ตลาดซื้อขายนักเตะของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดเวลาที่ตลาดเปิด มีหลายๆ ทีมสมหวังกับการได้นักเตะใหม่ และขณะเดียวก็มีอีกหลายทีมที่ต้องผิดหวังกับการปิดดีลไม่สำเร็จ แต่ทว่าแต่ละทีมต่างก็ลงทุนเสริมทัพเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม วันนี้ขอบสนามจะพาทุกท่านมาดูว่า 5 อันดับแรกทีมนักช็อปประจำพรีเมียร์ลีกช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมามีทีมไหนกันบ้าง
1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (148 ล้านปอนด์)
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกับนักเตะหลายคน พวกเขาคว้า อารอน วาน-บิสซาก้า จาก คริสตัล พาเลซ และ แดเนี่ยล เจมส์ จากสวอนซี ในราคา 50 และ 18 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะเสริมแนวรับด้วยการเซ็นสัญญาคว้า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มาจาก เลสเตอร์ ในราคา 80 ล้านปอนด์ มาร่วมทีมได้สำเร็จ และทำให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กลายเป็นกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกทำลายสถิติเดิมที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เคยทำไว้ทันที
2. แอสตัน วิลล่า (144.5 ล้านปอนด์)
สิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า ลงทุนเสริมแกร่งทีมหลังเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาพรีเมียร์ลีก ด้วยการซื้อนักเตะใหม่มาร่วมทีมถึง 12 คน เรียกได้ว่าตั้งทีมใหม่กันได้เลย ซึ่งแข้งที่พอมีชื่อคุ้นหูได้แก่ ไทรอน มิงส์ ที่คว้าตัวมาจาก บอร์นมัธ 26.5 ล้านปอนด์, เวสลีย์ จาก คลับ บรูช 22 ล้านปอนด์, แมตต์ ทาร์เก็ตต์ จากเซาธ์แฮมป์ตัน 17 ล้านปอนด์ และ ดั๊กลาส ลุยซ์ จาก แมนฯ ซิตี้ 15 ล้านปอนด์ เป็นต้น ซึ่งพวกเขาก็หวังว่าการเสริมทีมในครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาต่อกรกับทีมต่าง ๆ ในพรีเมียร์ลีก และอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไปได้
3. อาร์เซน่อล (138 ล้านปอนด์)
ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล มาเงียบ ๆ แต่ฟาดเรียบ จากตอนแรกที่ดูเหมือนว่าพวกเขางบน้อยเหลือเกินในการให้ อูไน เอเมรี่ ช็อปนักเตะมาเสริมทีม แต่ไปไปมามาได้นักเตะดีดีมาร่วมทีมไม่น้อยทั้งการคว้า กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จาก อิตูอาโน่ 6 ล้านปอนด์ และ ดานี่ เซบายอส จาก เรอัล มาดริด ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนล่าลายเซ็น นิโกล่าส์ เปเป้ มาจาก ลีลล์ ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นค่าตัวแพงสุดเป็นสถิติสโมสร มาร่วมทีมได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ยังเซ็นสัญญา วิลเลี่ยม ซาลิบา จาก แซงต์-เอเตียน ราคา 27 ล้านปอนด์ โดยจะย้ายมาซัมเมอร์ปีหน้า คว้าตัว คีแรน เทียร์นี่ย์ จาก เซลติก 25 ล้านปอนด์ มาร่วมทีมสมใจหยาก ทำให้ เทียร์นี่ กลายเป็นนักเตะสก๊อตติช ที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวแพงที่สุด รวมถึงปิดท้ายวันเดดไลน์ด้วยการคว้า ดาวิด ลุยซ์ จาก เชลซี 8 ล้านปอนด์ เรียกได้ว่าบอร์ดบริหารเก่งไม่น้อยทีเดียว
4. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (134.8 ล้านปอนด์)
แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ยังคงเดินหน้าในการเสริมแกร่งให้กับทีมต่อเนื่องด้วยการคว้าตัวกองกลางตัวรับอย่าง โรดรี้ มาจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัว 62.5 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ยัง แซ็ค สเตฟเฟ่น จาก โคลัมบัส ครูว์ 7 ล้านปอนด์, อังเคลินโญ่ จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 5.3 ล้านปอนด์ รวมถึง สก็อตต์ คาร์สัน จาก ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการคว้า เจา กานเซโล่ ฟูลแบ็คจาก ยูเวนตุส 60 ล้านปอนด์ สมใจอยาก จากเดิมที่แกร่งอยู่แล้ว แข็งแกร่งขึ้นไปอีกเป็นกองทีเดียว ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงกลายเป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้
5. เอฟเวอร์ตัน (118.5 ล้านปอนด์)
เอฟเวอร์ตัน ไม่น้อยหน้าในตลาดรอบนี้ จัดการเซ็น อเล็กซ์ อิโวบี้ มาจาก อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ก่อนที่ตลาดจะปิดไม่กี่ชั่วโมง โดยก่อนหน้านี้พวกเขาได้ทั้ง มอยเซ่ คีน จาก ยูเวนตุส 27.5 ล้านปอนด์, ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง จาก ไมนซ์ 25 ล้านปอนด์, ซื้อขาด อันเดร โกเมส จาก บาร์เซโลน่า 22 ล้านปอนด์ และ ฟาเบียน เดลฟ์ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 9 ล้านปอนด์ การเสริมทีมที่น่าจับตามองของ เอฟเวอร์ตัน ทำให้พวกเขาพร้อมลุ้นแย่งพื้นที่โควต้ายุโรปเต็มตัว จัดว่าสนุกทีเดียวในฤดูกาลนี้
อย่าลืมหาที่ดู ที่เชียร์ สดๆ กันนะครับ #ช้างฟุตบอลโมเม้นท์ #เพื่อนกันทีมเดียวกันถึงขอบสนาม #ไปเชียร์กัน #ช้าง #เอ้าชน
เจาะแผนการเล่นสล็อต! ทำไมลิเวอร์พูลถึงเลือกสานต่อคล็อปป์!?
4 ประเด็นใหญ่ก่อนศึกศักดิ์ศรี ปราสาทสายฟ้า เปิดรังดวล กิเลนผยอง
ทำไม ?? อาทิตย์ เบิร์ก ถึงเป็นเป้าหมายใหม่ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"
หรือว่าเส้นทางการลุ้นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล จะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ ?
ช่วงเวลาวัดใจ! อุทัยธานี กับการยอมเสี่ยงเปลี่ยนแม่ทัพ หนีตาย 5 นัดสุดท้าย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม 
