ใครฆ่าเฮียมู? รวมผู้ต้องสงสัย ปลิดชีพ ผู้นำตระกูลปีศาจแดง

ถึงแม้ละครซีรี่ย์ดังเรื่อง 'เลือดข้นคนจาง' จะปิดจอไปแล้วทางช่องโทรทัศน์ เช่นเดียวกับแฮชแท็กดัง #ใครฆ่าประเสริฐ บนโลกโซเชี่ยลมีเดีย

แต่วันที่ 18 ธันวาคม 2018 ทาง 'ขอบสนาม' ขอนำเอาแฮชแท็กดังกล่าวกลับมาใช้อีกครั้ง ทว่าไม่ใช่ #ใครฆ่าประเสริฐ แต่จะเป็น #ใครฆ่าเฮียมู ต่างหาก สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศสั่งปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งกุนซือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเหตุผลนั้นก็คงไม่ต้องพูดถึงว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะทรงบอลกับฟอร์มการเล่นนั่นแหละคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้ว ที่ผ่านมาคำถามเรื่อง 'การเล่นไล่โค้ช' มันเคยถูกตั้งเป็นประเด็นมาแล้วครั้งหนึ่ง และเมื่อท้ายที่สุด มูรินโญ่ เกิดชะตาขาดขึ้นมาจริงๆ คำถามดังกล่าวมันก็ได้ย้อนกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งว่า 'ใครฆ่าเฮียมู ?'

ผู้ต้องหาคนที่ 1 : นาย ปอล ป็อกบา

ถ้าเปรียบเทียบตระกูลจิระอนันต์เป็นสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นาย ปอล ป็อกบา ก็เหมือนเป็นลูกชายคนโตที่ปัจจุบันมบทบาทอย่างมากกับการทำงานให้ตระกูล 'ปีศาจแดง' นาย ป็อกบา ได้รับคำชื่นชมมากมายเรื่องพรสวรรค์ฝีเท้าและก็มีความสำเร็จมากมายประดับไว้ในเกียรติประวัติทั้งกับ ยูเวนตุส และทีมชาติ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวกลับมีปัญหามากมายกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ถ้าเปรียบเทียบแท็คติกด้านลูกหนังเป็นการบริหารงานออฟิศก็เหมือนกับว่า มูรินโญ่ จะไม่ชอบแนวทางและทัศนคติของ ป็อกบา สักเท่าไหร่ จนเกิดเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์ และเมื่อ มูรินโญ่ ชะตาขาดไม่มีโอกาสได้เป็นผู้นำกระกูล 'ปีศาจแดง' อีกต่อไปชื่อของ ปอล ป็อกบา จะติดโผเป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์ต้นๆ แน่นอน เพราะดูแล้วเจ้าตัวน่าจะเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว แถมล่าสุดหลังจากที่เฮียมู โดนพิฆาตไป ก็พันโพสต์รูปชวนน่าสงสัย ราวกับว่าสุขใจกับข่าวนี้อีกต่างหาก

ผู้ต้องหาคนที่ 2 : นาย อเล็กซิส ซานเชซ

สำหรับผู้ต้องหาคนต่อไปที่จะโดนเรียกตัวมาให้สอบสวนแน่ๆ คือ นาย อเล็กซิส ซานเชซ เพราะนี่คือผู้ที่ได้รับมรดกมากที่สุดในพินัยกรรมโดยได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานช่วยตระกูล 'ปีศาจแดง' เป็นตัวเลขกลมๆ สัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ แต่เหมือน นาย โชเซ่ มูรินโญ่ พยายามจะเฉดหัวทิ้งออกจากคฤหาสน์ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะทำผลงานได้ไม่ตรงตามผังงานที่เจ้าตัววางเอาไว้ ถ้าเปรียบเทียบเรื่องสไตล์การทำงานของทั้งคู่ก็ถือว่าสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เพราะ นายออเล็กซิส ชื่นชอบการทำงานแบบบุกตะลุยก้าวไปข้างหน้า กล้าได้กล้าเสียซึ่งสวนทางกับนโยบายของนาย มูรินโญ่ ที่ชอบดูเชิงไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยกล้าเสี่ยงแต่กลับพยายามเน้นกินน้อย ๆ เน้นผลกำไรที่แน่นอนมากกว่า ทั้งที่ชื่อชั้นของตระกูล ‘ปีศาจแดง’ ก็ไม่ได้เป็นสองรองจากคู่แข่งเลย ดังนั้นเมื่อ มูรินโญ่ ไม่อยู่แล้ว นาย อเล็กซิส จะได้รับผลประโยชน์แน่นอน เพราะมีโอกาสที่เขาจะกลับมามีบทบาทสำคัญกับตระกูล 'ปีศาจแดง' อีกครั้ง

ผู้ต้องหาคนที่ 3 : นาย อองโตนี่ มาร์กซิยาล

นาย อองโตนี่ มาร์กซิยาล เปรียบเสมือนลูกเมียน้อยที่คอยถูกกีดกันจากครอบครัวเมียหลวงอยู่เสมอๆ ชีวิตของนาย อองโตนี่ มาร์กซิยาล ค่อนข้างดีและไปได้สวยสุดๆ ในยุคที่ผู้นำตระกูลยังเป็นนาย หลุยส์ ฟาน กัล และแทบจะเป็นคนที่สร้างความสำเร็จและกำไรให้บริษัทได้มากที่สุดทั้งที่อายุยังน้อยและไฟแรงสุดๆ อย่างไรก็ตามเมื่อนาย มูรินโญ่ ได้ก้าวขึ้นมานั่งแท่นผู้นำตระกูล ‘ปีศาจแดง’ เหมือนกับเขาจะมีอคติในใจอยู่แล้วกับการทำงานของนาย มาร์กซิยาล ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่ต้องการ นาย มาร์กซิยาล เคยมีปัญหาส่วนตัวกับนาย มูรินโญ่ แบบบ้านแทบแตกมาแล้วจนเกือบขอเปลี่ยนนามสกุลจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอย่างอื่นเลยทีเดียว ถึงแม้ที่ผ่านมา มูรินโญ่ จะให้การยอมรับในตัว มาร์กซิาล และไว้ใจให้บริหารงานมากขึ้น แถมผลประกอบการยังดีอีกด้วย เผลอๆ ณ ตอนนี้เขาคือคนที่เชิดหน้าชูตามากที่สุดในตระกูล 'ปีศาจแดง' อีกด้วย แต่ถึงกระนั้นมันคงจะดีกว่าและรู้สึกสบายใจกว่าถ้าได้ทำงานร่วมกับผู้นำบริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนใหม่ และเมื่อมันมีชื่อของ ซีเนดีน ซีดาน ติดโผเบอร์ต้นๆ ก็เป็นได้ที่ มาร์กซิยาล จะอยากร่วมงานด้วยกันมากกว่าเพราะอย่างน้อยก็เป็นคนฝรั่งเศสเหมือกนัน

ผู้ต้องหาคนที่ 4 : นาย เอริค ไบยี่

เอริค ไบยี่ เป็นคนที่ มูรินโญ่ ไว้ใจและดึงตัวเข้ามาทำงานให้ตระกูล ‘ปีศาจแดง’ ด้วยมือของตัวเอง และนาย ไบยี่ ก็ตอบแทนความไว้ใจนั้นได้ดีด้วยในการคุมเกมรับซึ่งเปรียบเหมือนการสร้างเซิร์ฟเวอร์ระบบป้องกันรักษาข้อมูลสำคัญของตระกูล แต่ข้อเสียของนาย ไบยี่ คือมักป่วยและบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ จนบางทีก็ส่งผลถึงเรื่องของการงานด้วย ถ้าจะถามว่าทำไมนาย ไบยี่ ถึงถูกมองเป็น 1 ในผู้ต้องสงสัยเมื่อ มูรินโญ่ ถูกเชี่ยจากบัลลังก์ตระกูล ปีศาจแดง ? จริงอยู่ที่นาย ไบยี่ เป็นคนเงีบบๆ นิ่งๆ แต่ก็เป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก เขาไม่เคยมีความบาดหมางใดๆ กับนาย มูรินโญ่ ก็จริง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะพอใจในนโยบายการทำงานของตระกูล ‘ปีศาจแดง’ ณ เวลานี้ ถึงแม้จะมีอาการป่วยและเจ็บบ่อยๆ แต่เรื่องเนื้องาน ไบยี่ คนคือที่ผลงานที่สุดในแผนกรักษาความปลอดภัย แต่ มูรินโญ่ กลับไม่ไว้ใจและใช้บริการเขาอีกเลยในพักหลัง

ผู้ต้องหาคนที่ 5 : นาย เอ็ด วู้ดเวิร์ด

บริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของตระกูล ‘ปีศาจแดง’ ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่ร่ำรวยและทำกำไรต่อปีได้มากที่สุดในโลก และคนที่ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลเรื่องการเงินและการเดินเรื่องต่างๆ ให้ตระกูลนั้นก็คือ เอ็ด วู้ดเวิร์ด แต่เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาเหมือนนาย เอ็ด จะทำงานไม่สำเร็จตามเป้าในการซื้อสินค้าตามที่นาย มูรินโญ่ ได้ลิสต์เอาไว้ก็เลยทำให้การแข่งขันด้านธุรกิจในปีนี้ บริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูสู้ใครไม่ค่อยได้เลย และนี่ก็คือสิ่งที่นาย มูรินโญ่ ชอบเอามาเป็นเหตุผลเหน็บแนมการทำงานของนาย เอ็ด ออกสื่ออยู่บ่อยๆ ยามที่บริษัทเจอวิกฤต ปัจจุบันถึงแม้ปัญหาของทั้งคู่อาจจะคลี่คลายไปแล้ว แต่ เอ็ด ก็คือคนหนึ่งที่เข้าข่ายเรื่องกำจัด มูรินโญ่ ทิ้ง เพราะถ้ามองในเรื่องความก้าวหน้าของตระกูลหน้าที่ของนาย เอ็ด คือการหาสิ่งที่ดีกว่าให้กับบริษัท และในเวลานี้เหล่าบรรดาแฟนคลับต่างก็เทเสียงโหวตมาเยอะแยะมากมายว่าอยากได้คนอื่นมาบริหารมากกว่า

ผู้ต้องหาคนที่ 6 : นาย ซีเนดีน ซีดาน

นายซีเนดีน ซีดาน คือนักธุรกิจไฟแรงที่สุดในยุคนี้จากความสำเร็จที่สร้างมาตลอด 2 ปีครึ่งกับ บริษัท เรอัล มาดริด และเหล่าบรรดาแฟนคลับของบริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนมองว่าด้วยนโยบาย, กลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันกับคนอื่นมันดูน่าสนใจและดูเหมาะสุดๆ กับบริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เลยอยากได้เขาคนนี้มาบริหารงานแทนนาย มูรินโญ่ ถึงแม้ ซีดาน จะแบะท่าออกมาหน่อยๆ แล้วว่าเหมือนจะไม่ชอบงานและโครงสร้างที่บริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สักเท่าไหร่ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นบนโลกใบนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าสื่อมันก็ตัดสินอะไรไม่ได้ 100 เปอร์เซนต์ อย่างเช่นวันนี้ที่ มูรินโญ่ ชะตาขาดจากตระกูล 'ปีศาจ' มันก็เกิดขึ้นมาแบบดื้อๆ เลย ดังนั้นมันก็มีความเป็นได้ว่าในสถานการณ์ที่นึกไม่ถึงแบบนี้ ซีดาน อาจจะเป็นตัวการของเรื่องทั้งหมดก็เป็นได้

ผู้ต้องหาคนที่ 7 : นาย เจอร์เก้น คล็อปป์

นาย เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับบริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เขาคือที่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับนาย โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อชะตาชีวิตขาดยุ่ย เพราะหลังจากทั้ง 2 องค์ได้สู้ศึกกันในการชิงความเป็นหนึ่งครั้งล่าสุด ลิเวอร์พูล ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าศักยภาพของพวกเขาเหนือกว่าบริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทุกๆ ด้านแบบที่เทียบกันไม่ติดฝุ่นเลยจริงๆ นอกจากนี้มันยังได้เกิดสถิติที่บ่งชี้ว่าบริษัท ลิเวอร์พูล เป็นองค์ที่ปลิดชีพผู้นำตระกูลใหญ่ๆ มากที่สุด และนาย มูรินโญ่ ก็คือเหยื่อรายที่ 11 ส่วนอันดับ 2 และ 3 ที่ติดโผมาก็คือบริษัท เชลซี และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ผู้ต้องหาคนที่ 8 : นาย ไมเคิ่ล คาร์ริค

นาย ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นคนที่นาย โชเซ่ มูรินโญ่ ทาบทามตัวมาเป็นผู้ช่วยและเป็นที่ปรึกษาหลังจากเขาได้หมดสัญญากับการเป็นพนักงานบริษัท แต่ความฝันของพนักงานทุกคนก็คือการได้ก้าวขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดนั่นคือการเป็นประธานของบริษัทหรือผู้นำตระกูล และจากสถานการณ์ของบริษัท แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นับวันยิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆ มันก็เหมือนเป็นช่องทางที่นาย ไมเคิ่ล คาร์ริค จะใช้แทงข้างหลัง มูรินโญ่ และตามธรรมเนียมแล้วเมื่อคนที่เป็นผู้นำได้ตายจากไปคนที่เป็นมือขวาหรือผู้ช่วยจะได้โอกาสขึ้นมาทำงานแทนที่เป็นส่วนใหญ่อย่างน้อยก็คือเป็นรักษาการไปก่อน ดังนั้นมันก็อาจเป็นแผนของนาย คาร์ริค ที่วางเอาไว้เพื่อฮุบกิจการนี้ก็เป็นได้