logo-heading

[ มุมกล้องชวนอ้วก ]

ประเด็นแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ มุมกล้อง เกมนี้เปิดมาใครหลายคนอาจจะสงสัยว่า นี่กูเล่น FC24 อยู่รึเปล่าวะเนี่ย เชื่อได้เลยว่าร้อยทั้งร้อย ต่างไม่ชอบมุมกล้องแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะแม่งชวนอ้วกสุดๆ ขนาดผมที่เล่นเกม FC24 อยู่เป็นประจำยังแย่ ถ้าใครที่ไม่ได้เล่นคงรู้สึกทรมาณสายตามากกว่านี้แน่นอน 

โดยมีการเปิดเผยมาว่าแมตซ์นี้ได้มีการทดลองใช้มุมกล้องดังกล่าวที่เรียกว่า Game Mode ซึ่งสนาม เอมิเรต สเตเดี้ยม รังเหย้าของ ทัพปืนโต เป็นสนามเดียวที่ติดตั้งมุมกล้องนี้ และจะถูกใช้ตลอดทั้งฤดูกาลนี้ ทั้งกับทีมชายและทีมหญิง ใครที่เป็นแฟนปืนก็ต้องทำใจกันหน่อยนะครับ
 

[ กองกลาง ปืนใหญ่ ฟอร์มแจ่มทุกราย ]

มาว่ากันถึงเรื่องในสนามกันบ้างดีกว่า นัดนี้ต้องบอกได้เลยว่ามิดฟิลด์ของ อาร์เซน่อล จัดได้ว่าฟอร์มแจ่มกันทุกราย ต้องชม มิเกล อาร์เตต้า ที่สามารถปรับหมากมาสู้กับกองกลางของ ลิเวอร์พูล ได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จอจินโญ่ ที่นัดนี้ได้รางวัล แมนออฟเดอะแมตซ์ ไปครอง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับ เพราะวันนี้พี่แกเล่นได้โดดเด่นเหลือเกิน ทั้งการคุมจังหวะเกมแดนกลางก็ทำได้เยี่ยม รวมไปถึงจังหวะการเล่นเกมรับก็ทำได้ดีงามพระรามแปด เข้าบดบี้ทุกจังหวะ ไม่ปล่อยให้ผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล เล่นได้ง่ายๆ

เดแคลน ไรซ์ ไม่ต้องพูดถึง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พี่แกเล่นได้ตามมาตรฐาน พอมี จอร์จินโญ่ ลงมาช่วยออกบอล ช่วยคุมจังหวะเกม ทำให้ ไรซ์ โฟกัสกับการดักตัดบอล และเก็บบอลจังหวะสอง ซึ่งต้องชมเลยว่าพี่แกทำโดดเด่นมากในช่วงครึ่งแรก รวมถึงการจ่ายบอล และช่วยทีมแกะเพรซซิ่งก็ทำได้ดีโคตรๆ

ส่วน โอเดการ์ด แม้จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู หรือแอสซิสต์ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า การจ่ายบอลแต่ละครั้งหวังผลได้แทบจะตลอด เป็นนักเตะที่สร้างสรรค์โอกาสได้มากที่สุดของ อาร์เซน่อล เลยก็ว่าได้

สวนทางกับฝั่งทีมเยือนอย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์, โจนส์ และ ไรอัน การเฟนแบร์ก ที่ต่างโชว์ฟอร์มกันไม่ออก โดนทางฝั่ง อาร์เซน่อล ไล่บดดบี้จนทำอะไรแทบไม่ได้ เป็นเหตุให้ได้รับผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง

หลังเกม ! ปืนใหญ่ ฟอร์มโหด เปิดรังยิง หงส์ 3-1 ไล่จี้จ่าฝูงเหลือ 2 แต้ม
 

[ ผลัดกันแจก ]

แม้ว่าจะเป็นการพบกันระหว่างทีมลุ้นแชมป์ แต่ก็ต้องบอกเลยว่าเกมนี้มันเต็มไปด้วยความผิดพลาดของทั้งสองทีม โดยเฉพาะการสื่อสารกันระหว่างกองหลัง และผู้รักษาปรตู ที่จังหวะมันดูเหมือนจะไม่มีอะไรเลย แต่ก็ดันมาปล่อยไก่พลาดกันง่ายๆ 

กองหลังเลือกที่จะบังบอลแทนที่จะเล่นจังหวะแรก ทางฝั่ง อาร์เซน่อล ก็เป็น ราย่า ที่ไม่ยอมออกมารับบอลเงอะๆงะๆ ส่วนทางฝั่ง ลิเวอร์พูล อลิสซอน เบคเกอร์ ก็ออกมาตัดบอลพลาด เป็นเหตุให้เสียประตูกันไปทั้งคู่

[ ฟาน ไดค์ ฟอร์มหลุด ]

อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพูดถึงกันนั่นก็คือ ฟอร์มการเล่นของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่วันนี้โชว์ฟอร์มได้ต่ำมาตรฐานเสียเหลือเกินมีส่วนกับประตูที่เสียทั้ง 3 ประตู

ประตูแรก ฟาน ไดค์ เลือกที่จะเข้าไปบีบเข้าหา โอเดการ์ด ทำให้เกิดช่องระหว่างคู่เซ็นเตอร์ทำให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แม้จะติดเซฟของ อลิสซอน เบคเกอร์ แต่ก็มี ซาก้า ที่มาตามซ้ำเข้าไปได้

ส่วนประตูที่สอง ที่อย่างที่ว่ามาแหละครับ ฟาน ไดค์ เลือกที่จะบังบอลแทนที่จะเคลียทิ้งตั้งแต่จังหวะแรก ดันไปปล่อยให้ อลิสซอน ออกมาเล่น สุดท้ายก็ไปชนกันเอง ทำให้ มาร์ติเนลลี่ ได้ยิงแบบชิลๆ

ส่วนลูกสุดท้าย ฟาน ไดค์ เองก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน เพราะจังหวะนั้น เลอันโดร ทรอสซาร์ เลี้ยงจี้เข้ามาคนเดียว แต่ ฟาน ไดค์ กลับเลือกที่จะมองเฉยๆ ปล่อยให้ ทรอสซาร์ เข้ามายิงง่ายๆ

หลังเกม ! ปืนใหญ่ ฟอร์มโหด เปิดรังยิง หงส์ 3-1 ไล่จี้จ่าฝูงเหลือ 2 แต้ม

[ เส้นทางการลุ้นแชมป์ยังคงสุดมันส์ ]

จากชัยชนะนัดเกมนัดนี้ทำให้ อาร์เซน่อล กลับเข้าสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์อีกครั้ง เก็บเพิ่มเป็น 49 แต้ม ตามหลัง ลิเวอร์พูล เหลือเพียง 2 แต้มเท่านั้น

แต่ทีมที่ยิ้มกริ่มอยู่ในเงามืดคงหนีไม้พ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะต้องบุกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด คืนวันพรุ่งนี้ ถ้าพวกเขาบุกไปยัดเยียดความปราชัยได้ จะตามหลัง ลิเวอร์พูล 2 แต้มเช่นเดียวกัน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ซึ่งนั่นหมายความว่า ทัพเรือใบสีฟ้า จะเป็นผู้กุมชะตาในการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ไว้ในมือทันที

ส่วน ลิเวอร์พูล แม้จะพ่ายแพ้ในเกมวันนี้ แต่ก็อย่าลืมว่าพวกเขายังยืนในตำแหน่งจ่าฝูง หากพวกเขาเรียกโมเมนตั้ม และเรียกสติกลับมาชนะได้ในเกมนัดหน้าได้ แน่นอนว่าเส้นทางการลุ้นแชมป์ในปีนี้จะไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน

-บีเบลล์ กูนเนอร์-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline