเมื่อเจ้าของโค้ดเนม CR7 ไม่สามารถทำให้แฟนๆ สมหวังได้ แถมยังไปปะทะกับ สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ นายทวารทีมคู่แข่งจนดั้งหักอีกด้วย«Nel calcio non conta essere favoriti sulla carta, conta quello che dice il campo»
— JuventusFC (@juventusfc) August 18, 2018
Le parole del match-winner @fbernardeschi ➡️ https://t.co/71rbebkjhI #ChievoJuve #ForzaJuve pic.twitter.com/SWWvaUqnUB
สถิติอันเลวร้ายของ อูไน เอเมรี่
นับวันยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้นสำหรับ อูไน เอเมรี่ กับการพา อาร์เซน่อล ติดต่อกัน 2 นัด ถึงแม้มันจะเข้าใจได้ดีว่านั่นคือการเจอกับทีมใหญ่ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี แต่ อาร์เซน่อล เองก็เป็นทีมใหญ่ดังนั้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เลยทำให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมายตามมา และความพ่ายในเกมเมื่อวานนี้ต่อ เชลซี 2-3 ทำให้ อูไน เอเมรี่ เป็นผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล คนแรกที่คุมทีมแพ้และแพ้ 2 เกมแรกต่อจาก สตีฟ เบอร์เทนชอว์ ที่พาทีมแพ้ 3 เกมรวดในปี 1986Thank you so much for your great support in our first day at home. Today we look ahead and push ourselves to work harder. And doing it together, for you to enjoy. Go @Arsenal ! pic.twitter.com/UFRpxPZsMe
— Unai Emery (@UnaiEmery_) August 13, 2018
ความร้อนแรงของ ริชาร์ลิซอน
หลายคนอาจจะสงสัยว่านักเตะธรรมดาอย่าง ริชาร์ลิซอน ปีกดาวรุ่งร่างบึ้กทำไมถึงย้ายทีมด้วยค่าตัวที่แพงจัง หลังได้ย้ายจาก วัตฟอร์ด ไป เอฟเวอร์ตัน ด้วยตัวเลข 50 ล้านปอนด์ (รวมทุกเงื่อนไข) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพี่แกซัดไป 3 ประตูแล้วจาก 2 เกมที่ได้ลงเล่น นำเป็นดาวซัลโว ณ เวลานี้ ที่สำคัญคือเขามีส่วนสำคัญอย่างมากกับเกมบุกของทีมทั้งความเร็ว, ความคล่องตัว และความแข็งแกร่งมันสามารถสร้างปัญหาในแนวรับคู่แข่งได้มากที่เดียว3️⃣ goals in their first 2️⃣ #PL games for @Everton…
— Premier League (@premierleague) August 18, 2018
Brian McBride - January 2003
Romelu Lukaku - September 2013
RICHARLISON - August 2018 pic.twitter.com/iqnNu8Vg34
ความโหดที่เคยชินของ ลิโอเนล เมสซี่
ในขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในช่วงปรับตัวกับชีวิตใหม่ที่ ยูเวนตุส ตัดภาพกลับมาที่ ลิโอเนล เมสซี่ นักเตะที่ดีที่สุดในโลกอีกคนหนึ่งก็ยังทำผลงานได้ตามมาตรฐานและโหดจัดเหมือนเดิม ซึ่งในเกมกับ อลาเบส เมสซี่ ก็จัดไปเบาๆ 2 เม็ดพา บาร์เซโลน่า ชนะ 3-0 โดยทีเด็ดอยู่ที่ประตูแรกที่ยิงฟรีคิกลอดกำแพงก็มาจากความอัจฉริยะของแกล้วนๆ ส่วนประตูที่ 2 ของแกก็เป็นประตูปิดกล่องในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+2⚽ GOAL 6️⃣0️⃣0️⃣0️⃣ in @LaLigaEN: Keep them coming! ?
— FC Barcelona (@FCBarcelona) August 18, 2018
??#BarçaAlavés pic.twitter.com/gjB9uy3L7B
เอ็มบัปเป้ กับ 8 นาที 2 เม็ด
หลังจากสร้างปรากฏการณ์มาใน ฟุตบอลโลก 2018 จนพา ฝรั่งเศส สานฝันไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกสสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ดูเหมือน คีเลียน เอ็มบัปเป้ จะฉายแววความเป็นเด็กนรกได้มากขึ้น โดยในเกมกับ แก็งก็อง เมื่อวานนี้คือเกมแรกที่เขาได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้ และก็จัดไปเบา 2 ประตูในช่วงเวลาแค่ 8 นาทีเท่านั้น โดยได้แอสซิสต์จาก อังเคล ดิ มาเรีย และ เนย์มาร์Mbelievable? Mbrilliant? Mbloody hell good? ? pic.twitter.com/CY8iZGU1bZ
— Paris Saint-Germain (@PSG_English) August 18, 2018