หากไม่มีอะไรผิดพลาด ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ประการหลังจาก โบโลญญ่า จะเปิดตัวเป็นแข้งรายที่สองของ อาร์เซน่อล ในตลาดซัมเมอร์นี้ต่อจาก ทอมมี่ เซ็ตฟอร์ด ผู้รักษาประตูดาวรุ่งวัย 18 ปี ที่ย้ายมาจา อาแจ็กซ์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
แต่อาจมีใครหลายคนที่สงสัยนะครับว่า ทำไม อาร์เซน่อล ถึงต้องเสริมแผงหลังมาก่อนเป็นอันดับแรก ทั้งที่ซีซั่นที่ผ่านมา ทัพปืนใหญ่ ของ มิเกล อาร์เตต้า คือทีมที่เสียประตูน้อยสุดใน พรีเมียร์ลีก เพียงแค่ 29 ประตูเท่านั้น
ทั้งที่มีคู่หูเซ็นเตอร์แบ็คที่แข็งแกร่งราวกับหินผาอย่าง กาเบรียล มากัลเญซ และ วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่จับคู่กันได้อย่างเข้าขารู้ใจ การที่จะเซ็นกองหลังค่าตัวเกือบ 50 ล้านปอนด์ มานั่งสำรองก็กระไรอยู่
ดังนั้นแล้ว ขอบสนาม จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่าทำไม อาร์เซน่อล ถึงเลือกเสริม ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ มาเป็นดีลอันดับแรกๆในตลาดซัมเมอร์นี้ และการย้ายมาของประการหลังรายนี้จะเวิร์คแค่ไหน ไปรับชมกันครับ
[ ปัญหาแบ็คซ้าย ]
เริ่มแรกของเกริ่นก่อนว่า เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาของ อาร์เซน่อล นอกจากตำแหน่งศูนย์หน้าที่เป็นปัญหาแล้ว ตำแหน่งแบ็คซ้ายก็เป็นหนึ่งจุดที่ ทัพปืนใหญ่ มีปัญหาอยู่มากโขเช่นเดียวกัน
เพราะตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงอย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ดันมาฟอร์มดรอปแบบกู่ไม่กลับ การหุบมาเล่นเป็น อินเวิร์ด ฟูลแบ็ค ก็ทำได้ไม่ดีแบบเดิม การจ่ายบอล และการเล่นเกมรุกที่เป็นจุดเด่นก็มักทำหมูหกอยู่เป็นประจำ หลายครั้งที่ อาร์เซน่อล เสียประตูก็มักเกิดมาจากความผิดพลาดของ ซินเชนโก้ นี่แหละครับ
รวมถึงปัญหาเกมรับที่อยู่คู่กับดาวเตะรายนี้มาตั้งแต่ซีซั่น 2022/23 ก็ยังแก้ไม่หาย มิหนำซ้ำกลับแย่ลงกว่าเดิม เพิ่มเติมคือชอบสติหลุดในช่วงเวลาสำคัญ จน มิเกล อาร์เตต้า เลือกหมดความอดทนเลือกที่จะดรอป ซินเชนโก้ ไว้ที่ม้านั่งสำรองในช่วงท้ายฤดูกาล
นอกจากนี้แบ็คซ้ายรายอื่นๆก็ยังดูหวังพึ่งอะไม่ได้มาก ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ก็มักถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่าเล่น 1 นัดเจ็บ 2 เดือน
ส่วน ยาคุป คิวิออร์ ที่ลงมาเล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายแรกๆเหมือนจะดี แต่ด้วยความที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัด ทำให้จังหวะการเล่นมันดูไม่เป็นธรรมชาติ บวกับเวลาลงเล่นเกมใหญ่ พี่แกก็พร้อมเป็นบ่อน้ำมันให้เจาะแทบทุกนัด
ดังนั้นเมื่อเห็นปัญหาดังนี้ มิเกล อาร์เตต้า จึงจำเป็นต้องเสริมในตำแหน่งแบ็คซ้ายโดยด่วน ด้วยการไปกระชากตัว ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ที่โชว์ฟอร์มสุดไฉไลกับทีมชาติอิตาลี ในศึก ยูโร 2024 ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวราวๆ 42 ล้านปอนด์ มาจาก โบโลญญ่า
คาลาฟิออรี่ เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ไม่ใช่หรอ ?
คำตอบคือใช่ครับ คาลาฟิออรี่ แจ้งเกิดในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คกับ โบโลญญ่า เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ทว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายมาก่อนกับ เอฟซี บาเซิ่ล
และความที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแผงแนวรับนี่เอง ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ชอบในตัวของ คาลิฟิออรี่ และต้องการคว้าตัวมาร่วมทีมให้จงได้
[ ครบเครื่องเรื่องต้มยำ ]
เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมากับ โบโลญญ่า คาลาฟิออรี่ มีสถิติเกมอยู่ในระดับท็อปของลีก กัลโช่ เซเรีย อา เลยก็ว่าได้ สามารถตัดบอลจากคู่แข่งได้สูงถึง 1.7 ต่อเกม มากสุดเป็นอันดับสองของลีก เป็นรองเพียง จอร์โจ้ สคัลวินี่ ของ อตาลันต้า เท่านั้นที่ทำได้ 1.8 ครั้งต่อเกม
นอกเหนือจากเกมรับแล้ว สถิติด้านเกมรุกยังโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเจ้าตัวมีสถิติการผ่านบอลสำเร็จถึง 90 เปอร์เซ็นต์ คีย์พาส 0.6 ครั้ง มากกว่าทั้ง คิวิออร์ และ โทมิยาสุ ที่เป็นแบ็คซ้ายตัวหลักของ อาร์เซน่อล เมื่อซีซั่นที่แล้วแบบเทียบไม่ติด
และที่พีคไปกว่านั้นนั่นก็คือ คาลาฟิออรี่ สามารถทำได้ถึง 5 แอสซิสต์ มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา เท่ากับ มาร์กอส เซเนซี่ ของบอร์นมัธ
เท่านั้นไม่พอการพาบอลขึ้นมาจากแนวหลังของดาวเตะรายนี้ ก็จัดว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร หากใครจำได้ในศึก ยูโร 2024 ศึกนัดชี้ชะตาในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ อิตาลี พบกับ โครเอเชีย ก็เป็น คาลาฟิออรี่ นี่แหละครับที่เป็นคนพาบอลขึ้นมาจากแดนหลัง ก่อนแอสซิตส์ให้ มัตเตีย ซัคคานญี่ ทำประตูตีเสมอช่วงนาทีบาปของเกม
อีกทั้งพี่แกยังมีส่วนสูงถึง 188 ซม หรือ 6 ฟุต 2 นิ้ว ทำให้ประสิทธิภาพการเล่นลูกตั้งเตะของ อาร์เซน่อล ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แถมยังมีออฟชั่นให้เลือกใช้งานหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ด้วยคุณสมับติที่หลากหลายเช่นนี้ โดดเด่นทั้งเกมรุก และเกมรับ ครองบอลดี จ่ายบอลได้ เติมขึ้นมาจ่ายบอลในแดงคู่แข่งได้ ทำให้การจัดแผนของ มิเกล อาร์เตต้า มีความยืนหยุ่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเล่นเป็นบทบาทแบ็คซ้ายก็ทำได้ หรือขยับเข้ามาเล่น อินเวิร์ด ก็ดูดี รวมไปถึงการหุบมาเล่นเป็นหลังสามก็ทำได้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าตอบทุกโจทย์ทุกการใช้งานเลยทีเดียว
สรุปได้ว่าการไปดึง คาลาฟิออรี่ มาร่วมทีมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาตรงจุดที่คัน เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในขุมกำลังเชิงลึกของทีมแล้ว ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพทางกราปซ้ายที่เป็นปัญหาของ อาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาให้เกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
-บีเบลล์ กูนเนอร์-