logo-heading

ฟุตบอลไทย ฤดูกาล 2023/24 ปิดฉากกันไปเรียบร้อยอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย โดยเฉพาะช่วงท้ายฤดูกาลที่ต้องเอาฟุตบอลถ้วยมาเตะนัดชิงกันสองวันติด รวมทั้งปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และเงินสนับสนุนของลีกต่างๆ ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล แต่ก็ถือว่าทุกอย่างจบลงด้วยนี้ จากนี้ก็เตรียมเดินหน้าสู่การแข่งขันซีซั่นใหม่

โดยในฤดูกาล 2024/25 จะถือเป็นการเปิดซิงการเข้ามาบริหางานของสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดใหม่ ที่มี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นนายกสมาคมฯ แบบเต็มฤดูกาล หลังจากที่ได้ชิมลางเข้ามาทำเมื่อเลกสองของซีซั่นที่ผ่านมา

ซึ่งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง "มาดามแป้ง" และทีมงานชุดใหม่ก็ได้เข้ามาสะสางแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ ซึ่งก็มีทั้งเรียบร้อยและยังไม่เรียบร้อย

ว่ากันที่เรื่องฤดูกาลใหม่ของฟุตบอลไทยลีก ก็ยังคงมีปัญหาต่างๆ มากมาย เรื่องใหญ่ที่เป็นปัญหามาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วก็คือเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่ถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าไทยลีก ฤดูกาลใหม่นี้ จะมีถ่ายทอดสดไหม ทางช่องทางไหน ซึ่งเรื่องของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด มันก็เกี่ยวข้องกับเงินสนับสนุนที่แต่ละสโมสร แต่ละลีกจะได้รับ

โดยนายกแป้ง ให่สัญญากับทุกทีมทุกลีกว่า ไทยลีก จะได้เงินสนับสนุนทีมละ 10 ล้านบาท ไทยลีก 2 ทีมละ 3 ล้านบาท และ ไทยลีก 3 ทีมละ 1 ล้านบาท แต่ในเมื่อเรื่องถ่ายทอดสดยังไม่สรุป ก็ไม่มีใครการันตีได้ว่าเงินจำนวนกังกล่าวจะได้จริงหรือไม่

เรื่องต่อมาก็คือเรื่องโปรแกรมการแข่งขัน ที่ถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถคลอดออกมาได้ ถ้าวนกลับไปมันก็มีหลายเรื่องที่เกี่ยวโยงกัน ทั้งเรื่องถ่ายทอดสด เรื่องจำนวนทีม เรื่องโปรแกรมทีมชาติ และอีกมากมาย

แต่ล่าสุดสมาคมฯ ก็แก้ปัญหาด้วยการแต่งตั้ง "เสี่ยฟลุ๊ค" ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี ในฐานะหนึ่งในสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เข้ามาเป็นประธานจัดการแข่งขันไทยลีก 1

ซึ่งตรงนี้ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชี่ยลมากมายว่าทำไมถึงเอาประธานสโมสรฟุตบอลที่มีส่วนได้เสียกับการแข่งขันมาเป็นประธาน แต่จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่ตำแหน่งประธานไทยลีกนะครับ แค่ประธานจัดการแข่งขัน

ในอดีตยุคของ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็มี "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ที่ตอนนั้นเป็นรองประธานสโมสรบีจี ปทุม ก็มาเป็นอุปนายกสมาคมฯฝ่ายจัดการแข่งขัน แม้ชื่อตำแหน่งจะไม่เหมือนกัน แต่มันคือการทำงานในลักษณะเดียวกัน นั่นก็คือเรื่องของการจัดการแข่งขัน ซึ่งตอนนั้นก็มี นายกสมยศ เป็นประธานไทยลีก

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แม้จะมี คุณธนวัชร เป็นประธานจัดการแข่งขันไทยลีก 1 แต่ประธานไทยลีกก็ยังคงเป็น "มาดามแป้ง" นายกสมาคมฯ เหมือนเดิม อีกทั้งทั้งหมดนี้ก็เป็นความเห็นชอบของสมาคมกรรมการ ซึ่งก็มีตัวแทนหลายสโมสรอยู่ในนั้น จริงๆ มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

ฟุตบอลอังกฤษฝ่ายบริหารฟุตบอลลีกก็คือตัวแทนจาก 20 สโมสรเหมือนกัน หรืออย่างฤดูกาลที่แล้ว เราก็จะเห็นว่า 16 สโมสรไทยลีก ก็มีการรวมตัวกันเพื่อมาแก้ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่จะบอกก็คือการมีผู้บริหารสโมสรเข้ามาทำหน้าที่ประธานจัดการแข่งขันมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็คือว่าการแก้ปัญหาแบบนี้มันก็เหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบขอไปทีก่อน เอาให้ปัญหาตอนนี้มันเดินหน้าไปได้ แต่มันไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะยาวที่เราเคยวาดฝันกันเอาไว้

การแก้ปัญหาระยะยาวที่ว่าก็คือ จริงๆ แล้วสมาคมฯ ควรจะมีการจัดตั้งคณะทำงานของไทยลีกขึ้นมา ซึ่งก็คือตัวแทนจาก 16 สโมสรนี่แหละ โมเดลเดียวกับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้วก็มีการจัดตั้งบริษัทไทยลีก แยกตัวจากสมาคมฯ อย่างชัดเจน จากนั้นก็แต่งตั้งคนที่มีความรู้เรื่องฟุตบอลฯ และเรื่องการบริหารงานเข้ามาเป็นประธาน และก็เดินหน้างานกันต่อไปตามโครงสร้าง 

ซึ่งจริงๆ มันก็มีแผนที่จะทำกันแบบนั้น เพียงแต่ว่าหลายๆ ปัจจัยทำให้มันยังไม่สามารถดำเนินการแบบนั้นได้ เราเลยต้องแก้กันไปทีละเปาะแบบนี้ก่อน

นี่ยังไม่ได้พูดถึงปัญหาของฟุตบอลไทยลีก 2 ที่ก็ยังไม่มีสปอนเซอร์ เรื่องถ่ายทอดสดไม่ต้องพูดถึง ไหนจะฟุตบอลภูมิภาคไทยลีก 3 อีก ที่ถือเป็นรากฐานของฟุตบอลลีกอาชีพ คือถ้า T3 อยู่ได้ ลีกอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่นี่ยังไม่รู้ว่าจะเอากันอย่างไร จะเตะกันกี่ทีม ระยะเวลา เงินสนุบสนุน คิดแล้วก็ปวดหัว

และอย่าลืมว่ายังมีฟุตซอลลีก อีกที่ก็ยังลูกผีลูกคน ทั้งเรื่องการจัดการแข่งขัน เงินรางวัลจากฤดูกาลที่แล้ว อย่าลืมว่าฟุตซอลของเราได้ไปฟุตซอลโลกนะครับ 7 สมัยแล้วด้วย แต่ฟุตซอลลีกยังจัดการแบบลูกทุ่งอยู่เลย ภายนอกเหมือนจะดูดี แต่ภายในต้องยอมรับว่ายังมีปัญหา

และปัญหาล่าสุดก็คือการลาออกของ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ในตำแหน่งอุปนายกสมาคมฯ และล่าสุดก็ลาออกจากการบริหารทีมชาติไทย ยู23 ด้วย นี่ถือเป็นสิ่งที่ทำให้งานหลายๆ อย่างในสมาคมฯ ต้องชะงัก เพราะบิ๊กบอสบีจี คือหัวเรือใหญ่ในการบริหารงานของสมาคมฯ ชุดนี้ เมื่อเสาหลักหายไปเสานึง ปัญหามันจึงเกิด

ที่ผ่านมามีการพยายามปรับความเข้าใจและล่าสุดก็มีการง้อกันในนัดชิงบอลถ้วย แต่ก็อย่างที่เห็น ดูจะสานกันไม่ติดเสียแล้ว

ซึ่งสุดท้ายถ้าคุณ ปวิณ ไม่ได้กลับมาร่วมงานในสมาคมฯ จริงๆ มันก็คงต้องหาคนใหม่เข้ามาแทนในตำแหน่งอุปนายกสมาคมฯ แต่มันก็คงไม่ง่ายที่จะไปหาใครเข้ามาแทนให้มันลงล็อค และมีความพร้อมเหมือนกับบอสใหญ่บีจี ซึ่งก็เป็นโจทย์ที่นายกแป้งคงต้องหาทางออกกันต่อไป

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือปัญหาที่เราเห็นจากข่าว และพอจะคิดวิเคราะห์กันเองได้ แต่มันยังมีปัญหาภายในอีกมากมายที่คนนอกอย่างเรายังไม่รู้ เชื่อว่ามีแน่นอน และน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ด้วย

ซึ่งตอนแรกที่เราได้นายกสมาคมฯ คนใหม่ คือ "มาดามแป้ง" เข้ามา ทุกคนวาดภาพเอาไว้สวยงาม หมอกลิ่นความเจริญนู่นนี่นั่น แต่พอมาถึงตรงจุดนี้ ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้สวยงามแบบที่เราคิดไว้

ซึ่งตัวนายกแป้ง เองก็คงคิดเช่นกันว่า การเข้ามาอยู่ตรงจุดนี้ มันไม่ได้สบาย และไม่ได้จัดการง่ายๆ เลย กับวงการฟุตบอลไทย

เอาเป็นว่าเราในฐานะแฟนบอลก็รอดูกันต่อไปแล้วกันว่าฟุตบอลไทยของเราจะเดินไปในทิศทางไหน มีอะไรให้บันเทิงอีกหรือเปล่า แต่หวังว่ามันจะไปในทิศทางที่ถูกต้องก็แล้วกัน (วาดภาพสวยอีกแล้ว)

 

#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline