logo-heading

หลังเกมนัดชิง ! สเปน ทำได้เฉือน อังกฤษ 2-1 คว้าแชมป์ ยูโร 2024

[ คู่หูนรกแตกของ สเปน ]

ต้องบอกว่าเวที ยูโร 2024 เป็นสังเวียนแจ้งเกิดของ 2 ดาวโรจน์แห่ง ทัพประทิงดุ อย่าง ลามีน ยามาล และ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ อย่างแท้จริง ทั้งคู่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ พาทีมจบด้วยตำแหน่งแชมป์ทั้งที่อายุยังไม่พ้นวัยเบนจเพศเลยด้วยซ้ำ

เกมนัดนี้แม้ว่าครึ่งแรกทั้งคู่จะดูเงียบไปซะหน่อย ทว่าครึ่งหลังเริ่มมาไม่ถึง 5 นาที รามีน ยามาล ได้จ่ายถวายพาลมาให้กับ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ก่อนที่จะตะบันด้วยซ้ายบอลเสียบมุมตะข่ายเข้าไปอย่างสวยสดงดงาม ช่วยให้ สเปน ออกนำไปก่อน 1-0 

จากแอสซิสต์ดังกล่าวช่วยให้ ลามีน ยามาล กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของ สเปน ที่สามารถทำได้ 4 แอสซิสต์ ในการลงเล่นฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

นอกจากนี้ ยามาล ยังสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ ด้วยวัย 17 ปี 1 วัน ทำลายสถิติเดิมของ เปเล่ ตำนานไข่มุกดำของบราซิลด้วยวัย 17 ปี กับ 249 วัน

โดยตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ลามีน ยามาล ทำได้ 1 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ พร้อมรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ 

ส่วน นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ทำได้ 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ด้วยอายุเพียงเท่านี้ หากไม่เสียผู้เสียคนไปก่อน แน่นอนว่าทั้งคู่จะเป็นกำลังพลสำคัญของ ทีมชาติสเปน ไปอีกนานอย่างแน่นอน

[ สมควรเป็นแชมป์ด้วยประการทั้งปวง ]

ยูโร 2024 ของ สเปน ภายใต้การคุมทัพของ เดอ ลา ฟวนเต้ ต้องบอกว่าทำผลงานได้โดดเด่นดีเหลือเกิน ปรุงแต่งให้ทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะดาวรุ่ง ผสมผสานกับนักเตะวัยเก๋าได้อย่างลงตัว

มิหนำซ้ำยังปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นของ สเปน จากเดิมที่เน้นการครองบอลชวนง่วง เป็นที่มีการเล่นดุดันมากขึ้น ใช้จังหวะการเล่นน้อยลง กลายเป็น สเปน ยุค 2.0 ที่กลมกล่อม และลงตัวทุกตำแหน่ง

คว้าชัยได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ยันนัดชิงชนะเลิศ กลายเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถเอาชนะได้ทุกนัด โดยทีมแรกที่ทำได้คือ ทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อ ยูโร 1984

ด้วยผลงานเช่นนี้ สเปน ของ เดอ ลา ฟวนเต้ เหมาะสมกับตำแหน่งแชมป์ด้วยประการทั้งปวง

[ อาถรรพ์ แฮร์รี่ เคน ]

แฮร์รี่ เคน คือผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังอย่างแท้จริง 14 ปีกับ 643 นัดในเส้นทางการค้าแข้ง เขาไม่เคยสัมผัสกับคำว่า "แชมป์" ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

มีโอกาสเข้าไปเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศกับทั้ง สเปอร์ส, ทีมชาติอังกฤษ และ บาเยิร์น มิวนิค รวมกันถึง 6 ครั้ง แบ่งออกเป็น คาราบาว คัพ 2 ครั้ง, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 ครั้ง, เดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ 1 ครั้ง และ ยูโร 2 ครั้ง

แต่ผลปรากฏว่าเขาไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เหมือนเป็นอาถรรพ์ ที่ตามหลอกหลอน แฮร์รี่ เคน อยู่เรื่อยมา

ไม่ว่าเขาจะยิงประตูได้เยอะแค่ไหน จะคว้ารางวัลส่วนตัวได้สักเท่าไหร่ แต่กับคำว่าถ้วยแชมป์เป็นสิ่งเดียวที่ แฮร์รี่ เคน โหยหามาทั้งชีวิต และเกมนัดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งนัดที่เขาต้องพบเจอกับความผิดหวังอีกครั้ง

[ อังกฤษ ยังต้องรอความสำเร็จต่อไป ]

นอกจาก แฮร์รี่ เคน แล้ว ทีมชาติอังกฤษ เองก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน เพราะนับตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 1966 หรือเป็นเวลากว่า 58 ปีมาแล้ว ทัพสิงโตคำราม ก็ไม่เคยคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้อีกเลย

ส่วน แกเร็ธ เซาธ์เกตุ ก็กลายเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์โลกลูกหนังที่คว้าตำแหน่งรองแชมป์ ยูโร สองสมัยติดต่อกัน 

แต่ด้วยผลงานที่พา ทัพสิงโตคำราม บินสูงจนจบรอบลึกๆตลอด ทำให้มีข่าวว่า เอฟเออังกฤษ เตรียมมอบสัญญาใหม่กับ เซาต์เกธ ให้อยู่คุมถึง ฟุตบอลโลก 2026

แต่ด้วยทรงบอล และวิธีการเล่นที่น่าเบื่อไม่มีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน เน้นไม่แพ้ มากกว่าเล่นเพื่อชนะ แถมยังมีระบบลูกรักที่ไม่แก้ไขสักที หาก เซาธ์เกตุ ได้อยู่คุมถึง ฟุตบอลโลก 2026 ตามที่เป็นข่าวจริง

ผมมั่นใจอย่างเต็มประดาเลยว่า football is coming home คงเป็นได้แค่ความฝันต่อไป

[ โรดรี้ ว่าที่ บัลลง ดอร์ ? ]

หากจะพูดถึงรางวัลบัลลง ดอร์ ก่อนหน้านี้ใครๆก็มองว่า จู๊ด เบลลิงแฮม หรือไม่ก็ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่เป็นสองตัวเต็งในปีนี้ แต่ด้วยผลงานกับทีมชาติที่ไปไม่ถึงฝันของทั้งคู่ 

วินิซิอุส จูเนียร์ พาทีมชาติพาบราซิล จบได้เพียง 8 ทีมสุดท้ายในศึก โคปา อเมริกา ส่วน จู๊ด เบลลิงแฮม แม้ว่าฟอร์มกับ เรอัล มาดริด จะโดดเด่นมากๆ เป็นถึงดีกรีนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ ลาลีกา 

ทว่าผลงานกับ ทีมชาติอังกฤษ จู๊ด กลับโชว์ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ แถมเกมนัดชิงชนะเลิศยังพ่ายต่อ สเปน ทำให้ตำแหน่งตัวเต็ง บัลลง ดอร์ ในปีนี้ตกเป็นของ โรดรี้ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน

ส่วนผลงานกับ ทีมชาติสเปน ในศึก ยูโร ครั้งนี้ โรดรี้ เปรียบเสมือนกระดูสันหลังที่ทีมขาดไม่ได้ โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ เป็นจิ๊กซอว์สำคัญของ สเปน ในการคว้าถ้วย ยูโร ครั้งนี้

แถมยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ได้อีก หากรางวัล บัลลง ดอร์ ในปีนี้ตกเป็นของ โรดรี้ คงไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด

-บีเบลล์ กูนเนอร์-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline