ปัจจุบันสโมสร เชลซี ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ระดับโลก มีนักเตะฝีเท้าดีมากมาย, มีฐานแฟนบอลแน่น, มีฐานการเงินที่มั่นคง ตลอดจนการกอบโกยความสำเร็จมากมาย
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรขึ้นมาเมื่อปี 1905 มันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับ เชลซี และนี่คือ 5 ความจริงที่น่าสนใจซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับพวกเขามาก่อน...จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน
เคยสวมเสื้อคู่แข่งลงเตะใน พรีเมียร์ลีก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน ปี 1997 เชลซี มีคิวบุกไปเยือน โคเวนทรี่ ซิตี้ ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ ไฮฟิลด์ โร้ด แต่พวกเขากลับไม่ได้สวมยูนิฟอร์มของตัวเองลงแข่ง เพราะในตอนนั้นชุดทีมเหย้าของ โคเวนทรี่ ซิตี้ คือสีฟ้าอ่อน และ เชลซี ก็ไปเยือนด้วยสภาพที่ตอนนั้นมีแค่ชุดเหย้าอย่างเดียว จึงทำให้ทางผู้ตัดสินคิดหาทางออกและผลสุดท้ายก็คือพวกเขาต้องไปเอาชุดเยือนของ โคเวนทรี มาใส่ลงแข่ง โดยเป็นชุดตารางหมากรุกสีดำ-แดงกับกางเกงน้ำเงิน
เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวของ เชลซี ที่ยิงประตูได้ถึง 7 รายการในซีซั่นเดียว
ลงทุนซื้อตัวมามหาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ช่วงมกราคม 2011 แต่กลับโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังสุดๆ กับ เชลซี สำหรับ เฟร์นานโด ตอร์เรส อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2012-13 เจ้าของฉายา 'เอล นินโญ่' ก็ได้จารึกสถิติหนึ่งไว้ซึ่งยังไม่มีแข้ง เชลซี คนไหนทำลายได้ โดยเป็นสถิติการยิงประตูได้ใน 7 รายการที่แตกต่างกันใน 1 ซีซั่น โดยพี่แกยิงประตูได้ใน คอมมูนิตี้ ชิลด์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, สโมสรโลก, แคปิตอล วัน คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
เชลซี เคยเล่นในสนามหิมะมาก่อน
เชลซี ได้เล่นแค่ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เท่านั้นในฤดูกาลนี้ซึ่งทุกท่านน่าจะทราบดี แต่หารู้ไม่ว่าในอดีตที่ผ่านมานั้น เชลซี เคยมีคิวเตะบอลรายการของ ยูฟ่า ในสนามพื้นหิมะมาแล้ว โดยแมตช์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม 1997 ที่ เชลซี มีคิวบุกไปเยือน ทรอมโซ่ ใน นอร์เวย์ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่หิมะตกหนักมากจึงทำให้การแข่งขันในแมตช์นี้ต้องเลื่อนออกไปถึง 2 ครั้ง เพราะต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ตีเส้นกรอบสนาม บวกกับเคลียร์กองหิมะให้ดูเอื้ออำนวยที่สุดในการเตะบอล ซึ่งวันนั้น เชลซี ของ รุด กุลลิท แพ้ไปก่อน 2-3 ในเลกแรก ก่อนจะกลับมาถลุง 7-1 ในนัดที่ 2
เชลซี เคยขายทีมด้วยราคา 1 ปอนด์
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1982 เชลซี ช่วงนั้นยังไม่ใช่ทีมใหญ่ พวกเขาประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก มีหนี้ท่วมหัว และไม่สามารถจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักเตะได้ ทำให้ตอนนั้นนักธุรกิจอย่าง เคน เบตส์ ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ด้วยเงิน 1 ปอนด์ (ย้ำว่าแค่ 1 ปอนด์) เพื่อหาเงินใช้หนีจำนวน 1.5 ล้านปอนด์
ถึงแม้ปัจจุบันตัวเลข 1.5 ล้านปอนด์มันจะน้อยมากๆ แต่ตอนนั้นมันสาหัสมากเอาตายได้เลยทีเดียว แต่ เบตส์ ก็วางรากฐานใหม่หมดและพา เชลซี เติบโตยิ่งขึ้นราวกลับหน้ามือเป็นหลังเท่าด้วยการดึง เกล็น ฮ็อดเดิ้ล มาคุมทัพ ก่อนจะมาโด่งดังกระฉ่อนมากขึ้นในยุคของ รุท กุลลิท และตามด้วย จานลูก้า วิอัลลี่ ก่อนท้ายที่สุดจะได้สถาปนาตัวเองสู่การเป็นยักษ์ใหญ่เต็มตัวเมื่อ 'เสี่ยหมี' โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์ ในปี 2003
เชลซี คือสโมสรแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่ 11 แข้งตัวจริงไม่ใช่คนในสหราชอาณาจักร
ย้อนเวลากลับไปในช่วง บ็อกซิ่ง เดย์ ปี 1999 จานลูก้า วิอัลลี่ ที่เป็นกุนซือ ณ ตอนนั้นได้สร้างประวัติศาสตร์ในระดับ ฟุตบอล ลีก กว่า 111 ปี 3 เดือนกับอีก 17 วัน ด้วยการส่ง 11 ผู้เล่นตัวจริงลงสนามวันเจอ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่กลับไม่มีผู้เล่นชาวบริทิชอยู่เลยสักคนเดียว
เชลซี ชุดไร้แข้งจากแดน สหราชอาณาจักร (4-4-2)
ผู้รักษาประตู : เอ็ด เดอ ฮุย (ฮอลแลนด์)
กองหลัง : อัลเบิร์ต เฟร์เรร์ (สเปน), เซเลสติน บาบายาโร่ (ไนจีเรีย), เอเมอร์สัน โธม (บราซิล), ฟร้องค์ เลอเบิฟ (ฝรั่งเศส)
กองกลาง : แดน เปเตรสคู (โรมาเนีย), ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ (ฝรั่งเศส), กุส โปเยต์ (อุรุกวัย), โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ (อิตาลี)
กองหน้า : (กาบริเอเล่ อัมโบรเซตติ), ทอเร่ อังเดร โฟล (นอร์เวย์)
-HaMuDosSantos-