ปัญหาของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากผ่านไป 12 นัด

หลังจากเกม พรีเมียร์ลีก ผ่านไป 12 นัด ทีมไก่เดือยทอง จากที่ฟอร์มร้อนแรงไม่แพ้ใครตลอด 10 เกมที่ผ่านมา แต่สองนัดล่าสุด ดันมาสะดุดแพ้เป็นเกมที่สองติดต่อกัน หลังบุกไปพ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 ในช่วงหัวค่ำในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงปัญหาของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ว่ามีอะไรกันบ้าง มารับชมรับฟังกันครั

—------------------------

[ ขุมกำลังเชิงลึกของทีมยังไม่ดีพอ ]

ถ้าเราสังเกตุผลงานตลอด 10 นัดที่ผ่านมาของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ภายใต้การนำทัพของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ที่เจ้าตัวมักจะใช้ 11 ตัวจริง คนเดิมๆซ้ำๆ ตลอด 10 นัดที่ผ่านมา

จะมีการโลเตชั่นเพียงแค่บางตำแหน่งเท่านั้น อย่าง แบรนแนน จอห์นสัน ที่มักลงมาแทน ริชาร์ริซอน บ้างในบางนัด แต่ที่เหลือมักจะเป็นผู้เล่นหน้าเดิมๆแทบทั้งนั้น 

ถ้าเราจะมองว่า สเปอร์ส เป็นทีมที่เล่นเพื่อลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป สคว็อดเพียงเท่านี้ก็คงเพียงพอแล้วก็จริง แต่ถ้าเราดูจากผลงาน 10 นัดที่ผ่านมาของ สเปอร์ส มันดีเกินกว่าที่จะมองเพียงแค่ ท็อปโฟว์ จริงๆ

เชื่อเถอะครับว่า แฟนๆของ ไก่เดือยทอง เองก็คงมีแอบหวังเล็กๆ ให้ทีมของเขาเขยิบขึ้นมาลุ้นแชมป์บ้างเหมือนกัน ยิ่งปีนี้ สเปอร์ส ไม่ได้ไปเตะฟุตบอลยุโรป ทำให้ไม่ต้องไปเตะกลางสัปดาห์ และได้โฟกัสกับเกม พรีเมียร์ลีก แบบเต็มๆ

แต่ถ้าเราจะมอง สเปอร์ส เป็นทีมลุ้นแชมป์ ขอเรียนตามตรงเลยนะครับว่า สคว็อดของทีมในตอนนี้มันไม่เพียงพอจริงๆ ดูจากผู้เล่นตัวสำรองของ สเปอร์ส ในหลายๆตำแหน่งนั้น เทียบกับผู้เล่นตัวจริงไม่ได้เลย

มีเพียงแค่ โรดริโก้ เบนตานกูร์, เอริค ไดเออร์, แบรนแนน จอห์นสัน และ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก เท่านั้นที่ยังพอจะทดแทนผู้เล่นตัวจริงของ สเปอร์ส ชุดนี้ได้บ้าง นอกนั้นก็ยังไม่ดีพอที่จะทดแทนกันได้เลย

ยิ่งในปีหน้า จะมีทัวร์นาเม้นสำคัญอย่าง แอฟริกัน เนชั่น คัพ และ เอเชี่ยน คัพ อีก และแน่นอนว่า สเปอร์ส จะขาด 2 มิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง ปาป มาตาร์ ซาร์ และ อีฟ บิสซูม่า ที่ต้องไปรับใช้ชาติ

และที่เสียหายไปมากกว่านั้นคือต้องเสียกัปตันทีมคนสำคัญ ซน ฮึง มิน ที่เป็นหัวใจในแนวรุกของทีมไปอีก ซึ่งถ้าดูจากตัวสำรองคนที่มาแทนได้ก็ต้องบอกเลยว่ายากจริงๆ ถ้าเทียบฟอร์มการเล่นของ ซน ในตอนนี้

ไหนจะมีผู้เล่นที่บาปเจ็บหรือติดโทษแบนอีก คงต้องมารอลุ้นกันว่าช่วงตลาดเดือนมกราคม สเปอร์ส จะมีการเสริมทัพเพื่อแก้ปัญหาในเรื่อง ขุมกำลังเชิงลึก ของทีมอย่างไร

—------------------------

[ นักเตะตัวสำคัญบาดเจ็บยาว ]

ในช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา สเปอร์ส ได้เสียกัปตันทีมคนสำคัญอย่าง แฮร์รี่ เคน ผู้ที่เป็นเดอะแบกของทีมไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แถมไม่ได้ซื้อใครมาทดแทนในตำแหน่งกองหน้าอีก

ก่อนเปิดฤดูกาล แฟนๆไก่เดือยทอง คงคิดในใจว่า “ชิบหายแน่ๆ” การที่เสียคนผลิตสกอร์ของทีมไป แถมยังไม่มีคนมาทดแทนอีกนับได้ว่าเป็น หายนะ จริงๆ

แต่การมาของ เจมส์ แมดดิสัน นั้นทำให้แฟนๆกลับมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เปรียบดั่งแสงที่ปลายอุโมงค์ของทีมเลยก็ว่าได้ 

เมื่อ แมดดิสัน เข้ามาผนึกกำลังกับ ซน ฮึง มิน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ได้อย่างลงตัว ช่วยให้ สเปอร์ส ไม่แพ้ใครตลอด 10 เกมแรกใน พรีเมียร์ลีก แบ่งเป็นชนะ 8 เสมอ 2

แถมผลงานส่วนตัวเองก็ดีงามพระรามแปดด้วยเช่นกัน โดยพี่แก ยิงไปแล้ว 3 ประตู พ่วงด้วย 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 12 นัดรวมทุกรายการ 

แต่ทว่า แมดดิสัน ก็เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้ผิดหวังอีกครั้ง หลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า ในนัดที่ สเปอร์ส เปิดบ้านพ่ายให้กับ เชลซี 3-4 ส่งผลให้ต้องพักยาวถึงปีใหม่เลยทีเดียว 

ไม่เพียงเท่านั้น กองหลังตัวสำคัญอย่าง มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกนัดให้กับ สเปอร์ส ดันมามีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายในเกมเดียวกัน และคาดว่าจะต้องพักถึง 3 เดือน

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น กองหลังดีกรีแชมป์โลก คริสเตียน โรเมโร่ ยังติดโทษแบนอีก 3 นัด เดสตินี่ อูโดกี ก็ถูกแบนอีก 1 นัด เรียกได้ว่าตอนนี้แผนแบ็คโฟว์ของ สเปอร์ส เหลือแค่ เปโดร ปอร์โร่ เพียงคนเดียวเท่านั้น

—------------------------

[ ปอสเตโคกลู มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ]

ถ้าจะพูดถึงความเก่งของ อังเก้ ปอสเตโคกลู คงไม่มีใครปฏิเสธแน่นอน โดยผู้จัดการทีมชาวออสเตรเลียรายนี้ คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน 3 ครั้งติดต่อกัน ในการมาคุมทีมในฤดูกาลแรก ซึ่งยังไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน

แต่ถ้าจะให้หาจุดผิดพลาดเองก็มีให้เห็นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะที่เปิดบ้านพบกับ เชลซี โดยที่เกมนั้นตัวผู้เล่นของ สเปอร์ส มีน้อยกว่าถึงสองคน

ทว่า อังเก้ กลับวางแท็คติกเกมรับได้แบบบ้าระห่ำสุดๆ ก็คือการให้แผงเกมรับดันขึ้นสูงครึ่งสนาม เพื่อเช็คล้ำหน้า

ก็เข้าใจแหละครับว่าการลงไปเล่นเกมรับ ทั้งที่ผู้เล่นเหลือ 9 คนก็เหมือนรอโดน แต่การเล่นโดยใช้วิธีนี้มันเสี่ยงเกินไป เพราะเวลายังเหลืออีกเยอะมาก แถมวิธีการแก้ไลน์กับดักล้ำหน้าในปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธีอีกเช่นเดียวกัน

ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น เชลซี หลุดเข้าไปยิงได้หลายต่อหลายครั้งจนเกิดเป็นประตูที่ 2, 3 และ 4 ตามมา ส่งผลให้ สเปอร์ส พ่ายเป็นนัดแรกของฤดูกาล

ยิ่งไปกว่านั้นเกมที่บุกไปแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน อังเก้ ก็ติดประมาทอีกเช่นเคย ทั้งที่ทีมนำอยู่ 1 ประตู แต่ก็ยังพยายามที่จะเล่นเกมรุกเข้าใส่ เล่นเกมเร็วตลอด แล้วก็พลาดกันเองง่ายๆ จ่ายบอลเสียอยู่หลายต่อหลายครั้ง 

จนกระทั่งมาเสียสองประตูในช่วงท้ายเกม และลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด และเป็นการพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน

นี่เป็นอีกปัญหาที่ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ต้องแก้ไขโดยด่วน หากยังหวังที่จะจบท็อปโฟว์ หรือแม้กระทั่งการลุ้นแชมป์

- บีเบลล์ กูนเนอร์ -