"ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีสำหรับผมเลย เราไม่ชนะมา 5 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ แต่กับทีมชาติมันแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ผมรู้สึกสบายใจมาก ผมอยู่ในประเทศของผม ผมพูดภาษาของผมได้ และมีอาการการกินที่ดีกว่า"
นี่คือคำพูดจากปากของ บรูโน่ แฟร์นันดส์ กัปตันทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ ณ ตอนนี้เขามีความรู้สึกว่า การลงสนามกับ ทัพปีศาจแดง ไม่มีความสุขเหมือนเล่นให้กับ ทีมชาติโปรตุเกส
ย้อนกลับไปนับตั้งแต่ที่ บรูโน่ แฟร์นันดส์ ขายวิญญาณให้กับ 'ปีศาจแดง' เมื่อฤดูกาล 2019/20 เขากลายเป็นกำลังพลสำคัญของทีมเสมอมา เสกประตู และแอสซิสต์ แตะหลักสิบตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเดอะแบกพาทีมคว้าแชมป์มาแล้วถึง 2 รายการทั้ง ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ
แต่ทว่าในซีซั่นนี้ บรูโน่ แฟร์นันดส์ กลับทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง หลังทำประตูไม่ได้เลยตลอด 15 นัดหลังสุดที่ลงสนาม เป็นเหตุให้เจ้าตัวถูกแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่น รวมถึงยังมีแฟนบอลบางกลุ่มถึงขั้นเรียกร้องให้ เอริค เทน ฮาก ปลด บรูโน่ ออกจากตำแหน่งกัปตันทีมเลยทีเดียว
ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม จะไปเจาะเหตุผลกันครับว่าทำไม กัปตันบรูโน่ ถึงฟอร์มดรอปลงไปอย่างน่าใจหายกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้
[ โปรแกรมการแข่งขัน ]
ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด บรูโน่ แฟร์นันดส์ พลาดลงสนามกับทีมไปแค่ 13 นัดเท่านั้น ซึ่งเกิดจากอาการบาดเจ็บไปเพียงแค่ครั้งเดียว มันจึงแสดงให้เห็นว่าสภาพร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากแค่ไหน และด้วยสไตล์การเล่นที่มุทะลุดุดัน วิ่งพล่านไปทั่วสนาม
แต่ด้วยร่างกายที่กรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าร่างกายจะฟิตเปรี๊ยะแค่ไหนก็ต้องมีกรอบกันบ้าง บวกกับโปรแกรมการแข่งขันในฤดูกาลนี้ที่เพิ่มสูงมากขึ้น อย่างเช่น ในฟุตบอลยุโรป จากเดิมรอบแบ่งกลุ่มที่จะลงฟาดแข้งกัน 6 นัด แต่ตอนนี้ได้เพิ่มเป็น 8 นัด ไหนจะเพิ่งกลับมาจากศึก ยูโร อีก ทำเวลาพักของนักเตะมีน้อยลงขึ้นไปทุกที
ซึ่งนักเตะสไตล์อย่าง บรูโน่ จึงได้รับผลกระทบเข้าไปเต็มๆ สังเกตุได้ว่าในช่วงหลัง พอเข้าสู่ช่วงท้ายเกม ดาวเตะชาวโปรตุกีสรายนี้ จะแสดงอาการอ่อนล้าออกมาให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน
และนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ศักยภาพของ บรูโน่ ดูดรอปลงไป ทั้งการตัดสินใจ และการเคลื่อนที่ในสนาม รวมถึงการจ่ายบอล และการยิงประตู มันยังดูไม่เฉียบคมเหมือนเดิม
[ ดรอปทั้งทีม ]
ต้องยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ ประสบปัญหาเรื่องแผนการเล่นของ เอริค เทน ฮาก อย่างเห็นได้ชัด เพราะนักเตะเกือบทุกคนในทีมเหมือนต่างคนต่างเล่น จนทำให้แฟนบอลเกิดตั้งคำถามขึ้นมาว่า ‘เวลาทั้งสัปดาห์พวกเอ็งซ้อมกันยังไงวะถึงเล่นกันได้มั่วซั่วแบบนี้’
นอกจากแท็คติกของ เอริค เทน ฮาก จะชวนปวดขมับแล้ว ฟอร์มการเล่นของนักเตะแกนหลักอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวบิ้วอัพในแผนของ เทน ฮาก ยังทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน
เป็นเหตุให้ บรูโน่ แฟร์นันดส์ ต้องดรอปต่ำลงมาทำหน้าที่ในส่วนนี้แทน ทำให้จุดเด่นในการทำประตู หรือแอสซิสต์ของเจ้าตัว ไม่ถูกแสดงแสนยานุภาพออกมาแบบที่ควรจะเป็น
อีกทั้งนักเตะคนอื่นๆในแผงเกมรุกไม่ว่าจะเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด, ราสมุส ฮอยลุนด์ หรือ โจชัว เซิร์กซี ดันไม่เปรี้ยงปร้างตามไปด้วย ทำให้ บรูโน่ ไม่สามารถใช้ทักษะการสร้างสรรค์เกมของเขาได้เต็มที่
[ ความกดดัน ]
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บรูโน่ แฟร์นันดส์ ออกมายอมรับว่าเขาไม่พอใจกับฟอร์มการเล่นตัวตัวเองในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการยิงประตู เพราะตลอด 15 นัดหลังสุดที่ลงสนาม เขาทำไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว โดยประตูล่าสุดต้องย้อนกลับไปไกลถึงเดือนเมษายน
ด้วยความกดดันในบทบาทกัปตันทีม ทำให้เขาต้องแบกภาระอันหนักอึ้งไว้บนบ่าเพียงลำพัง ไหนจะความคาดหวังจากทั้งแฟนบอล และสโมสร การที่เขาไม่สามารถทำประตู หรือแอสซิสต์ได้ แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ และความกดดัน
ซึ่ง บรูโน่ แสดงออกมันมาอย่างชัดเจนทั้งทางด้านภาษากาย และอารมณ์ในสนาม อย่างเกมที่พบกับ สเปอร์ ต่อด้วย ปอร์โต้ เขาถูกใบแดงไล่ออกจากสนามสองเกมติดต่อกัน
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ เอริค เทน ฮาก ผู้เป็นกุนซือของ ทัพปีศาจแดง ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน เพราะ บรูโน่ เปรียบเสมือนผู้บัญชาการในหน่วยล่าสังหารของทีม การที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้แค่ 5 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ก็มีผลพวงมาจากฟอร์มการเล่นของดาวเตะรายนี้ด้วยเช่นกัน
หาก ทัพผีแดง ยังหวังที่จะไปเป็นเล่นฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า การเรียกฟอร์มเก่งของ บรูโน่ แฟร์นันดส์ คือสิ่งที่คนเป็นโค้ชควรจะทำเป็นอันดับแรกๆ . . .