[ แม้พ่ายแพ้แต่ขอชื่นชม ]
แม้ว่าเกมนี้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ แต่ก็ต้องขอชื่นชมหัวจิตหัวใจความเป็นนักสู้ของนักเตะ ออสเตรีย ภายใต้การคุมทัพ ของ ราล์ฟ รังนิก เลยครับ ที่วันนี้พวกเขามาต่อกรกับ ฝรั่งเศส ที่อุดมไปด้วยสตาร์ล้นทีมได้แบบไม่เกรงกลัว กล้าเปิดหน้าแลกแบบเต็มอัตราศึก ใส่หมดไม่สนลูกใคร ไม่สนว่าทีมคุณภาพจะเป็นรองแค่ไหน เล่นกันมันส์ดีเหลือเกิน
เกมเพรสซิ่งก็ทำได้ยอดเยี่ยม ทำเอานักเตะอย่าง อองตวน กรีซมันน์ ที่เป็นหัวใจแดนกลางในการสร้างสรรค์เกมรุกของ ฝรั่งเศส แทบโชว์ฟอร์มไม่ออก
เท่านั้นไม่พอเกมสวนกลับแต่ละครั้งของ ออสเตรีย ก็ทำได้โคตรน่ากลัวสวนมาแต่ละครั้งได้ลุ้นแทบตลอด แต่ด้วยความเฉียบขาดของผู้เล่นในแนวรุก และปัญหาการเข้าทำจังหวะสุดท้าย ทำให้พวกเขาไม่สามารถเบิกสกอร์แรกในทัวร์นาเมนต์นี้ได้
[ เอ็มบัปเป้ รอประตูแรกต่อไป ]
ก่อนเกมมีข่าวมาว่า เอ็มบัปเป้ มีอาการป่วยไม่สามารถลงสนามฝึกซ้อมได้ แต่ในท้ายที่สุด ดิดิเยร์ เดชองส์ ก็เลือกเข็น ประธานเป้ ลงสนามเป็นขุนพล 11 ตัวจริงในเกมนี้ แม้ว่าสภาพร่างกายจะไม่ฟิตสมบูณ์ 100%
ถึงกระนั้นฟอร์มการเล่นของ เอ็มบัปเป้ ก็ยังอยู่ในระดับที่สุดยอดกล้วยทอดสองถุง ทั้งความเร็ว และความสามารถเฉพาะตัวของ ท่านประธาน ฉีกกระชากแนวรับของ ออสเตรีย ได้แทบทุกครั้งที่สัมผัสบอล และมีส่วนสำคัญที่ช่วย ทัพตราไก่ ได้ประตูแรกและเป็นประตูชัยในเกมนี้
แม้จะพลาดโอกาสทองในครึ่งหลังที่หลุดเดี่ยวไปดวลกับผู้รักษาประตูแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ทำให้ เอ็มบัปเป้ ยังคงรอประตูแรกในศึก ยูโร ต่อไป
อีกทั้งในช่วงท้ายเกม เอ็มบัปเป้ ยังโชคร้ายซ้ำสอง มีจังหวะเข้าปะทะกับผู้เล่นของ ออสเตรีย จนจมูกหักเลือดออกเต็มจมูก
หลังจบเกมทาง สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส ยืนยันว่า เอ็มบับเป้ จะเข้ารับการผ่าตัดจากการบาดเจ็บจมูกที่ ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี
ไม่รู้ว่าเกมนัดถัดไปที่ต้องเผชิญหน้ากับศึกใหญ่อย่าง เนเธอร์แลนด์ ท่านประธานเป้ จะพร้อมลงสนามหรือไม่
[ ก็องเต้ ไม่มีแผ่ว ]
ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์อาจมีคำถามว่า ในวัย 33 ปีที่ไม่ได้ค้าแข้งในลีกยุโรป ซีซั่นที่ผ่านมาของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยังจะช่วย ฝรั่งเศส ได้มากน้อยแค่ไหน
ในเกมนัดนี้ทุกคนน่าจะได้คำตอบกันนะครับว่า การไปเล่นที่ ซาอุดิอาระเบีย ไม่ได้ลดทอนคุณภาพของชายคนนี้ไปเลย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยังเป็นนักเตะคนเดิมที่เราคุ้นตา วิ่งพล่านไปทั่วสนามราวกับมี 8 ปอด
มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยให้เกมรับของ ฝรั่งเศส ในเกมนี้เหนียวแน่นแข็งแกร่ง คอยสกรีนอยู่หน้าแผงหลัง ทำให้กองหลังเล่นได้ง่ายมากขึ้น
ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ทำให้ ก็องเต้ ได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ ในเกมนี้ไปครอง พร้อมกับรอยยิ้มอันเขิลอายที่คุ้นเคย
"ขอบคุณทุกคน ผมดีใจที่ได้กลับมาเล่นทีมชาติอีกครั้ง มันยอดเยี่ยมมาก"
"ผมชอบตอนที่แฟนๆ ตะโกนชื่อของผม ผมขอขอบคุณจากใจจริงๆ"
-บีเบลล์ กูนเนอร์-