logo-heading

ต้องบอกว่าในศึก ยูโร 2024 ครั้งนี้ ทัพขุนพลสิงโตคำราม อุดมไปด้วยแข้งดาวรุ่งพรสวรรค์อยู่มากมาย ซึ่งแต่ละคนก็โชว์ฟอร์มให้กับทีมต้นสังกัดได้อย่างโดดเด่น จนสามาถยึดตำแหน่งตัวจริงให้กับทีมได้ 

ไม่ว่าจะเป็น โคล พาลเมอร์ ที่ทำผลงานได้ดีเหลือเกินจนกลายเป็นเดอะแบกของทีม หรือแม้กระทั่งดาวเตะวัย 18 ปี อย่าง ค็อบบี้ ไมนู ที่มีชื่อติดทีมชาตอังกฤษในเกมอุ่นเครื่องในช่วงปลายเดือนนี้

วันนี้ ขอบสนาม จะพาไปวิเคราะห์ 5 นักเตะดาวรุ่งเลือดผู้ดี ที่มีโอกาสได้ไปลุยศึก ยูโร 2024 ในกลางปีนี้ ว่ามีใครกันบ้าง ไปรับชมได้เลยครับ

[ ค็อบบี้ ไมนู ]

คนแรกคงหนีไม่พ้น ค็อบบี้ ไมนู มิดฟิลด์ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงวัย 18 ปี จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ล่าสุด แกเร็ธ เซาท์เกธ ได้เรียกไปติดทีมชาติอังกฤษเมื่อไม่กี่วันมานี้ หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเหลือเกิน

โดยเฉพาะในเกมวันแดงเดือดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกนรกกลับมาเอาชนะคู่แค้นตลอดชาติอย่าง ลิเวอร์พูล ไปแบบสุดมันส์ 4-3 

ซึ่งเจ้าหนูรายนี้ทำผลงานได้ดีเกินวัยจริงๆ ทั้งกล้าลาก กล้าลุย การแกะเพลสซิ่ง รวมไปถึงการคุมจังหวะเกมแดนกลาง อีกทั้งสกิลการเล่นเกมรับก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน

นอกจากเกมแดงเดือดจะทำผลงานได้ดีแล้ว ในช่วงที่ผ่านมา ไมนู เองก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมให้ชาวโลกได้เห็น ทั้งยิงประตูชัยพาทีมบุกไปชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน 4-3 รวมถึงฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมาจัดว่าเป็นเดอะแบกในแผงมิดฟิลด์ของ ทัพปีศาจแดงเลยก็ว่าได้

เรียกได้ว่าเจ้าตัวมีคุณสมบัติของ มิดฟิลด์ระดับท้อป อยู่ครบครันเลยทีเดียว กลายเป็นแข้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดไปไม้ได้เสียแล้ว
 

[ เคอร์ติส โจนส์ ]

คนต่อมา เคอร์ติส โจนส์ ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เจ้าตัวพัฒนาศักยภาพตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นกำลังพลสำคัญของ ลิเวอร์พูล และ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จากเดิมที่ที่เด็กหงส์ต้างร้องยี๋ยามที่เขาได้ลงสนาม เป็นมหาเทพให้แฟนบอลได้เย้ยหยันเอาฮาสนุกปาก แต่ปีนี้ โจนส์ ได้โชว์ให้เห็นแล้วว่าเขาเองก็มีดีพอที่จะเป็นแข้งตัวหลักของทีมได้เหมือนกัน

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ รวมถึงเล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายก็เคยเล่นมาแล้ว อีกทั้ง โจนส์ ยังโดดเด่นเรื่องการหาพื้นที่รับบอลได้ดีมากๆ รวมถึงการจ่ายบอล และการลากตะลุยก็เป็นอีกหนึ่งในจุดเด่นของเจ้าตัวเช่นเดียวกัน

แต่ปัญหาคือเจ้าตัวมักมีอาการบาดเจ็บออดๆแอดๆ ทำให้ไม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ต้องมาดูว่าท้ายที่สุดแล้ว โจนส์ จะเรียกฟอร์มเด่นจน เซาท์เกธ เรียกมาติดทีมในศึก ยูโร ครั้งนี้หรือไม่

[ จาร์ราด เบรนธ์เวต ]

คนต่อมา จาร์ราด เบรนธ์เวต กำแพงเหล็กสายเลือดใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการยืมตัวกับ พีเอสวี ไฮนด์โฮฟ่น เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมที่ฮอลแลนด์ เอฟเวอร์ตัน เลยไม่รอช้าพร้อมดันแข้งรายนี้ขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในฤดูกาลนี้ทันที 

แม้ทีมต้นสังกัดอย่าง เอฟเวอร์ตัน จะอยู่ในโซนหนีตกชั้น แต่ถ้าดูจากผลงานส่วนตัวต้องบอกเลยว่า ไอเด็กนี่มันมีของ ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ มีความเร็ว การอ่านจังหวะถือว่าทำได้ดีเกินอายุเลยทีเดียว

โดย เบรนธ์เวต ลงสนามให้กับ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 31 นัดรวมทุกรายการทำไป 2 ประตู พร้อมมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษในเกมอุ่นเครื่องช่วงปลายเดือนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

[ แอนโทนี่ กอร์ดอน ]

คนต่อมา แอนโทนี่ กอร์ดอน ปีกดาวรุ่งวัย 23 ปี ที่ย้ายมาสู่ทัพสาลิกาดง เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยค่าตัวกว่า 40 ล้านปอนด์

โดยในช่วงแรกที่เจ้าตัวย้ายมาค้างแข้งในถิ่น เซนต์เจมส์พาร์ค กลับถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของฟอร์มการเล่นที่ดูไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไหร่ แถมยังถูกจับเป็นตัวสำรองเสียมากกว่า และทำประตูได้เพียง 1 ประตูเท่านั้นจากการลงสนาม 16 นัดใน พรีเมียร์ลีก

แต่พอมาฤดูกาลปัจจุบัน กอร์แดน ได้พัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเอง ก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อม ทำงานอย่างหนัก จนได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

และความพยายามดังกล่าวก็ได้ผลิดอกออกผลกลายมาเป็นฟอร์มการเล่นได้ยอดเยี่ยม จนสามารถยึดตำแหน่ง 11 ตัวจริงของทีมได้สำเร็จในฤดูกาลนี้

โดยจุดเด่นของ แอนโทนี่ กอร์ดอน ก็คือความเร็วในการพาทัวร์แบ็คฝั่งตรงข้าม และการหาพื้นที่ในการเข้าทำประตู หรือการถวายพานแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีม

โดย กอร์ดอน ลงสนามให้กับ นิวคาสเซิ่ล ฤดูกาลนี้ไปทั้งหมด 40 นัดรวมทุกรายการทำไป 10 ประตูพ่วงอีก 7 แอสซิสต์

[ โคล พาลเมอร์ ]

คนสุดท้ายคงหนีไม้พ้น โคล พาลเมอร์ ที่โชว์ฟอร์มให้กับต้นสังกัดอย่าง เชลซี ได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจริงๆ กลายเป็นเดอะแบกในแนวรุกของทีมในระยะเวลาอันสั้น

พาลเมอร์ ได้ย้ายมาอยู่กับ ทัพสิงบลูส์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัวกว่า 40 ล้านปอนด์ หลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่การันตีตำแหน่งตัวจริงให้กับเจ้าตัว 

นอกจากนี้ พาลเมอร์ ยังถูกตั้งคำถามมากมายที่ว่า ด้วยอายุแค่นี้จะไหวหรอ และยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในทีมชุดใหญ่เท่าไหร่ แถมค่าตัวที่ดูแพงจนโอเวอร์เกินเหตุ

หลังจากนั้นไม่นาน พาลเมอร์ ก็ได้แสดงความสามารถอันเหนือชั้น จากเสียงวิจารณ์กลายเป็นเสียงชื่นชม และพิสูจน์ตัวเองให้โลกได้รู้ว่า กูอ่ะของจริง กูอ่ะของแทร่ กลายมาเป็นเดอะแบกในแผงแนวรุกให้กับ เชลซี ด้วยวัยเพียง 21 ปีเท่านั้น

แม้ฟอร์มการเล่นของทีมต้นสังกัดจะเข้าขั้นห่วยแตก แต่ฟอร์มส่วนตัวต้องบอกได้เลยว่าโคตรเทพ ทำไป 16 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 37 นัดรวมทุกรายการ
 

-บีเบลล์ กูนเนอร์-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline