หลายคนคงทราบกันแล้วว่า เบอร์ 7 คนต่อไป ที่จะเข้ามาสืบทอดพวกตำนานอย่าง เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่, ราอูล กอนซาเลซ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือนักเตะที่มีชื่อ มาเรียโน่ ดิอาซ หัวหอกสายเลือด "กระทิง" ซึ่ง เรอัล มาดริด ตัดสินใจใช้ออปชั่นซื้อตัวกลับมาด้วยเม็ดเงิน 23 ล้านยูโร ทั้งๆที่ขายออกไปเพียงแค่ 8 ล้านยูโรเท่านั้น
แน่นอนการต้องเสี่ยงกับความกดดัน เป็นสิ่งที่ มาเรียโน่ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเหล่าตำนานเบอร์ 7 ได้สร้างผลงานกับ "ราชันชุดขาว" อันเลื่องลือไว้มากมาย ขนาดยังไม่ทันเริ่ม มาเรียโน่ ชายผู้เข้าสู่วัยเบญจเพส ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่เชื่อเถอะว่าเขาได้เตรียมใจมารออยู่แล้ว เพื่อเป็นการเรียนรู้นักเตะหมายเลข 7 คนใหม่ของ เรอัล มาดริด มาดูกันว่าโปรไฟล์เขาเป็นอย่างไร
1) ปู่ของเขาเป็นนักฟุตบอล ส่วนคุณพ่อเป็นนักเพาะกาย มาเรียโน่ ดิอาซ เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของครอบครัว โดยคุณปู่ของเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ส่วนคุณพ่อเป็นนักเพาะกาย อยู่ในแคว้นกาตาลุนญ่า และ นั่นคือสถานที่ที่นักเตะรายนี้ลืมตาดูโลก โดยช่วงเป็นเยาวชน เขาเป็นเด็กฝึกของ เอสปันญ่อล และ บาดาโลน่า ทีมจากเมืองบ้านเกิด ก่อนจะย้ายไปสู่รั้ว เรอัล มาดริด ในปี 2011 ซึ่งทำให้ตอนนี้ "ราชันชุดขาว" มีผู้เล่นฐานกำเนิดจากแคว้นกาตาลุนญ่า 2 คน ร่วมกับ กีโก้ กาซีย่า 2) เป็นเด็กฝึกของ เอสปันญ่อล แต่กลับถูกปฏิเสธ เพราะเขาเตี้ยเกินไป มาเรียโน่ เข้าร่วมเป็นนักเตะ เอสปันญ่อล รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และได้เข้าร่วมแข่งขันทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล 7 คนรายการดัง ซึ่งจัดโดย กานาล ปลุส สื่อกีฬาชื่อดังจากฝรั่งเศส แต่ มาเรียโน่ แทบไม่ได้รับโอกาสเท่าไหร่ เพราะสตาฟฟ์โค้ชไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเขามากนัก โดย 2 ฤดูกาลสุดท้าย ก่อนที่ มาเรียโน่ ต้องถูกเขี่ยออกจาก เอสปันญ่อล เพราะโดนปฏิเสธจากทีมงาน โดยให้เหตุผลว่า "ตัวเตี้ยเกินไป" นี่คือคำบอกเล่าจากคนใกล้ชิด 3) มาเรียโน่ ใฝ่ฝันติดทีมชาติสเปน ชุดใหญ่ แต่เขาเคยเล่นให้กับทีมชาติโดมินิกัน มาเรียโน่ ดิอาซ ใฝ่ฝันกับการค้าแข้งให้กับทีมชาติสเปน แผ่นดินเกิดของบิดามาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลว่าทำไม โดมินิกัน ซึ่งเป็นประเทศของมารดา จึงไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม มาเรียโน่ ก็เคยเล่นให้กับ โดมินิกัน มาแล้ว 1 ครั้ง สมัยเมื่อปี 2013 ซึ่งขณะนั้นเขาอยู่กับทีม เรอัล มาดริด ชุดซี เพราะ โดมินิกัน ต่อสายตรงเข้ามาขอร้องให้เขาไปช่วยลงเล่นนัดอุ่นเครื่องพบกับ เฮติ และ เขาก็ทำประตูให้ทีมชนะไปได้ 3-1 อย่างไรก็ตามนั่นคือแมตช์เดียวที่ มาเรียโน่ ดิอาซ ลงเล่นให้กับ โดมินิกัน พร้อมปฏิเสธคัมแบ็กไปช่วยอีกแล้ว เพราะอย่างน้อยดาวยิงรายนี้ ยังสามารถถูกเรียกติดทีมชาติสเปน ได้อยู่เหมือนเดิม โดยต้องขึ้นอยู่กับ หลุยส์ เอ็นริเก้ เฮดโค้ช "กระทิงดุ" แล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร 4) ซีเนอดีน ซีดาน เป็นเหมือนผู้ช่วยชีวิต ช่วงครึ่งซีซั่นของฤดูกาล 2014-15 มาเรียโน่ ดิอาซ เคยได้รับบาดเจ็บอย่างหนักบริเวณกล้ามเนื้อ ทำให้อนาคตของเขากับ เรอัล มาดริด ถึงขั้นมืดมน ต่อให้จะเล่นอยู่เพียงชุดสำรอง โดยเจ้าตัวเลือกขอคำปรึกษากับ ซีเนอดีน ซีดาน อดีตนายเก่า ซึ่ง ซิซู ให้คำแนะนำไปหาผู้เชี่ยวชาญชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ นับตั้งแต่นั้นมา มาเรียโน่ ดิอาซ ก็แทบไม่เจอกับปัญหาเดี้ยงมารบกวนอีกเลย 5) เป็นดาวซัลโวอันดับ 2 ของนักเตะสัญชาติสแปนิช จาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป การย้ายไปอยู่กับ โอลิมปิก ลียง และ สร้างผลงานแบบฮอตปรอทแตก เป็นเหมือนตัวชุบชีวิตเขาในโลกลูกหนังออกมาอีกครั้ง หลังซัลโวในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาล 2017-18 ไปถึง 18 ประตู มีเพียง ยาโก้ อัสปาส เท่านั้น ที่เป็นนักเตะสเปน และ ทำประตูได้มากกว่า (22 ประตู) จนได้รับสมญานามจากแฟนบอล "โอแอล" ว่า "ไอ้สัตว์ประหลาด" 6) มีวิสัยทัศน์พร้อมทำประตูทุกเมื่อ มาเรียโน่ ดิอาซ มีสัญชาตญาณความเป็นกองหน้าหมายเลย 9 เพราะเขากระหายการทำประตูตลอดเวลา แน่นอนการย้ายกลับคืนสู่รัง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว จำเป็นจะต้องมาเบียดกับ คาริม เบนเซม่า กองหน้าตัวหลัก ซึ่งแน่นอนมันเป็นงานหนักสำหรับดาวเตะวัย 25 ปี อย่างไรก็ตาม เครัลด์ บาติเคิ่ล ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ลียง เคยยกย่อง มาเรียโน่ ดิอาซ ไว้ว่า "ดิอาซ เป็นนักเตะตัวทำประตูขนานแท้ ในสถานการณ์ที่คนอื่นอาจจะเลือกจ่ายบอล แต่สำหรับ ดิอาซ เขามองหาโอกาสทำประตูอยู่เสมอ เขาจะยืนอยู่ตรงกลางกรอบเขตโทษ เพื่อรอส่งบอลซุกตาข่าย" ซีซั่นก่อนที่ มาเรียโน่ ดิอาซ จะย้ายทีม เขาได้รับโอกาสลงสนามในศึก โกปา เดล เรย์ ฤดูกาล 2016-17 สมัย ซีดาน กุมบังเหียน ซึ่งเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มกดไป 4 ตุง จากการลงสนาม 5 นัด ไม่ธรรมดาจริงๆ 7) สไตล์การเล่นที่เหมาะกับ มาเรียโน่ ดิอาซ อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นก่อนหน้านี้ มาเรียโน่ ดิอาซ มีความเป็นกองหน้าหมายเลข 9 นั่นคือเป็นตัวจบสกอร์เท่านั้น หมายความว่าถ้าเป็นระบบการเล่น 4-3-3 น่าจะเป็นแผนการเล่นที่เจ้าตัวชื่นชอบมากที่สุด หากเขามีความมั่นใจ และ เฉียบคมแบบสมัย ลียง ประตูคงไหลมาเทมา เพราะตัวป้อน ตัวจ่ายเยอะเหลือเกิน แต่ทว่าการลงสนามอาจจะต้องถูกจำกัดสัดนิดหนึ่ง ด้วยความที่ เบนเซม่า โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดตีนในช่วงนี้ กระนั้นเชื่อเถอะว่าดาวเตะหมายเลข 7 จะไม่ต้องนั่งสำรองจนตูดด้าน เพราะ ฆูเลน โลเปเตกี จะมีการหมุนเวียนโรเตชั่นแน่นอน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม 
