logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2025/26 เปิดฉากฟาดแข้งจบไปแล้ว 3 นัด ในเดือนสิงหาคม ซึ่งหลังจากนี้ก็ได้เวลาหยุดพักเบรกให้กับทีมชาติ ก่อนจะกลับมาลงสนามห้ำหั่นกันอีกครั้งในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้

ในส่วนของหัวตาราง "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่า 10 สมัย และยังคงเป็นเต็งหนึ่งในซีซั่นนี้ เมื่อเก็บได้ 9 แต้มเต็มนำเป็นจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ ขณะที่ทีมที่ตามมาติดๆ ก็มี เมืองทอง, ราชบุรี และ ทรู แบงค็อก ที่เก็บได้ทีมละ 7 คะแนนเท่ากัน ตามหลังจ่าฝูงอยู่ 2 แต้ม

ส่วนทีมอันดับ 5 น่าสนใจ นั่นคือทีมน้องใหม่อย่าง "นักรบอโยธยา" อยุธยา ยูไนเต็ด ที่เก็บได้ 4 คะแนน เท่ากับการท่าเรือ, บีจี และอีกหลายๆ ทีม แต่ประตูได้เสีย ทีมกรุงเก่าทำได้ดีกว่าจึงรั้งอยู่ที่ 5 ของตารางคะแนน

พูดถึงผลงานของทีม อยุธยา ก็ถือว่าออกสตาร์ทได้ดีเลยทีเดียวในฐานะของทีมน้องใหม่ ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 7 เสีย 6 เก็บได้ 4 คะแนน

ทีมนักรบกรุงเก่า เริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่สวยเท่าไหร่ ด้วยการบุกไปพ่าย การท่าเรือ แบบสู้ไม่ได้ 3-1 ซึ่งถือเป็นเกมรับน้องของจริง และเมื่อหลายคนเห็นฟอร์มของทีมอยุธยา เกมแรกแล้ว ก้รู้สึกน่าเป็นห่วง และขึ้นมาเป็นทีมเต็งเบอร์ต้นๆ ที่จะต้องลุ้นหนีตกชั้น

แต่เกมต่อมาในบ้าน พวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการออกนำ เมืองทอง 2-0 แต่น่าเสียดายที่โดนตามตีเสมอ และเก็บได้แค่ 1 แต้ม ในเกมเหย้านัดแรกบนลีกสูงสุด

ต่อมาที่เกมล่าสุดนัดที่สาม เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา อยุธยา มีคิวบุกไปเยือน อุทัยธานี ซึ่งก่อนเกมหลายฝ่ายก็มองว่าไม่น่ารอด เพราะเจ้าถิ่นทีมช้างป่า ก็ยังไม่ชนะใคร เกมนี้ในบ้านเจอน้องใหม่ต้องเอาแน่ๆ อีกทั้ง อยุธยา เกมแรกที่ออกไปเยือนก็ผลงานไม่ได้

แต่จบเกมปรากฏว่าทีมน้องใหม่ บุกไปอัด อุทัยธานี 4-1 ชนิดที่แต่ละลูกนี่สุดทีนจริงๆ ใครยังไม่ดู ไปหาไฮไลท์ดูนะครับ ยิงแต่ละดอก สวยๆ ทั้งนั้น

เมื่อไปดูที่ขุมกำลัง และการจัดทัพของอยุธยา จะเห้นได้ว่าพวกเขาเจอ 11 คนแรกที่ดีที่สุดแล้ว แถมแต่ละตำแหน่งก็ลงตัวสุด 

ทีมอยุธยา จากการทำงานของ "โค้ชกัส" จักรกริช สิริวัฒนาศาสตร์ มาในระบบ 4-3-3 ประตูใช้ วรวุฒิ เมฆมุสิก ซึ่งนี่อาจจะเป็นตำแหน่งที่ยังไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ถือว่าโอเคกับประสบการของ วรวุฒิ ที่มาเฝ้าเสาให้ทีมน้องใหม่ในฤดูกาลนี้ แต่ถ้าสมมติ อยุธยา มีนายด่านที่เบอรืใหญ่กว่านี้ก็น่าจะทำให้เกมรับเหนียวแน่นขึ้น โอเคตำแหน่งประตูไม่ว่ากัน

แนวรับมี เวลลิงตัน พีโอรี่ เป็นตัวหลักกับ ฮวาง ฮยอนซู อดีตทีมชาติเกาหลีใต้ แบ็กซ้าย วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร แบ็กขวา  ภูมิชนก แกมกล้า ดาวรุ่งพุ่งแรงซึ่งกำลังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม

แดนกลางมี อิรฟาน ดอเลาะ คุมเกม ขนาบข้างด้วย ณัฐพล วรสุทธิ์ กับ ยาเชียร์ อิสลามี่ ขณะที่ 3 ประสานแดนบนมี เวโรจน์ ป้อมบุปผา (ชนานันท์) ที่เปลี่ยนชื่อมาแล้วเหมือนเกิดใหม่ ยิงไปแล้ว 3 ประตู แถมฟอร์มยังเปรี้ยงปร้างด้วย อีกสองหน่วยเป็นหัวหอกตีนระเบิดอย่าง ไคเก้ เลเมส และ ดิเอโก้ คาริโอกา ที่เท้าหนักทั้งคู่

จากรายชื่อ 11 ตัวจริง แม้จะไม่ได้มีบิ๊กเนมอะไร แต่แต่ละชื่อก็เป็นตัวที่มีประสบการณ์บนลีกสูงสุด เคยอยู่กับทีมใหญ่มาหลายคน ซึ่งถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัว และทำให้เกมรุกของ อยุธยา มีความหลากหลายอย่างมาก สามนัดซัดไป 7 ประตู นี่ถือว่าไม่ธรรมดา เป็นรองแค่ บุรีรัมย์ กับ แบงค็อก เท่านั้น แต่ปัญหาคือเกมรับที่เสียประตูเยอะ ซึ่งก็เป็นจุดที่ทีมต้องนำไปแก้ไขต่อไป

อย่างไรก็ดีเพิ่งจะผ่านไปสามเกม จริงๆ มันก็ยังบอกอะไรไม่ได้ว่า อยุธยา จะไปได้ไกลแค่ไหน และจะยืนระยะได้หรือเปล่า เพราะฟุตบอลลีกอยู่ที่การรักษามาตรฐานให้ได้ แม้ออกสตาร์ทช่วงแรกดี แต่ถ้าแผ่วปลายก้อาจชอกช้ำได้เหมือนกัน ดังนั้นต้องดูกันยาวๆ สำหรับน้องใหม่อย่างอยุธยา

แต่เมื่อเทียบกับทีมน้องใหม่อีก 2 ทีม อย่าง ชลบุรี เอฟซี และ พลังกาญจน์ เอฟซี ก็ต้องยอมรับว่า อยุธยา ดูดีที่สุด รูปเกมมีทรง เกมรุกดุดัน ส่วนฉลามชล ดูเหมือนยังไม่เจอทีมที่ลงตัว และเกมก็ยังไม่ไหลลื่น ส่วนพลังกาญจน์ มีตัวดีๆ เยอะ โดยเฉพาะต่างชาติ แต่ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางเช่นกัน และทั้งสองทีมก็ยังหาชัยชนะไม่เจอ

ซึ่งฟุตบอลไทยลีก ในทุกๆ ฤดูกาล จะต้องมีทีมน้องใหม่อยู่ทีมนึงที่ทำผลงานโดดเด่นขึ้นมา และจะเกาะกลุ่มหัวตารางหรือเลขตัวเดียวได้เสมอ ซึ่งในฤดุกาลนี้ก็คือ อยุธยา ยูไนเต็ด ที่เริ่มจะเห้นแวว และมีคุณสมบัติแบบนั้น

แต่ก็อย่างที่บอกไป ว่านี่แค่เริ่มต้น ยังเหลือโปรแกรมอีก 27 นัด สถานการณ์ยังผลิกผันได้เสมอ

ดังนั้นจากนี้ "นักรบอโยธยา" ก็จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าของจริงหรือไม่ และดีพอจะอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้หรือเปล่า จากนี้ไปก็ขอเอาใจช่วยทีมน้องใหม่ทีมนี้ให้รักษาผลงานของตัวเองให้ตลอดลอดฝั่ง และสร้างเซอร์ไพรสืในซีซั่นนี้ใด้ ให้สมกับฉายา "นักรบอโยธยา" ของจริง!!

#ชิชาริเต่า 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline