ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาลใหม่ 2025/26 กำลังจะเปิดฉากฟาดแข้งกันในอีก 1 เดือนข้างหน้า ซึ่งซีซั่นใหม่นี้ เหมือนเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของฟุตบอลไทย หลายๆ อย่าง หลังจากที่ล่าสุดมีการเปลี่ยนมือผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน จาก โตโยต้า และ รีโว่ ที่อยู่มายาวนานกว่า 12 ปี มาเป็น บีวายดี รถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังจากประเทศจีน ที่ก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอลไทยเป็นปีแรก
การเข้ามาของบีวายดี ไม่ได้เข้ามาสนับสนุนเฉพาะลีกสูงสุดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสนับสนุนทั้ง 3 ลีก ตั้งแต่ T1-T3 รวมถึงทีมชาติไทย ด้วย ซึ่งในอดีตไม่เคยมีมาก่อนที่สปอนเซอร์เจ้านึงจะเข้ามาสนับสนุนทุกลีกแบบนี้ ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทั้ง ไทยลีก 1 ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 มีผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ แถมยังเป็นเจ้าเดียวกันด้วย
จากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ บีวายดี เหมือนเข้ามาชิมลางก่อนในฤดูกาลนี้ แต่ก็มีเป้าหมายที่จะเข้ามาสนับสนุนแบบระยะยาว เพียงแต่ตอนนี้ยังเป็นสัญญากันแบบปีต่อปี ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับผลประกอบการ รวมทั้งการตอบรับของแฟนบอลไทย ถ้าทุกอย่างไปได้สวยก็น่าจะได้อยู่กันยาวๆ
นอกจากไตเติ้ลสปอนเซอร์ของการแข่งขันแล้ว อีกเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงก็คือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่ฟดูกาลที่แล้วเป็นของ ทรูวิชั่นส์ ในฤดูกาลนี้เปลี่ยนมาเป็น AIS PLAY แบบยาวๆ 4+2 ปี หรือ 6 ปีเต็มๆ
เรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่เป็นการเริ่มยุคใหม่ แม้ว่าในอดีต AIS จะเคยถ่ายทอดสดมาแล้ว แต่ตอนนั้นเป็นการนำสัญญาณถ่ายทอดสดจากทางสมาคมฯ ไปออกอากาศเท่านั้น เรื่องโปรดักชั้นสมาคมฯ เป็นผู้ดำนินการ
แต่ในฤดูกาลใหม่นี้ AIS ดำเนินการเองทั้งหมด ทั้งเรื่องโปรดักชั่น ที่ติดต่อและจ้างทีมงาน OB เอง สรรหาและคักเลือกผู้บรรยายเอง เรียกได้ว่าในฤดูกาลใหม่นี้เราจะได้เห็นการถ่ายทอดสดแบบเต็มรูปแบบด้วยมาตรฐานของ AIS PLAY
และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือไม่ได้ถ่ายเฉพาะลีกสุงสุดเท่านั้น ในศึกไทยลีก 2 ก็ถ่ายครบทุกคู่ ไทยลีก 3 สนามไหนพร้อมถ่ายครบ ฟุตบอลลีกยู21 อีก ไหนจะฟุตบอลหญิง และฟุตบอลถ้วยทั้งสองรายการ เรียกได้ว่าเต็มอิ่มจุใจ
อีกเรื่องที่เป็นการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ก็คือ สมาคมคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จริงๆ แล้วมีการเปลี่ยนนายกสมาคมฯ มาได้ปีกว่าๆ แล้ว จาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มาเป็น "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ แต่ในปีที่ผ่านมาก็เหมือนกับว่า "มาดามแป้ง" ต้องเข้ามาแก้ปัญหา และสะสางเรื่องที่มันค้างคามาจากนายกสมาคมฯ คนก่อน ซึ่งหลายๆ อย่างก็ยังไม่สามารถเริ่มใหม่ได้ทันที
แต่พอเข้าสู่ฤดูกาลใหม่นี้ เราได้เห็นแล้วว่า "นายกแป้ง" ได้พยายามเดินหน้าพาฟุตบอลไทยเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อย่างเรื่องสปอนเซอร์เจ้าใหม่อย่างบีวายดี รวมทั้ง AIS PLAY ที่เข้ามาแบบระยะยาว และตัดปัญหาเรื่องมูลค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่มันตกลงไปก่อนหน้านี้ และไม่มีใครอยากจะเข้ามาถ่ายทอดสด แต่ตอนนี้มูลค่าของมันกลับมามีค่าอีกครั้งแล้ว และไม่ต้องไปลุ้นกันปีต่อปีเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้คือการเริ่มยุคใหม่ของฟุตบอลไทย อย่างแท้จริง และมีความเป็นไปได้ว่าฟุตบอลไทยจะกลับมาคึกคักและมีกระแสมากกว่า 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่มันดุจะซบเซาไปพอสมควร
การเข้าสู่ยุคใหม่นี้แน่นอนว่านำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลที่จะเข้ามาหมุนเวียนอยู่ในวงการฟุตบอลไทย บรรดาสโมสรก็ดูจะฟื้นตัวขึ้นมาเยอะ เนื่องจากได้เงินสนับสนุนจากสมาคมฯ เพิ่มขึ้น และเมื่อลิขสิทธิ์ รวมทั้งสปอนเซอร์หลักนิ่ง ผู้สนับสนุนรายย่อยของแต่ละสโมสรก็น่าจะเข้ามาสนับสนุนทีมกันมากขึ้น ทุกทีมก็จะมีกำลังใจ และพร้อมเดินหน้าต่อไปได้
รวมทั้งอุตสาหกรรมฟุตบอลไทยทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน แบรนด์สินค้ากีฬา พ่อค้าแม่ค้าที่สนาม เจ้าหน้าที่สนาม เจ้าหน้าที่สโมสร ก็มีงานทำ และมันก็จะกลับมาคึกคักเหมือนในอดีตอีกครั้ง หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
จากนี้ไปก็รอดูว่าสิ่งที่คิดไว้มันจะเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า ฟุตบอลไทย ฤดูกาลใหม่นี้ ที่ทุกๆ อย่างเปลี่ยนไป จะทำให้กระแสฟุตบอลไทย กลับมาได้ไหม
การก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ จะเป็นยุคที่เฟื้องฟู ความสนุกของฟุตบอลไทย จะกลับมาอย่างในอดีตได้หรือไม่ เรามารอดูกัน!!
ชิชาริเต่า