logo-heading

ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ "มาซาทาดะ อิชิอิ" ได้ทำการประกาศรายชื่อนักเตะ ชุดที่จะใช้คัดบอลโลก ในสองเกมสุดท้ายของรอบสองออกมาเป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมด 27 รายชื่อ 

ซึ่งก็มีทั้งนักเตะหน้าใหม่หน้าเก่า มีทั้งตัวเก๋าผสมดาวรุ่ง และแน่นอนทันทีที่มีการประกาศรายชื่อออกมา ก็จะต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาติดๆ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว ที่ไม่ว่าจะประกาศรายชื่อนักเตะออกมาแบบไหน มันก็ไม่มีทางที่จะทำให้ถูกใจแฟนบอลทั้งหมดได้

เพราะฉะนั้นไม่ต้องซีเรียส รอให้ผลงานเป็นตัวตัดสินดีกว่า ว่าที่โค้ชเลือกมานั้น คิดผิดหรือคิดถูก

สำหรับรายชื่อนักเตะทั้ง 27 คน มีดังนี้

ผ่ารายชื่อ 27 แข้งทีมชาติไทย กับ 2 เกมสำคัญ ชี้ชะตาบอลโลก

และจากรายชื่อที่ออกมานั้น มีอะไรน่าสนใจ และควรหยิบยกมาพูดถึงกันบ้าง ไปดูกัน

1.สามแข้งหน้าใหม่ประเดิมชุดใหญ่ช้างศึก

รายชื่อทีมชาติไทย ชุดนี้ มีนักเตะหน้าใหม่ถอดด้าม ติดทีมช้างศึกชุดใหญ่เป็นครั้งแรก 3 คนด้วยกัน ประกอบไปด้วย อิรฟาน ดอเลาะ กองกลางจากอุทัยธานี, อนันต์ ยอดสังวาลย์ และ อัครพงษ์ พุ่มวิเศษ สองนักเตะจากลำพูน วอริเออร์ ถามว่าเซอร์ไพรส์ไหม ก็พอสมควร เพราะทั้งสามคนไม่ได้อยู่ในข่ายที่แฟนบอลคิดว่าจะติดมาก่อนหน้านี้ แต่ติดมาก็ไม่มีใครสงสัยอะไร เพราะฟอร์มทั้งสามคนก็ถือว่าโอเค แต่ถ้าถามถึงโอกาสมีชื่อเป็น 23 คนสุดท้ายในวันแข่งขัน รวมทั้งได้ลงเล่นหรือไม่ ก็ต้องบอกว่ายังยากอยู่เหมือนกัน แต่ถือว่าได้เข้าไปเก็บประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่แล้วกัน ถ้ามีโอกาสก็อาจจะได้ลงสนาม

2.ธนบูรณ์, กฤษฎา มีชื่อเป็นกองหลัง

พูดถึงกองหลังในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ครั้งนี้เรียกมาหลายคน เอาที่เป็นเซ็นเตอร์อาชีพมี 3 คน คือ เฉลิมศักดิ์ อักขี, สุพรรณ ทองสงค์ และ เอเลียส ดอเลาะ แต่ก็ยังมีเซ็นเตอร์กลายพันธุ์อย่าง กฤษดา กาแมน กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ติดมาด้วย ซึ่งก็ถือว่าเพิ่มตัวเลือกทั้งตำแหน่งกองหลังและกองกลาง และบางทีเรายังสามารถปรับมาเล่นหลัง 3 ได้ เมื่อจำเป็น

ส่วนแบ็กครั้งนี้ไม่ฝืนธรรมชาติ เรียกมาฝั่งละ 2 คน จากที่ครั้งก่อนๆ จะเรียกซ้ายมาคนเดียว เรียกขวามาสาม แต่ครั้งนี้เราไม่มี นิโคลัส มิคเกลสัน ที่เจ็บ โดยที่เข้ามาแทนคือ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่มาเพิ่มทางฝั่งซ้าย แถมยังขึ้นไปเล่นตัวบนได้ด้วย

3.สมพร ยศ ติดมือสาม

ในตำแหน่งผู้รักษาประตู หลายคนเซอร์ไพรส์เหมือนกันเมื่อเห็นชื่อของ สมพร ยศ นายทวารจากการท่าเรือ เอฟซี ซึ่งหลายคนแอบเชียร์ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ฟอร์มดีกับเมืองทอง แต่เหตุผลของ อิชิอิ ก็คือต้องการเรียกมือสามที่เป็นตัวอนาคตมากกว่า เพื่อเข้ามาเรียนรู้และซึบซับกับบรรยากาศในทีม เพราะเขามีมือ 1 กับ 2 ในใจอยู่แล้ว ดังนั้นมือสามจึงเปิดโอกาสให้คนที่เขาอยากเห็นฟอร์มได้เข้ามาอยู่ในทีม เหมือนครั้งก่อนก็เรียก บุญยเกียรติ วงค์ษาแจ่ม เข้ามา

ส่วนในรายของ กวินทร์ ก็เชื่อว่ายังไม่หมดโอกาสกับทีมชาติแน่นอน ถ้าผลงานและฟอร์มยังดีแบบนี้ เชื่อว่าถ้าเราได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปก็ยังมีโอกาส หรือบางทีอาจจะกลับในชุดอาเซียน คัพ ก็เป็นได้

4.ธีรศิลป์ คัมแบ็ค

มาดูกันที่ตำแหน่งกองหน้า ครั้งนี้มีชื่อของ ธีรศิลป์ แดงดา กลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังจากเกมล่าสุดคือเกมที่บุกไปชนะสิงคโปร์ 3-1 โดยก่อนหน้านี้ทั้งในเอเชี่ยน คัพ และเกมกับเกาหลีใต้ 2 นัดล่าสุด พี่มุ้ย นั้นไม่พร้อม ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกของ ธีรศิลป์ แดงดา ในทีมชาติไทยของ อิชิอิ ส่วนพี่มุ้ยจะกลับมาเป็นตัวจริงตัวหลักเลยไหม คงขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและท็กติกของกุนซือชาวญี่ปุ่นเราก็ต้องมารอดูกันอีกครั้ง

5.กองหน้าติดมา 5 คน

และนอกจาก ธีรศิลป์ แล้วยังเรียกกองหน้ามาอีก 4 รวมทั้งหมด 5 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มักจะเรียกมาแค่ 2-3 คนเท่านั้น แต่ครั้งนี้เรียกว่าแบบเต็มพอกัด นั่นแสดงให้เห็นถึงการเน้นเกมรุกและต้องการประตู และบางทีก็อาจจะเรียกมาเผื่อไว้สำหรับเตรียมทีมในอาเซียน คัพ ด้วย

สำหรับทีมชาติไทย จะเข้าแคมป์เก็บตัวกันวันที่ 29 พ.ค.นี้ ก่อนจะเดินทางไปจีนวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่งนักเตะจากต่างแดนก็จะทยอยตามมาสมทบช้าสุดน่าจะเป็น สุภโชค ที่จะมาวันที่ 3 มิ.ย.67 

โดยโปรแกรม 2 นัดของทีมชาติไทยในเดือนมิถุนายนนี้ จะออกไปเยือน จีน วันที่ 6 มิ.ย. และกลับมาเล่นในบ้านรับมือสิงคโปร์ 11 มิ.ย.67 เป้าหมายของเราคือต้องชนะทั้ง 2 นัด เก็บ 6 แต้มเต็มเพื่อคว้าตั๋วไปลุยต่อรอบสาม แต่ถ้าผลเป็นอื่นก็ต้องมาลุ้นผลการแข่งขันของคู่อื่นๆ ด้วย ซึ่งมีโอกาสตกรอบสูง ดังนั้นมีโอกาสกุมชะตาตัวเองได้ ก็ต้องชนะให้ได้ทั้งสองเกม

และจากรายชื่อทั้ง 27 คนที่ออกมา แน่นอนว่ามีทั้งคนที่โอเค และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่พอสมควรในบางตำแหน่ง จะถูกใจไม่ถูกใจอย่างไรทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลงาน 

ถ้าท้ายที่สุดแล้ว โค้ชอิชิอิ สามารถพาทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ และยังอยู่ในเส้นทางของฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 3 นั่นถือว่าเราประสบความสำเร็จ และทำได้ตามเป้าหมาย

ดังนั้นถ้าผลการแข่งขันมันได้ ทุกอย่างก็จบ เอาเป็นว่าเรามารอเชียร์ทีมชาติไทยของเราเก็บ 6 แต้มเต็มให้ได้ในสองเกมเดือนมิถุนายนนี้กันดีกว่า ไทยแลนด์ ปู๊นๆๆๆๆ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline