[ ซาก้า คืนสนาม ]
ย้อนกลับไปก่อนที่เกมคู่นี้จะฟาดแข้งเหล่าสาวก เดอะ กูนเนอร์ส ต่างลุ้นอย่างจงหนักให้ บูกาโย่ ซาก้า เดอะแบกในหน่วยล่าสังหารของทีมกลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังซีซั่นนี้พี่แกทำผลงานได้ไฉไลยิ่งนักทำได้ 2 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์
ท้ายที่สุด ซาก้า ได้ผ่านความฟิต และกลับมาลงสนามอีกครั้งในรอบ 2 เกม ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง หลังซัดด้วยซ้ายบอลแซกหน้า เควิน เคเลเฮอร์ อาร์เซน่อล ขึ้นนำไวตั้งแต่ยังไม่พ้น 10 นาทีแรก
อีกทั้งประตูดังกล่าวทำให้ ซาก้า ขึ้นแท่นเป็นนักเตะ อาร์เซน่อล ที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์สโมสรที่ยิงได้ 50 ประตู ใน พรีเมียร์ลีก ด้วยวัยเพียง 23 ปี 52 วัน
[ ครึ่งแรก ปืนใหญ่ ฟอร์มแจ่ม ]
หลังจากที่ ทัพปืนใหญ่ ได้ประตูขึ้นนำไม่ถึง 10 นาที ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูตีเสมอจากลูกเตะมุมจากลูกโขกจ่อๆของ เฟอร์จิล ฟานไคด์ ต้องบอกว่า ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ดันมาตายน้ำตื่นจากลูกทีเด็ดของตัวเอง
หลังจากนั้นเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ดาหน้าขึงเกมรุกอยู่ฝ่ายเดียว แดนกลางอย่าง เดแคลน ไรซ์ ที่ได้กลับมาเล่นตำแหน่งหมายเลข 6 อีกครั้ง โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน เก็บบอลจังหวะสองได้ตลอด แถมยังเป็นผู้ทำแอสซิตส์ให้ มิเกล เมริโน่ โหม่งเข้าไปช่วยให้ ปืนใหญ่ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1
[ จุดเปลี่ยนของเกม ]
ครึ่งหลัง มิเกล อาร์เตต้า ดูท่าจะวางแผนพลาดไปหน่อย เหมือนมั่นใจในเกมรับตัวเองมากเกินไป ดันเลือกไปเล่นเกมรับเต็มตัว ทำให้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ครองเกมขึ้นมาบุกมากกว่าเดิม ปีกทั้งสองข้างที่โชว์ฟอร์มไม่ออกในครึ่งแรกอย่าง หลุยส์ ดิาอาซ และ โม ซาลาห์ กลับมามีบทบาทในเกมรุกมากขึ้น
และจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมก็มาถึงเมื่อ กาเบรียล มากัลเญซ แผงหลังตัวสำคัญของทีมได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง มหาเทพ ยาคุป คิวิออร์ ลงมาแทน
ไม่เพียงเท่านั้น เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ที่ได้กลับมาลงสนามอีกครั้งในรอบ 3 เกมดันมาเจ็บเพิ่มอีกตัว ทำให้ อาร์เซน่อล ต้องเลือกส่งดาวรุ่งวัย 18 ปีอย่าง ไมลส์ ลูวิส-สเกลลี่ ลงสนามแบบไม่มีทางเลือก
ทำให้แผงแบ็คโฟร์ของ ทัพปืนใหญ่ ไม่เหลือผู้เล่นตัวจริงเลยแม้แต่รายเดียว เชปเกมรับจากที่ดีๆกลายเป็นสะเปะสปะยืนกันผิดตำแหน่ง
จนมาเสียประตูจากจังหวะการยืนตำแหน่งผิดพลาดของ คิวิออร์ ทำให้ ดาร์วิน นูนเญซ มีพื้นที่ว่างก่อนที่จะไหลเบาๆมาให้ โม ซาลาห์ ยิงด้วยซ้ายจ่อๆเข้าไป กลายเป็นประตูที่ 8 ของ บังโม รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้
แถมพี่แกยังยิง อาร์เซน่อล ไปแล้ว 11 ประตูจากการพบกับทั้งหมด 15 เกม เป็นรองเพียงแค่ เวย์น รูนี่ย์ และ แฮร์รี่ เคน เท่านั้น
สรุปสุดท้ายก็เสมอกันไป 2-2 ชนิดที่เรียกได้ว่ากินกันไม่ลง และด้วยผลเสมอ ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้ แมนฯ ซิตี้
ทางด้าน อาร์เซน่อล ถึงแม้ผลเสมอจะไม่เพียงพอในการไล่จี้ เรือใบ และ หงส์แดง แต่ด้วยสภาพทีมที่พิการเช่นนี้การเก็บ 1 แต้มกับโคตรทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ถือว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย