logo-heading

เปิดสัปดาห์สุดฮอตของ เอ็มบัปเป้ แรงแบบอะไรก็ฉุดไม่อยู่ เพราะนอกจากผลงานสุดปังแล้ว ยังได้รับขึ้นปกนิตยสารอันดับ 1 ของโลก อีกด้วย

เรียกว่าชั่วโมงนี้ไม่มีใครฮอตปรอทแตกไปกว่า คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงตัวเทพทีมชาติฝรั่งเศส ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อีกแล้ว เพราะล่าสุดก็ลงมาเป็นตัวสำรอง ทำ 1 ประตู ช่วยให้ทัพ "ตราไก่" ไล่ตามตีเสมอ ไอซ์แลนด์ 2-2 ในเกมอุ่นเครื่อง พร้อมกับได้สร้างผลงานขึ้นมาใหม่อีกแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสัปดาห์ที่สุดยอดของนักเตะรายนี้เลยทีเดียว เพราะได้สร้างสถิติอะไรหลายๆ ไปดูกันว่าสัปดาห์นี้ เอ็มบัปเป้ ฮอตแค่ไหน วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2018
  • การกดแฮตทริค ในการแข่งขัน 1 แมตช์ เป็นอะไรที่โคตรยาก และ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่การทำคนเดียว 4 ตุง เป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า แต่ทว่า คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ทำให้แฟนบอลได้เห็นเป็นขวัญตา ด้วยการซัดคนเดียว 4 ประตู พาทัพ "เปแอสเช" ถล่ม โอลิมปิก ลียง 5-0 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 13 นาที เท่านั้น ซึ่งนับเป็นเวลาเร็วสุดของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ในรอบ 45 ซีซั่นเลยทีเดียว .. ไม่รู้ว่าสถิติแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่
วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2018
  • หลังเพิ่งกดคนเดียวมา 4 ประตู ได้เพียงวันเดียว คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ก็มีชื่อเข้าชิงรางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปี 2018 ตามความคาดหมาย จากผลงานอันโหดเหี้ยมตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ไม่ว่าจะเป็นคนสำคัญช่วยให้ "เปแอสเช" ซิวทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศฝรั่งเศส และ ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นก็มาจากผลงานที่ฝากไว้บนเวที ฟุตบอลโลก 2018 หลังโชว์กระชากลากเลื้อยจนนำทัพ "ตราไก่" ซิวแชมป์โลกสมัย 2 มาครอง
  • นอกจากนี้ เอ็มบัปเป้ ยังมีชื่อรางวัลใหม่ ของ ฟรองซ์ ฟุตบอล นั่นคือ "โกปา โทรฟี่" หรือ ดาวรุ่งยอดเยี่ยม ด้วยเช่นกัน โดยจะไปลุ้นกับอีก 9 คน
วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018
  • ด้วยความเป็นเด็กมหัศจรรย์ อายุเพียงแค่ 19 ปี แต่สามารถคว้าแชมป์ในวงการลูกหนังมาครองได้มากมาย ทำให้ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ โด่งดังเป็นพลุแตกยิ่งกว่าเดิม เมื่อเจ้าตัวได้รับเกียรติให้ขึ้นปก "TIME" นิตยสารยักษ์ใหญ่จากอเมริกา ซึ่งได้รับการยอมรับว่าทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านี้ในวงการลูกหนัง เคยขึ้นมาเพียง 3 คน เท่านั้น ประกอบด้วย ลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ และ มาริโอ บาโลเตลลี่
  • ปิดท้ายกันด้วยเกมที่ ฝรั่งเศส ไล่ตามตีเสมอ ไอซ์แลนด์ 2-2 และ เอ็มบัปเป้ ลงมาเป็นสำรอง ซัดจุดโทษช่วงท้ายเกม ทำให้ทีมไม่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ส่งผลให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะเฟร้นช์แมนคนแรก ที่ยิงในนามทีมชาติได้แตะหลัก 10 ลูก ก่อนอายุ 20 ปี
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline