logo-heading

นอร์ธ ลอนดอน สีแดง ! ปืนใหญ่ บุกไปอัด ไก่เดือยทอง คาถิ่น 1-0

[ ขาด ไรซ์-โอเดการ์ด เห็นผลชัดเจน ]

ก่อนเริ่มเกมต้องบอกว่าสภาพที่ของทั้งคู่ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทางด้าน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ภายใต้การคุมทัพของ บอสอังเก้ จัดผู้เล่นตัวรุกมาแบบเต็มสูบ หวังที่จะแก้แค้นคู่อริให้จงได้ หลังพ่ายคาบ้านมา 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

ในทางกลับกันทางทางฝั่งผู้มาเยือนอย่าง อาร์เซน่อล ที่สภาพทีมไม่ต่างอะไรกับคนพิการ ขาดผู้เล่นคนสำคัญไปหลายรายด้วยกันทั้ง เดแคลน ไรซ์, มาร์ติน โอเดการ์ด รวมไปถึงผู้เล่นใหม่ป้ายแดงอย่าง คาลาฟิออรี่ และ มิเกล เมริโน่ ก็เจ็บกันไปทั้งคู่

ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากส่งสองผู้เฒ่าที่อายุแตะเลขสามอย่าง โธมัส ปาร์เตย์ และ จอร์จินโญ่ ลงสนามเป็นคู่มิดฟิลด์ตัวกลาง

เป็นเหตุให้ตลอดทั้งเกม 90 นาที แดนกลางของ อาร์เซน่อล ไม่สามารถต่อกรกับฝั่ง สเปอร์ส ได้เลย ได้แต่เล่นเกมรับ และรอสวนกลับ เปอร์เซ็นต์การครองบอลแตกต่างกันสูงถึง 70 ต่อ 30 เลยทีเดียว แต่ยังดีที่ทั้งคู่สามารถประคองตัวเอาไว้ได้ และไม่ก่อความผิดพลาดทำให้ทีมเสียประตู

ซึ่งจุดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการขาดหายไปของสองมิดฟิลด์ตัวสำคัญอย่าง เดแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด นั้นส่งผลกระทบมากแค่ไหนต่อเกมแดนกลางของ อาร์เซน่อล
 

[ เกมรุก สเปอร์ส ไร้ไอเดีย ]

ส่วนทางฝั่งทีมเจ้าบ้านอย่าง ท็อนแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แม้ว่าเกมนัดนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายที่ครองเกมเหนือกว่า และบุกเข้าใส่ อาร์เซน่อล อยู่แทบจะฝ่ายเดียวตลอดทั้งเกม มีโอกาสง้างประตูมากถึง 15 ครั้ง แต่โอกาสเหนาะๆ ที่ควรจะใส่สกอร์ได้แทบไม่มีให้เห็น

การจับ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่ปกติจะยืนประจำการในตำแหน่งปีกขวา แต่เกมนัดนี้อยู่ๆ อังเก้ ได้จับมายืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง เพื่อที่จะหวังมากด อาร์เซน่อล ให้จมดิน แต่ดูเหมือว่าจะไม่ค่อยสักเวิร์คเท่าไหร่

เพราะจุดเด่นของ คูลูเซฟสกี้ คือการเลี้ยงบอลกระชากคู่แข่ง ไม่ได้มีจุดเด่นเรื่องการจ่ายบอล ซึ่งการจับเขามาเล่นตำแหน่งกองกลางคู่กับ เจมส์ แมดดิสัน มันดูจะเสียของไปซะหน่อย

อีกทั้งจังหวะการเข้าทำของ สเปอร์ส ในเกมวันนี้ต้องบอกว่าไร้ไอเดียโคตรๆ ไม่สามารถสร้างความลำบากใจให้กับแผงกองหลังของ อาร์เซน่อล เลยแม้แต่น้อย เพราะนอกจากการโยนบอลจากทางริมเส้นเข้ากรอบเขตโทษแล้ว เกมรุกของ สเปอร์ส มันดูไม่มีอะไรเลยจริงๆ

[ เกมรับช่วยให้ทีมชนะ ]

แต่ก็ต้องชมเกมรับของ อาร์เซน่อล ด้วยเหมือนกันที่วันนี้พวกเขามาเล่นได้แบบแข็งแกร่งดีเหลือเกิน ไม่ปล่อยให้คู่แข่งเล่นได้ตามใจชอบ

คู่เซ็นเตอร์แบ็คอย่าง กาเบรียล มากัลเญส และ วิลเลี่ยม ซาลิบา ก็ทำหน้าที่ในส่วนเกมรับได้แบบไม่มีขัดตกบกพร่อง กำจัดความอันตรายของศูนย์หน้าค่าตัว 65 ล้านปอนด์อย่าง โดมินิค โซลันกี้ จนแผลงฤทธิ์ไม่ออก

ส่วนนายด่านอย่าง ราบิด ราย่า ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย จังหวะเซฟ หรือจังหวะเซ็ตเกมจากแดนหลังก็ทำได้อย่างไม่มีที่ติ

ต้องบอกว่าชัยชนะของ อาร์เซน่อล ในวันนี้ มาจากวินัยในเกมรับอันยอดเยี่ยมของพวกเขาก็คงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใด
 

[ ลูกเซตพรีสยังเป็นทีเด็ดเสมอ ]

แม้ในวันที่เกมรุกดูไม่เป็นใจ ลูกเซ็ตพรีสยังคงเป็นทีเด็ดของ อาร์เซน่อล เสมอ เพราะเกมนัดนี้ประตูชัยของ เดอะกันเนอร์ส ก็มาจากลูกเตะมุม จากลูกโขกเต็มกระบาลของ กาเบรียล มากัลเญส ซึ่งหากนับตั้งแต่ปี 2020 เจ้าของสมญานาม รัศมีแข คือประการหลังที่ทำประตูได้มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ที่ 15 ประตู

เท่านั้นไม่พอนับตั้งแต่ที่ อาร์เซน่อล ได้จ้าง นิโคลัส โยเวอร์ มาเป็นโค้ชลูกเซตพรีสเมื่อปี 2021 พวกเขาได้ประตูจากลูกตั้งเตะไปทั้งหมด 42 ประตู มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป

และถ้าหากนับตั้งแต่ที่ออกสตาร์ทเมื่อฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล สามารถพังประตูคู่แข่งจากลูกตั้งเตะได้มากถึง 23 ประตู มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก

จัดได้ว่าลูกตั้งเตะของ ทัพปืนใหญ่ ยังคงเป็นไพ่เด็ดที่เล่นงานคู่แข่งได้เสมอ แม้ในวันที่รูปเกมดูจะไม่เป็นใจก็ตาม
 

-บีเบลล์ กูนเนอร์-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline