logo-heading

นับถอยหลังอีกไม่ถึง 10 วัน ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ของเราจะมีโปรแกรมลงสนามในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง นัดที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่หนักที่สุดในรอบนี้ของไทย เพราะเราต้องเจอกับ เกาหลีใต้ จ่าฝูงกลุ่ม C ดีกรีทีมอันดับ 3 ของเอเชีย และเป็นอันดับที่ 22 ของโลก ในเวลานี้

ทั้งทีมชาติไทย และ เกาหลีใต้ มีการประกาศรายชื่อ 23 ขุนพล ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งวันนี้เราจะมาผ่ารายชื่อของทัพ ช้างศึก กันว่าเป็นอย่างไรบ้าง และพร้อมแค่ไหนกับการต้องเจอกับเกาหลีใต้ ทั้งสองนัดในเดือนมีนาคมนี้

ก่อนอื่นต้องขอเท้าความกลับไปดูผลงาน 2 นัดแรก ของ “ทีมชาติไทย” และ “เกาหลีใต้” กันก่อน โดยทีมช้างศึก สองนัดแรก นัดเปิดบ้านแพ้ จีน 1-2 และนัดที่ 2 บุกชนะ สิงคโปร์ 3-1 มีอยู่ 3 คะแนน เป็นอันดับสองของกลุ่ม C ในเวลานี้ โดยมีแต้มเท่ากับ จีน แต่ประตูได้เสียดีกว่า

ขณะที่ เกาหลีใต้ นั้น ชนะมาสองนัดรวด เก็บได้ 6 คะแนนเต็ม นัดแรกเปิดบ้านชนะ สิงคโปร์ 5-0 และเกมล่าสุดบุกถล่ม จีน 3-0 ยิงได้ 8 ประตู ยังไม่เสียซิงให้กับทีมไหน ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสมเป็นเต็งหนึ่งของกลุ่มอย่างแท้จริงสำหรับเกาหลีใต้

ผ่า 23 รายชื่อทีมชาติไทย ชุดดวล โสมขาว พร้อมคาดการณ์ 11 ตัวจริงช้างศึก

แต่อย่างไรก็ดีก่อนที่ทั้งคู่จะโคจรมาเจอกัน ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งจริงๆ ทั้งสี่ทีมในกลุ่ม C มีการเปลี่ยนโค้ชใหม่ทั้งหมด หลังผ่าน 2 เกมแรก แต่วันนี้เราจะมาว่ากันที่ไทย และเกาหลีใต้ เป็นหลักแล้วกัน สำหรับทีมช้างศึก อย่างที่รู้กันว่า เราได้ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น เข้ามาแทน มาโน่ โพลกิ้ง ซึ่งก็ได้ทดลองงานไปแล้วในเอเชี่ยน คัพ 2023 และล่าสุดก็ได้สัญญาคุมทีมต่อไปอีก 2 ปี ครึ่ง จนถึงกรกฎาคม ปี 2026

ผ่า 23 รายชื่อทีมชาติไทย ชุดดวล โสมขาว พร้อมคาดการณ์ 11 ตัวจริงช้างศึก

ขณะที่ เกาหลีใต้ ก็ได้แยกทางกับ “เยอร์เก้น คลินส์มันน์” กุนซือชาวเยอรมัน ที่พาทีมตกรอบรองฯ เอเชี่ยน คัพ ด้วยการแพ้ให้กับ จอร์แดน ไปอย่างพลิกล็อค 2-0 แถมเกิดเรื่องฉาวภายในแคมป์อีกด้วย และคนที่มารับงานต่อจาก คลินส์มันน์ ก็คือ ฮวาง ซุน ฮง กุนซือชาวเกาหลีใต้ วัย 55 ปี ซึ่งมีประสบการณ์มากมายทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติ ก่อนหน้านี้เป็นกุนซือทีมโสมขาวชุด ยู23 ซึ่งก็ถูกดันขึ้นมาให้คุมทีมชุดใหญ่เป็นการชั่วคราวในตอนนี้

ซึ่งพูดถึงทีมชาติเกาหลีใต้ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าพวกเขาจะไม่เรียกตัว ซน ฮึง-มิน ดาวเตะกัปตันทีมซูเปอร์สตาร์ อีกคนคือ อี คัง-อิน ดาวเตะจาก เปแอสเช ที่มีเหตุทะเลาะกันในเอเชี่ยน คัพ แต่สุดท้ายก็เรียกมาทั้งคู่ แถมดาวดังก็มีชื่อครบทุกคนไม่ว่าจะเป็น คิม มิน-แจ กองหลังตัวเก่งจาก บาเยิร์น มิวนิค และ โช กยู-ซอง ศูนย์หน้าจอมโขกจากมิดทิลแลนด์ ที่ขาดไปก็คือ ฮวาง ฮี-ชาน กองหน้าของวูล์ฟแฮมป์ตัน ที่มีอาการบาดเจ็บ ต้องพักนานถึง 6 สัปดาห์

ผ่า 23 รายชื่อทีมชาติไทย ชุดดวล โสมขาว พร้อมคาดการณ์ 11 ตัวจริงช้างศึก

คราวนี้มาว่ากันที่ 23 รายชื่อ ของทีมชาติไทย กันบ้าง ซึ่งมีการประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ผ่านการไลฟ์สดทางหน้าแฟนเพจ เราจะมาเจาะลึกกันทีละตำแหน่งว่ามีอะไรน่าสนใจกันกันบ้าง

เริ่มที่ผู้รักษาประตู 3 คน ประกอบไปด้วย ปฏิวัติ คำไหม, สรานนท์ อนุอินทร์, บุญยเกียรติ วงค์ษาแจ่ม จากรายชื่อจะเห็นว่า 2 คนแรก ก็เป็นหน้าเดิมจากเอเชี่ยน คัพ 2023 ที่หายไปคือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ของบุรีรัมย์ โดยคนที่เข้ามาแทนก็คือ บุญยเกียรติ วงค์ษาแจ่ม นายทวารหน้าหล่อจากอุทัยธานี ที่ถือว่าเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะนี่คือการติดทีมชาติไทย ครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย ก็ต้องรอมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง 

มากันที่กองหลัง ก็แทบจะเป็นชุดเดิมจากเอเชี่ยน คัพ เช่นกัน แต่ที่น่าสนใจคือในการประกาศรายชื่อครั้งนี้ กฤษดา กาแมน จากบีจี ปทุมฯ กลับมาอยู่ในตัวเลือกตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอีกครั้ง เช่นเดียวกับ พรรษา เหมวิบูลย์, เอเลียส ดอเลาะและ สุพรรณ ทองสงค์ แบ็กขาวเรียกมา 3 คน คือ นิโคลัส มิคเกลสัน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์ และ สันติภาพ จันทร์หง่อม ส่วนแบ็กซ้ายเรียกมาคนเดียวคือ ธีราทร บุญมาทัน ซึ่งก็อาจจะมองว่าเล่นแค่ 2 เกม โก๋อุ้ม คนเดียวก็น่าจะเอาอยู่ อีกทั้งยังมี มิคเกลสัน กับ สันติภาพ ที่โยกไปเล่นทางซ้ายได้

แผงกองกลาง ที่น่าสนใจก็คือการกลับมาติดทีมชาติไทย อีกครั้งของ “กัปตันเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่บาดเจ็บไปตั้งแต่เกมพบจีน และไม่ได้ลงเล่นเกมเยือนสิงคโปร์ รวมทั้งในเอเชี่ยน คัพ ด้วย ทำให้ ชนาธิป จะได้ร่วมงานกับ อิชิอิ เป็นครั้งแรก และที่เข้ามาใหม่อีกคนก็คือ ปกเกล้า อนันต์ จอมทัพจากทรู แบงค็อก ที่โชว์ฟอร์มได้ดีและกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้งในชุดนี้

นอกนั้นก็เป็นชุดเดิมมาจากเอเชี่ยน คัพ ตัวรับนำโดย สารัช อยู่เย็น, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ขณะที่ตัวรุกมี สุภโชค สารชาติ, บดินทร์ ผาลา, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ส่วนในรายของ เอกบุ๊ค ปัญญา (เอกนิษฐ์ ปัญญา) ยังคงไม่มีชื่อในทีมชุดนี้ เนื่องจากไม่ได้ลงเล่นเลยในศึกเจลีก กับอูราวะ เรดฯ ที่ผ่านมา

ปิดท้ายกันที่กองหน้า เรายังไม่มี ธีรศิลป์ แดงดา ที่อยู่ในช่วงเรียกความฟิตกับ บีจี ปทุมฯ โดย 3 คน ที่ อิชิอิ เรียกมา สองคนแรกก็รู้มือกันอยู่แล้ว คือ ศุภชัย ใจเด็ด กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ส่วนอีกคนคือ ปรเมศย์ อาจวิไล จากเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เข้ามาติดยุค อิชิอิ เป็นครั้งแรกอีกคน

ผ่า 23 รายชื่อทีมชาติไทย ชุดดวล โสมขาว พร้อมคาดการณ์ 11 ตัวจริงช้างศึก

ซึ่งถ้าจะให้คาดเดา 11 ตัวจริง เอาจากผลงานที่ผ่านมาในไทยลีก รวมทั้งแนวทางการจัดทัพของ อิชิอิ ในเอเชี่ยน คัพ ทีมชาติไทย ชุดนี้ก็น่าจะมาในระบบ 4-2-3-1 โดย ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง น่ายังเป็น ปฏิวัติ คำไหม เหมือนเดิม

แบ็กขวา นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน คู่เซ็นเตอร์ น่าจะเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ กับ เอเลียส ดอเลาะ เหมือนเดิม

กองกลางตัวรับ ยืนหนึ่งคือ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ส่วนคนมาจับคู่ด้วยน่าสนใจ พีรดนย์ ผลงานดีในเอเชี่ยน คัพ แต่ช่วงหลังหลุดตัวจริงกับบุรีรัมย์ไป ขณะที่ สารัช ก็ได้ลงบ้างสำรองบ้างแถมฟอร์มก็ยังไม่ดีเหมือนก่อน ทำให้มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็น ปกเกล้า อนันต์ หรืออาจจะดัน กฤษดา กาแมน ขึ้นมา ก็เป็นอีกทางเลือกนึง

ส่วนตัวรุก 3 คน ด้านขวา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ด้านซ้าย สุภโชค สารชาติ แน่นอน และเพลย์เมกเกอร์ก็น่าจะเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดย ศูนย์หน้าตัวเป้า คือ ศุภชัย ใจเด็ด

โดยขุนพลทีมชาติไทย จะเข้ามารายงานตัวฝึกซ้อมกันในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ก่อนจะยกพลเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ ก่อน ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ที่โซล เวิลด์คัพ สเตเดียม เวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย และอีกนัดจะกลับมาเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 26 มีนาคม เวลา 19.30 น.

ทั้งนี้หากทีมชาติไทย ยังหวังโอกาสที่จะเข้ารอบต่อไป ต้องพยายามมีแต้มจากสองเกมนี้ให้ได้ หรือถ้าแพ้ก็แพ้ให้น้อยที่สุด หรือถ้าเป็นไปได้เก็บผลเสมอให้ได้สักหนึ่งหรือสองเกม โอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไปก็ยังเปิดกว้าง แต่ถ้าแพ้รวมทั้งสองนัด ก็ยังไม่ตกรอบซะทีเดียว เพียงแต่มันก็จะยากขึ้นไปอีกในสองเกมสุดท้าย

เอาเป็นว่าจะอย่างไรเรามารอลุ้น และรอเชียร์ช้างศึกของเราไปด้วยกัน และส่วนตัวเชื่อมั่นว่า การมาของ “อิชิอิ” จะทำให้เราสู้กับเกาหลีใต้ ได้อย่างสนุก และมีลุ้นเก็บได้ 1 แต้มเป็นอย่างน้อย ไม่เชื่อคอยดู!!


#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline