[ ฮันซี่ ฟลิค ผู้ยลโฉม บาร์ซ่า ]
หลังจากที่ ฮันซี่ ฟลิค เข้ามารับงานคุม บาร์เซโลน่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาได้ยลโฉม เจ้าบุญทุ่ม เข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง เพราะเอาเท่าที่เราจำความได้ บาร์เซโลน่า ทุกยุคทุกสมัยจะเล่นในระบบ 4-3-3 เสมอ สไตล์ต่อบอลทำชิ่ง เน้นครองบอลเป็นหลัก ตามสไลต์ ติกิ-ตาก้า ที่เราคุ้นเคยกันดี เปรียบเสมือนดีเอ็นเอที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ทว่าการเข้ามาของ ฟลิค เขาได้เปลี่ยนระบบจากการเล่น 4-3-3 มาเป็นระบบ 4-2-3-1 ไม่ใช่แค่นั้น รายละเอียดเชิงแท็คติกของทีมก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ทั้งจังหวะการเล่นน้อยลง ครองบอลไม่ต้องเยอะเหมือนเมื่อก่อน แต่ทดแทนมาด้วยประสิทธิภาพ
ซึ่งในเกมนัดนี้เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่า บาร์เซโลน่า ภายใต้การนำทัพของ ฮันซี่ ฟลิค นั้นมาถูกทางแล้ว เพราะตลอดทั้งเกมมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลเฉลี่ยเพียงแค่ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
แต่คุณภาพในการบุกโจมตีแต่ละครั้ง สร้างความหนักใจให้กับแผงแนวรับของ ทัพเสือใต้ ได้แทบทุกจังหวะ แถมยังใช้โอกาสไม่เปลืองอีกต่างหาก แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมเด็ดขาด
[ แนวรับเต็มไปด้วยความผิดพลาด ]
ส่วนทางด้านทีมเยือนอย่าง บาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่โดนไวตั้งแต่นาทีแรกของเกม พวกเขาครองเกมได้เหนือกว่า และมาได้ประตูตีเสมอเร็วจาก แฮร์รี่ เคน ในนาที 18
แต่หลังจากนั้นเหมือนลูกทีมของ กอมปานี กลับช็อตลงไปดื้อๆ และที่น่าตำหนิที่สุดในเกมวันนี้คงหนีไม่พ้นเกมรับ ที่ก่อความผิดพลาดง่ายเหลือเกิน
โดยเฉพาะเซ็นเตอร์แบ็คชาวเกาหลีใต้อย่าง คิม มิน แจ ที่มีข่าวเลิกลากับแฟนสาวก่อนเกมจะเตะไม่นาน ไม่รู้ว่ามีผลกระทบในเกมวันนี้หรือป่าว เพราะวันนี้พี่แกมีส่วนรับผิดชอบเต็มๆถึง 2 ประตู
และอีกหนึ่งรายที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังคือ โจชัว คิมมิช เพราะนอกจากจะเอาเกมรุกของเจ้าบ้านไม่อยู่แล้ว ยังเสียบอลมากถึง 13 ครั้งมากที่สุดในสนาม ได้เรตติ้งไปเพียง 5.9 เท่านั้น
[ ราฟินญ่า ร่างทอง ]
แต่ในทางกลับกันก็ต้องชมแนวรุกของ บาร์เซโลน่า ด้วย ที่วันนี้ทำผลงานได้โดดเด่นดีเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราฟินญ่า ที่กดไป 3 ดอกเน้นๆ ไม่น้อยหน้าเพื่อนร่วมชาติอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ ที่เพิ่งซัดแฮตทริกไปในเกมเมื่อวาน
โดย 3 ประตูในเกมวันนี้ทำให้ ราฟินญ่า คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แถมยังขึ้นมาเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดในทีมเคียงข้างกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ 17 ลูก แบ่งออกเป็น 9 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่กลับมาเกิดใหม่อย่างแท้จริงภายใต้การนำทัพของ ฮันซี่ ฟลิค
[ ลามีน ยามาล ยิ่งดูยิ่งเก่ง ]
ส่วนนักเตะอีกหนึ่งรายที่ขอชื่นชมจากหัวใจจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเด็กยะลาวัย 17 ปี อย่าง ลามีน ยามาล ที่โชว์ฟอร์มเหนือดุจเทวดาดีเหลือเกิน เล่นได้นิ่งเกินวัยเหมือนกับ ไฮลักซ์ รีโว่ พรีรันเนอร์ ที่มีช่วงล่าง นิ่ง นุ่มสบาย ในทุกสถานการณ์
ทั้งฉีกกระชากแบ็คซ้ายตัวท็อปอย่าง อัลฟองโซ่ เดวีส์ จนแหลกไม่เหลือชิ้นดี เล่นงานกองหลังของผู้มาเยือนจนหัวปั่นไปหมด แถมการจ่ายบอลแต่ละครั้งยังหวังผลได้ตลอด แม้ว่าจะไม่มีชื่อเป็นผู้นำประตูบนสกอร์บอดร์ด แต่ก็ทำได้ 1 แอสซิสต์
ต้องยอมรับเลยว่า ลามีน ยามาล คือแข้งดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในเมืองมนุษย์ ณ วินาทีอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อยอดผลจากจาก ยูโร 2024 ได้ยอดเยี่ยมจริงๆ
ส่วนเกมนัดหน้า บาร์เซโลน่า จะมีคิวยกโยธาพลากรบุกไปเยือน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รังเหย้าของ เรอัล มาดริด ทำศึก เอล กลาซิโก้ ในคืนวันอาทิตย์นี้ และด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของทั้งสองทีม บอกได้เลยว่ามันส์แน่นอน