logo-heading

ทีมชาติไทย ชุดยู20 เวอร์ชั่น "บลูล็อค" ที่บริหารทีมโดยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกทีมเยาวชนอีกชุดที่อกหักพลาดท่าในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี หลังเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.67) แพ้ให้กับ อินโดนีเซีย 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ได้แค่รองแชมป์อาเซียนเท่ากัน

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนทีมรุ่นน้องอย่าง ช้างศึก ยู17 ที่คุมทีมโดย "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ ก็ไปแพ้จุดโทษ ออสเตรเลีย ในรอบชิงชนะเลิศของรุ่น ยู16 มาเช่นกัน ซึ่งก็จบด้วยรองแชมป์อาเซียน เหมือนๆ กัน

แต่ที่แตกต่างกันคือกระแสในโลกโซเชี่ยลที่มีต่อทั้งสองทีมค่อนข้างจะตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง 

ของยู17 ได้รองแชมป์เหมือนกัน แต่เหมือนแฟนบอลส่วนใหญ่พอใจผลงาน และค่อนข้างประทับใจกับฟอร์มการเล่นของไอ้หนูวัย 17 ปีชุดนี้ ที่เล่นอย่างมีระบบ และเกมรุกจี๊ดจ๊าด การแพ้ในรอบชิงก็เป็นการแพ้จุดโทษ

ขณะที่ของยู20 ที่แม้จะสามารถเอาชนะ ออสเตรเลีย มาได้ในรอบตัดเชือก แต่ผลงานในนัดชิงชนะเลิศนั้นน่าผิดหวัง เสียงส่วนใหญ่จึงออกแนวไม่ค่อยพอใจกับผลงาน โดยเฉพาะเกมรุกที่ดูจะไม่ค่อยมีไอเดียและจินตการเท่าไหร่ 

ส่วนตัวแล้วผมได้ดูผลงาน และติดตามฟอร์มการเล่นของทีมชาติไทย ชุดเล็กทั้งสองชุดนี้ในศึกชิงแชมป์อาเซียนที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างจะเห็นด้วยกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น

แต่ส่วนตัวแล้วมองว่า โอเคในศึกชิงแชมป์อาเซียน ถ้าเราจะมองว่าต้องแชมป์เท่านั้นถือว่าประสบความสำเร็จ ดังนั้นผลที่ออกมาถือว่าล้มเหลวและน่าผิดหวัง แต่ผมเองไม่ได้มองว่าแชมป์อาเซียน คือตัวตัดสิน หรือบทสรุปผลงานของทีมชาติไทย ชุดนี้แต่อย่างใด

สิ่งที่ผมคาดหวังคือเรื่องของฟอร์มการเล่น และวิธีการมากกว่า ที่อยากจะเห็นจากทีมเยาวชนทั้งสองชุด ในการลงเล่นระดับอาเซียน ว่าจะสามารถต่อยอดไปได้ไกลแค่ไหนในทัวร์นาเม้นท์ต่อไป ที่มันสำคัญและใหญ่กว่า

ดังนั้นผลงานในชิงแชมป์อาเซียนไม่ใช่ตัวชี้วัดทุกอย่าง แต่มันก็พอจะบอกได้ว่าเราจะคาดหวังกับทีมชดนี้ได้มากน้อยแค่ไหนในรายการต่อไป 

ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ ทีมชาติไทย ชุดยู20 นี้ก็จะต้องลงเตะศึก ยู20 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ซึ่งเราจะเป็นเจ้าภาพเองด้วยที่จังหวัดบุรีรัมย์

โดยทีมช้างศึกอยู่ในกลุ่ม กับ อิรัก, ฟิลิปปินส์ และ บรูไน โดยมีโปรแกรมดังนี้

  • นัดแรก 25 ก.ย.67 ไทย พบ ฟิลิปปินส์
  • นัดสอง 27 ก.ย.67 บรูไน พบ ไทย
  • นัดสาม 29 ก.ย.67 อิรัก พบ ไทย

ทุกนัดเล่นที่สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์ 

โดยการแข่งขันรายการนี้จะคัดเอาแชมป์กลุ่ม 10 ทีม บวกกับอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 5 ทีม (จาก 10 กลุ่ม) เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายร่วมกับ จีน เจ้าภาพ รวมเป็นทั้งหมด 16 ทีม ซึ่งศึก ยู20 ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายจะแข่งขันกันในปี 2025 ที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 6-23 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจะคัดเลือกเอา 4 ทีมสุดท้าย ไปแข่งขันฟุตบอล ยู20 ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศชิลี ในปี 2025 ต่อไป

นี่คือรายการที่สำคัญมากๆ แม้จะเป็นรอบคัดเลือก แต่เราก็ต้องผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายให้ได้ แม้ดูจากเพื่อนร่วมสายอาจจะเป็นงานที่ไม่ยากนัก แต่ก็ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะการต้องเจอกับ อิรัก ถ้าสมมติเราไม่สามารถคว้าแชมป์กลุ่มได้ ต้องตกไปเป็นที่สอง ก็ต้องลุ้นต่ออีกว่าจะดีพอเข้ารอบต่อไปหรือไม่

ดังนั้นจะยังไงก็ต้องผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายให้ได้ในปีหน้า จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ถ้าตกรอบคัดเลือกแล้วละก็ มันคือความล้มเหลวอย่างแท้จริง 

เห็นไหมว่าศึกชิงแชมป์เอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญอะไร ที่ผ่านมาแม้ผลงานจะยังไม่น่าพอใจ ก็ถือว่าเป็นการซ้อมใหญ่ไปแล้วกัน อย่างน้อยก้ทำให้เราเห็นว่าเรายังขาดตรงไหน ต้องเพิ่มเติมอะไรหลังจากนี้

เชื่อว่าทีมงานของบุรีรัมยื ยูไนเต็ด รวมทั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เองก็คงจะมีข้อมูลและวางแผนเตรียมทีมสำหรับทัวร์นาเม้นท์ต่อไปกันเอาไว้แล้ว (หรือยังไม่มีก็ไม่รู้นะ) เชื่อว่ามีโดยเฉพาะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ที่คงต้องขอแก้ตัวในรายการคัดเลือกเอเชีย ในเดือนกันยายนนี้ และผมค่อนข้างมั่นใจว่า เราน่าจะได้เห็นกุนซือทีมชาติไทย ชุดยู20 คนใหม่ ที่จะเข้ามาคุมทีมในรอบคัดเลือกเอเชีย

ไม่ใช่ว่า เอเมอร์สัน ไม่ดีหรือไม่เก่งนะครับ แต่เขาอาจจะไม่เหมาะกับการทำทีมชาติ โดยเฉพาะบอลเด็กแบบนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนจะทำได้ มันต้องเป็นโค้ชที่ถนัดบอลเยาวชน และเป็นโค้ชที่รู้จักนักเตะไทยเป็นอย่างดี

เชื่อว่าจากนี้ เอเมอร์สัน น่าจะได้กลับไปเป็นสตาฟฟ์โค้ชในทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ ส่วนใครจะมารับเผือกร้อนคนต่อไปในทีมช้างศึก ยู20 เราคงต้องมารอดูกัน แล้วก็ไม่รู้ว่ากว่าจะถึงวันแข่งขัน จะเปลี่ยนโค้ชอีกกี่คน

ถ้าให้แนะนำผมว่าหาโค้ชไทยเก่งๆ ดีกว่า มีอยู่คนนึง แต่คงเป็นไปไม่ได้ และบอกชื่อไปแฟนบอลก็คงงี้ แต่ผมว่างานนี้เหมาะกับโค้ชที่ชื่อ "อิสสระ ศรีทะโร" แต่ก็นั่นแหละ มันคงเป็นไปไม่ได้ ผมก็แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ

จากนี้มารอดูกัน ยังมีเวลาที่จะปรับปรุง แก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้น แล้วในศึกยู20 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก เรามาตัดสินผลงานของทีมชาติไทย ชุดนี้กันอีกครั้ง!! 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline