ใครๆ ก็บอกว่า "ทีมชาติไทย ยู23" ไม่น่ารอด!! ในเกมพบเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ศึกยู23 ชิงแชมป์อาเซียน 2025 รอบรองชนะเลิศ ที่จะฟาดแข้งกันในคืนวันศุกร์ที่ 25 ก.ค.นี้
สาเหตุที่ทำให้แฟนบอลส่วนใหญ่ในโซเชี่ยลมีความคิดแบบนั้นก็มาจากฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ของทัพช้างศึก ในเกมล่าสุดที่ทำได้แค่เสมอกับ เมียนมา 0-0 เมื่อคืนวันก่อน
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเกมนั้นเราเล่นได้ไม่ดีจริงๆ ซึ่งว่ากันตามมาตรฐาน หรือความคาดหวังที่คิดไว้คืออย่างน้อยๆ เราน่าจะยิงเมียนมาได้ และต้องชนะในเกมนี้ ให้สมกับที่ประกาศว่าจะไปคว้าแชมป์รายการนี้กลับมาเมืองไทยให้ได้
แต่โอเคเกมนั้นมันจบไปแล้ว และจะว่าไปมันก็ไม่ได้เสียหาย สุดท้ายเราก็เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม และยังอยู่ในเส้นทางที่จะลุ้นแชมป์ เพียงแต่ว่าด่านต่อไปของเราคือ อินโดนีเซีย เจ้าภาพ นี่คือเกมสำคัญที่จะพิสูจน์ฝีมือของทั้งโค้ช และนักเตะทีมชาติไทย ชุดนี้ว่ามีดีพอจะเข้าไปชิงแชมป์หรือไม่ และจะสามารถลบคำวิจารณ์จากเกมล่าสุดได้หรือเปล่า
พูดถึงคู่แข่ง "อินโดนีเซีย" ที่หลายคนบอกว่าจะเอาชนะไทยได้แน่นอน แต่ส่วนตัวผมคิดว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น และจริงๆ แล้วฟอร์มของทีมอิเหนา ในรอบแรก ก็ไม่ได้ดีไปกว่าทีมช้างศึกเลย
รอบแรกที่ผ่านมา อินโดนีเซีย อยู่ในกลุ่ม A ที่มี 4 ทีม ร่วมกับ มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ บรูไน ในขณะที่อีก 2 กลุ่ม มีแค่ 3 ทีม
- นัดแรก อินโดฯ ถล่ม บนูไน 8-0
- นัดสองเฉือนฟิลิปปินส์ 1-0
- และนัดสุดท้าย เสมอ มาเลเซีย 0-0
ถ้าเราตัดเกมแรกที่เจอกับ บรูไน ออกไปเพราะเป็นทีมบ๊วยของกลุ่ม ซึ่งทุกทีมในกลุ่ม A ก็ยิงถล่มบรูไนทุกทีม และถ้าเราตัดเกมกับบรูไน ออกไปเพื่อให้มี 3 ทีมเท่ากลุ่มอื่นๆ จะเห็นว่า อินโดนีเซีย ชนะได้แค่เกมเดียวเหมือนกับเรา แถมเกมที่ชนะก็แค่เฉือน ปินส์ แค่ 1-0 เอง และพอเจอทีมในระดับเดียวกันอย่าง มาเลเซีย ก็ทำอะไรไม่ได้เสมอกัน 0-0
ไม่ต่างจากทีมชาติไทย ที่เราชนะ ติมอร์ 4-0 และ เสมอเมียนมา 0-0
โอเค!! แม้ทั้งสองนัดเราจะเล่นไม่ค่อยดี แต่เกมแรกเราก็ยังได้ 4 ประตู มันก็น่าพอใจในระดับนึง กับมาตรฐานที่ควรจะเป็น แต่เกมสองก็อย่างที่บอกว่าน่าผิดหวังไปนิด
สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ผลงานของทีมชาติไทย กับ อินโดนีเซีย ในรอบแรกที่ผ่านมา ไม่ได้ต่างกันมาก และน่าจะเป็นเกมที่สูสีสัน
มีอย่างเดียวที่ไทย เป็นรองแน่ๆ ก็คือเรื่องเสียงเชียร์ของแฟนบอล เพราะต้องเล่นในบ้านของเขา เชื่อว่าแฟนบอลอิเหนามากันเต็มสนามแน่นอน อีกอย่างคือการลงเล่นที่ เกโลร่า บังการ์โน่ หรือเสนายันเดิม ซึ่งเป็นสนามที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นนรกของทีมเยือนก็ต้องรอดูว่านักเตะไทยจะแบกรับความกดดันในเกมเล่นที่สนามแห่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
ดังนั้นเกมระหว่าง ไทย กับ อินโดนีเซีย ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันไม่ใช่เกมที่อินโดฯ หรือ เราเองจะชนะง่ายๆ อยู่แล้ว มันเป็นเกมที่สูสีกัน
เราเองก็มีโอกาสที่จะชนะได้ด้วย ถ้าเราตั้งใจและมุ่งมั่นเต็มที่ แม้โค้ชวัง จะถูกวิจารณ์เยอะ แต่ผมเชื่อว่าประสบการณ์ของโค้ชวัง จะช่วยน้องๆ ได้เยอะในเกมวันพรุ่งนี้ และผมยังเชื่อมั่นว่าไทยเรามีดีพอจะบุกคว้าชัยกลับออกมาจากเสนายันในเกมนี้
ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหก ไทยบุกชนะ 2-1 ตบเจ้าภาพตกรอบ!! ถ้าผิดจากนี้ก็ตัวใครตัวมัน
สุดท้ายก็ฝากน้องๆ นักเตะช้างศึกทุกคน อย่าทำให้แฟนบอลไทยผิดหวัง และอย่าทำให้ผมหน้าแหกนะครับ!!
#ชิชาริเต่า