ควันหลงหลังเกมที่ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย บุกไปเฉือนชนะทีมดาวทอง เวียดนาม ถึงถิ่น 2-1 ในรายการ LPBANK CUP 2024 ที่สนามหมี่ ดินห์ สเตเดี้ยม เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
ถือเป็นอีกนัดที่ทีมชาติไทย ยังคงรักษาสถิติการไปเยือนเวียดนาม ที่สนามแห่งนี้แล้วไม่แพ้กลับออกมา โดยก่อนหน้านี้ทีมช้างศึก ไปเตะที่หมี่ ดินห์ สเตเดี้ยม 6 ครั้ง บุกไปชนะได้ 2 ครั้ง และเสมออีก 4 ครั้ง
โดยเกมเมื่อวานนี้เป็นการไปเตะที่รังเหย้าเวียดนาม นัดที่ 7 และก็เพิ่มสถิติด้วยการชนะเป็นเกมที่ 3 กลับออกมาได้อย่างสวยงาม
นี่คือเกมแรกของ มาซาทาดะ อิชิอิ ในการคุมทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม หลังจากเข้ามรับงานกุนซือใหญ่ทีมช้างศึกเมื่อปลายปีที่แล้ว
เกมนี้ถือเป็นการลองทีม ได้ลองนักเตะสายเลือดใหม่หลายๆ คน รวมทั้งนักเตะสายเลือดเก่าที่คัมแบ็คกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ซึ่งก็มีทั้งคนที่โชว์ฟอร์มได้ดีน่าประทับใจ และก็มีหลายคนที่ถือว่ายังทำได้ไม่ดีนัก หรือพูดง่ายๆ ก็คือยังสอบไม่ผ่านนั่นเอง
วันนี้เราจะมาผ่าฟอร์มผลงานของทีมชาติไทยกันว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรกันบ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าน่าเสียดายที่เกมระหว่าง ทีมชาติไทย ที่จะพบกับ รัสเซีย เมื่อวันที่ 7 กันยายน นั้นถูกยกเลิกไป เนื่องจากสภาพอากาศ ทำให้ อิชิอิ ไม่สามารถที่จะลองนักเตะได้ครับทุกคนตามที่ตั้งใจไว้ ดังนั้นเมื่อวานนี้ จึงมีนักเตะได้ลงสนามทั้งหมด 17 คน เป็นตัวจริง 11 คน และ สำรองอีก 6 คน
สำหรับ 11 คนแรกที่ได้ลงสนาม ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม จากทรู แบงค็อก ก็ไม่มีจังหวะผิดพลาดอะไร ถือว่าเล่นได้ตามมาตรฐาน ลูกที่ควรเซฟได้ก็ทำได้ ส่วนลูกที่เสียประตูมันก็จ่อจริงๆ
แนวรับ แบ็กขวา นิโคลัส มิคเกลสัน เล่นได้ตามมาตรฐานอยู่แล้ว เอาผู้เล่นทางฝั่งซ้ายของเวียดนามอยู่หมัด แต่ช่วงท้ายก็อาจจะมีแผ่วไปบ้าง แต่โดยรวมถือว่าน่าพอใจ
แบ็กซ้าย ศศลักษณ์ ไหประโคน เล่นครึ่งแรกครึ่งเดียว ซึ่งก็ถือว่าโอเคเลย เพราะกำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจ
คู่เซ็นเตอร์ เอเลียส ดอเลาะ มีจังหวะพลาดครั้งเดียวก็คือตอนที่เสียประตูแรก ตามประกบไม่ดี และจังหวะสุดท้ายเคลียร์บอลไม่ขาด แต่หลังจากนั้นก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
โจนาธาร เข็มดี นี่น่าจะเป็นเกมแจ้งเกิดที่ดีเลยของ โจนาธาร กับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ที่เจ้าตัวรอคอยมายาวนาน ครึ่งแรกอาจจะมีเรื่องจังหวะและการสื่อสารกับ เอเลียส บ้าง แต่ครึ่งหลังต้องบอกว่าเนียนกริ๊บ และน่าจะทำให้ อิชิอิ ได้เจอเซ็นเตอร์ตัวหลักที่เขาตามหามานานเช่นกัน
มาถึงกองกลาง คนแรก วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่คุมจังหวะเกมแดนกลางได้ดี แถมยังเปิดบอลสวยๆ หลายครั้ง และประตูตีเสมอก้มาจากการเปิดฟรีคิกเข้าไปของเจ้ายิมนี่แหละ
วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ นี่คืออีกคนที่ได้เดบิวต์เกมแรกกับทีมชุดใหญ่ ช่วงแรกถือว่าทำได้ดี มีความขยัน ทุ่มเท ไล่บี้ดี มีความแข็งแกร่ง แต่ก็อาจจะต้องปรับเรื่องการยืนตำแหน่ง และความแน่นอนในการเล่นมากกว่านี้
ปีกขวา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิงได้ 1 ประตู ในรายของ “ต้าวแบงค์” คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก เพราะเจ้าตัวเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ไปแล้ว เมื่อวานนี้ก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในแนวรุก ซึ่งถ้าเพื่อนประสานงานกับ ศุภณัฏฐ์ ได้ดีกว่านี้อาจจะมีประตู หรือแอสซิสต์เพิ่มในเกมเมื่อวานก็ได้
ปีกซ้าย เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็เป็นการกลับมาเล่นให้ทีมชาติไทย อีกครั้ง หลังจากหลุดไปก่อนหน้านี้ อาจจะยังไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่น แต่ก็คงต้องให้เวลาเจ้าบุ๊คในการเรียกความมั่นใจกลับคืนมาให้ได้หลังจากนี้
คู่กองหน้า พาตริก กุสตาฟส์สัน คนยิงประตูชัย 2-1 โดยรวมถือว่าทำได้ตามจ็อบ เป็นกองหน้าทำประตูได้ แต่สิ่งที่ยังต้องปรับอาจจะเป็นเรื่องความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม รวมทั้งการเก็บบอลและจ่ายบอลที่ต้องแน่นอนกว่านี้
อีกรายคือ กรวิชญ์ ทะสา มีจังหวะในเกมพอสมควร แต่ก็ยังต้องปรับเรื่องความแน่นอน และการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมเช่นกัน แต่นี่คือเกมแรกกับทีมชุดใหญ่ ก็เข้าใจได้ เป็นใครก็ตื่นเต้น
มากันที่ตัวสำรองที่ลงมาครึ่งหลัง คนแรก ชัยวัฒน์ บุราณ ลงมาแทน ศศลักษณ์ ไหประโคน ในตำแหน่งแบ็กซ้าย นี่เป็นการกลับมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในรอบ 7 ปี ของ ชัยวัฒน์ ซึ่งก็ทำได้ดีในส่วนของเกมรับ แต่เกมรุกยังต้องปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องการเปิดบอล
วีรเทพ ป้อมพันธุ์ ลงมาแทน วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ก็ถือว่าช่วยเกมตรงกลางได้เยอะ โดยเฉพาะเกมรับ แต่เกมนี้ก็ไม่ค่อยได้ทำเกมรุกขึ้นไปเท่าไหร่ เพราะต้องช่วยเกมรับซะเยอะ
อัครพงษ์ พุ่มเวิเศษ ที่ลงมาแทน วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าลงมาแล้วอาจจะมีส่วนร่วมกับทีมน้อยไปหน่อย แต่ก็อย่างที่บอกเกมแรกกับทีมชาติ มันก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ลงมาแทน กรวิชญ์ ทะสา แล้วไปยืนทางกราบขวา ก็ทำได้ดี มีจังหวะครองบอลลากเลื้อย แต่น่าเสียดายมีจังหวะหลุดไปเดี่ยวๆ แต่ยิงหลุดกรอบไปซะอย่างนั้น ไม่งั่นจะเพอร์เฟคมาก
ตัวสำรองอีก 2 คนอย่าง สุพรรณ ทองสงค์ ก็ลงมาแทน เอเลียส ที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ อนันต์ ยอดสังวาลย์ ลงมาแทน พาตริก กุสตาฟส์สัน ช่วงท้ายเกม ก็ยังไม่ได้ทำอะไรมาก บวกกับสภาพสนามที่มีฝนตกลงมามันก็เล่นยาก และลากเลื้อยไม่ออก
แต่อย่างไรก็ดีแม้ทีมชาติไทย จะไม่ถึงกับเล่นได้ดีนัก แต่การเก็บชัยชนะเหนือเวียดนามได้ในบ้านของพวกเขาก็เป็นอะไรที่น่าชื่นชม แล้วอย่าลืมว่าทีมชาติไทยชุดนี้ ก็เป็นชุดสายเลือดใหม่ และดาวรุ่งหลายคน ขณะที่เวียดนามเองเป็นชุดใหญ่แบบฟูลทีม แต่เราสามารถเอาชนะได้ ก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว
เกมอุ่นเครื่องนัดนี้น่าจะทำให้ มาซาทาดะ อิชิอิ ได้เห็นอะไรพอสมควร กับการเตรียมทีมสำหรับรายการสำคัญอย่างอาเซียน คัพ ปลายปีนี้ ซึ่งเราน่าจะต้องใช้ผู้เล่นชุดผสมระหว่างตัวเก่าที่ไม่ใช่ตัวเก๋า บวกกับนักเตะดาวรุ่งหลายคน
ซึ่งหลังจากนี้จะมีอีกรายการที่จะให้โค้ช อิชิอิ ได้ลองทีม นั่นก็คือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ที่จังหวัดสงขลา วันที่ 11-14 ตุลาคมนี้ ซึ่งก็น่าจะฟูลทีมมากกว่าเดิม และเราน่าจะได้เห็นอะไรมากกว่านี้
เอาเป็นว่าเรามารอดูและเชียร์ทีมทีมชาติไทย กันอีกครั้ง ในเดือนตุลาคมนี้ กับศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราขทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 คิงส์ คัพ ฉบับล่องใต้ ที่สงขลา นะครับพี่น้องเอ่ย!!!!