logo-heading

"ช้างศึก" ทีมชาติไทย ส่งท้ายฟีฟ่าเดย์แมตช์สุดท้ายของปี 2024 ด้วยการเปิดบ้านเสมอกับ สปป.ลาว 1-1 ในแง่ของผลการแข่งขันแน่นอนว่าน่าผิดหวัง แต่ในแง่ของการเตรียมทีม และการทดลองผู้เล่นที่เตรียมไว้สำหรับศึกสำคัญอย่าง "อาเซียน คัพ 2024" ปลายปีนี้ ต้องบอกว่าเราได้บทเรียนมากมายเลยกับฟีฟ่าเดย์รอบนี้

ทีมชาติไทย เสมอกับ เลบานอน 0-0 ต่อด้วยเสมอกับ ลาว 1-1 นี่คือสองเกมสุดท้ายของปฎิทินฟีฟ่าเดย์ในปีนี้ของทัพช้างศึก แต่ยังไม่ใช่รายการสุดท้าย เพราะปลายปีนี้ยังมีศึกใหญ่ของอาเซียนรออยู่ นั่นก็คือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2024 ที่เราเป็นแชมป์มาสองสมัยติดล่าสุด

หลายคนอาจจะบอกว่าเราต้องมองข้ามหรือก้าวข้ามอาเซียนได้แล้ว ใช่ครับ!! เราต้องก้าวข้ามอาเซียน แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่เน้นหรือไม่ให้ความสำคัญของฟุตบอลรายการนี้เลย เพราะนี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรี และการที่จะบอกว่าเราก้ามข้ามอาเซียน นั่นหมายความว่าทีมชาติไทย ชุดใหญ่ของเรา นั้นจะต้องเหนือกว่าทุกชาติแบบชัดเจนเสียก่อน

แต่ถามว่าตอนนี้ทีมชุดใหญ่เราไน้เทียมทานหรือยัง และมีใครมั่นใจไหวว่าถ้าเราเอาชุดใหญ่แบบฟูลทีมไปเตะแล้วจะป้องกันแชมป์ได้อีกสมัยแบบนอนมา

แต่แน่นอนว่าในอาเซียน คัพ หนนี้เราคงไม่สามารถที่จะเอาผู้เล่นชุดใหญ่ไฟกระพริบแบบฟูลทีมร้อยเปอร์เซ็นต์ไปได้ นั่นก็เพราะว่าบรรดาทีมใหญ่ไม่ว่าจะเป็น บุรีรัมย์, แบงค็อก, ท่าเรือ, เมืองทอง หรือแม้กระทั่ง บีจี ปทุมฯ ซึ่งทีมเหล่านี้คือต้นสังกัดของนักเตะตัวหลักของทีมชาติไทย แต่พวกเขามีเกมตกค้างไทยลีก และฟุตบอลถ้วยเอเชีย ลงเตะในเดือนธันวาคม ซึ่งจะชนกับอาเซียน คัพ

แต่ก็ใช่ว่าทุกทีมจะไม่ปล่อยตัวนักเตะมาให้ทีมชาติไทยเลย เพราะเท่าที่ทราบได้มีการเจรจาพูดคุยกันระหว่างสมาคมฯ อิชิอิ รวมทั้งสโมสรต่างๆ แล้วว่าพร้อมที่จะปล่อยตัวนักเตะที่พร้อมปล่อยมาให้ทีมชาติไทย แต่ก็งคงไม่ใช่แกนหลัก หรือคีย์แมนคนสำคัญของทีม

อย่างที่เราได้เห็นจากรายชื่อ 23 แข้งช้างศึกในฟีฟ่าเดย์หนนี้ ก็จะมีบรรดานักเตะจากสโมสรดังกล่าวมาร่วมทีมอยู่ด้วยเช่นกัน บ้างก็เป็นตัวหลัก บ้างก็สำรอง บ้างก็ดาวรุ่ง

ในเกมอุ่นเครื่องสองเกมที่ผ่านมา เห็นได้ว่า อิชิอิ พยายามจะทดลองผู้เล่นให้ได้มากที่สุด นักเตะเกือบทุกคนได้ลงสนาม จะมีก็แต่ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ นายประตูมือสาม และ นิโคลัส มิคเกลสัน ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์เลยไม่ได้ลงสนาม ที่เหลือได้ลงเล่นครบทุกคน มากน้อยว่ากันไป

แม้ผลการแข่งขันจะไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ เกมเสมอเลบานอน 0-0 อาจจะพอรับได้ แต่เกมล่าสุดที่เราทำได้แค่เสมอกับลาว 1-1 ดูจะทำให้แฟนบอลส่วนใหญ่ไม่โอเคกับผลการแข่งขัน ซึ่งจริงๆ โค้ชอิชิอิ ก็บอกก่อนแล้วว่าผลการแข่งขันทั้งสองนัดไม่ได้มีความสำคัญมากเท่ากับการทดสอบฝีเท้าของผู้เล่นเพื่ออาเซียน คัพ

แล้วอีกอย่างก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทีมชาติไทยชุดนี้ ที่ไม่ใช่ชุดใหญ่ และมีนักเตะหน้าใหม่เข้ามาถึง 6 คน ส่วนพวกหน้าเก่าส่วนใหญ่ก็เป็นสำรองทีมชาติเกือบทั้งหมด มีเพียง เอเลียส ดอเลาะ, นิโคลัส มอคเกลสัน และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เท่านั้นที่ถือเป็นตัวหลักจากชุดใหญ่ตอนนี้

ซึ่งเวลาฝึกซ้อมเราก็มีไม่เยอะ นักเตะส่วนใหญ่ก็มาเล่นด้วยกันครั้งแรก กับผลการแข่งขันที่ออกมา ถ้ามองตรงจุดนี้ก็ถือว่ามันยังพอมีเหตุผลที่รับได้ แต่ก็นั่นแหละ ส่วนตัวผมเองก็คิดว่าอย่างน้อยเราก็น่าจะเอาชนะลาวได้ในเกมนี้ แต่ก็ต้องชื่นชมลาวด้วยว่าพวกเขามาดี และตั้งใจสู้กับไทยเต็มที่และดูจะจริงจังกว่า และเราก็เล่นต่ำกว่ามาตรฐานจริงๆ อันนี้ต้องยอมรับ

จากสองนัดในฟีฟ่าเดย์รอบนี้ก็น่าจะทำให้โค้ชอิชิอิ รวมทั้งเราเองในฐานะแฟนบอลก็น่าจะพอมองออกแล้วว่าคนไหนพอมีแวว เล่นได้ไม่ได้ และพร้อมกับอาเซียน คัพ หนนี้

ซึ่งส่วนตัวคิดว่านักเตะชุดนี้คงยังไม่ใช่ 23 คนที่จะเอาไปลุยอาเซียน คัพ ซึ่ง อิชิอิ เองน่าจะพอมีนักเตะในใจอยู่แล้วเชื่อว่าอย่างน้อยก็ 10-15 คน ส่วนที่เหลือในบางตำแหน่งก็พยายามเรียกนักเตะมาทดทอง ซึ่งก็เห็นแล้วว่าใครเล่นได้ไม่ได้

หลังจากนี้ทั้ง อิชิอิ เอง รวมทั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็คงจะต้องกลับไปทบทวนเรื่องการเลือกตัวผู้เล่นชุดอาเซียน คัพ กันอีกครั้ง ซึ่งถ้าคิดว่าจะเอาผู้เล่นชุดบี หรือชุดสำรองไปแบบนี้ก็คงจะไม่ไหว

แต่จะเอาชุดใหญ่เต็มสูบไปเล่นก็ไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่บอกไป ดังนั้นอาจจะต้องคิดใหม่ว่า คงจะต้องเอาตัวประสบการณ์และนักเตะที่เคยผ่านทีมชาติมาแล้วไปซะเป็นส่วนใหญ่ แม้จะไม่ใช่ตัวหลักทีมชาติก็อาจจะต้องมองไปที่ตัวสำรองก่อนหน้านี้

ส่วนหน้าใหม่เอาจริงจากชุดนี้มีสอบผ่านเพียงแค่ 1-2 คน (เฉพาะหน้าใหม่นะครับ) ส่วนตัวที่เคยเล่นอยู่แล้ว ผมมองว่ายังโอเคอยู่ แต่ก้มีบางคนที่ก็ยังไม่ได้จริงๆ แล้วอีกอย่างแนวรุกทั้งกองกลาง ตัวริมเส้น และหน้าเป้า คงจะต้องหามาเพิ่ม 

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นโจทย์ที่โค้ชอิชิอิ และทีมงานจะต้องกลับไปทำการบ้าน ก่อนการประกาศตัวในรอบหน้า ซึ่งบอกเลยว่าเราน่าจะได้เห็นอะไรที่เปลี่ยนไปจากชุดนี้พอสมควร และบางทีอาจมีเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้

ไว้เรามารอดูกันว่านักเตะชุดอาเซียน คัพ 2024 จะมีหน้าตาแบบไหน และทีมชาติไทยมีโอกาสจะป้องกันแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันหรือเปล่า!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline