อีกเพียง 2 วันเท่านั้น ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย จะลงสนามในเกมสำคัญ 2 นัดติดต่อกัน ในศึกเอเชี่ยน คัพ 2027 รอบคัดเลือก ที่มีคิวจะเจอกับ ไชนีส ไทเป หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า “ไต้หวัน”
โดยเกมแรกเราจะเล่นในบ้านก่อน วันที่ 9 ตุลาคมนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และเกมที่สองออกไปเยือน ไต้หวัน ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้
สองเกมนี้มีความสำคัญยังไง? นี่คือสองนัดที่ทีมช้างศึก จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ต้องชนะรวดทั้งสองนัด เก็บ 6 แต้มเต็มสถานเดียวเท่านั้น เพื่อทำให้ทีมชาติไทย ยังอยู่ในเส้นทางของการลุ้นตั๋วไปเตะรอบสุดท้ายที่ซาอุดิอาระเบีย ในปี 2027
ผลพวงจากการที่เราตกรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก โซนเอเชีย รอบ 2 ทำให้เราต้องมาเตะรอบคัดเลือก เอเชี่ยน คัพ ในรอบนี้ ซึ่งเป็นรอบที่โหดมาก เพราะเอาแชมป์กลุ่มทีมเดียวเท่านั้น ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย
ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดของกลุ่มดี ที่ทีมชาติไทย เราร่วมวงอยู่ด้วย เตะไปแล้วก่อนหน้านี้สองนัด เกมแรก เราเปิดบ้านชนะ ศรีลังกา แบบหวุดหวิด 1-0 และเกมล่าสุดเราบุกไปพ่าย เติร์กเมนิสถาน 3-1
ทำให้ตอนนี้ เติร์กเมนิสถาน นำเป็นจ่าฝูง มี 6 แต้มเต็ม ขณะที่ ไทย อยู่ที่สอง มี 3 แต้ม เท่ากับ ศรีลังกา ส่วน ไต้หวัน แพ้รวดยังไม่มีคะแนน
จากการที่เราแพ้ เติร์กฯ มาแล้ว 1 นัด ทำให้เราจะแพ้อีกไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าแพ้อีก หรือต่อให้เสมอ ก้แทบจะหมดโอกาสลุ้นไปเตะรอบสุดท้ายทันที
ต่อจากนี้เราต้องชนะให้ได้ทุกนัด ทั้งการเจอ ไต้หวัน 2 เกมที่จะถึงนี้ ต่อเดือนเดือน พ.ย. ต้องออกไปเยือน ศรีลังกา เหมือนจะง่าย แต่บอกเลยไม่ง่าย ขนาดในบ้านเราชนะเขาแค่ลูกเดียวเอง ซึ่งบางทีเราก็ต้องเชียร์ศรีลังกา ให้หยุด เติร์กฯ ให้ได้ในสองเกมเดือนนี้ เผื่อว่างานของไทยจะได้ง่ายขึ้นมาหน่อย
แต่ตอนนี้เราไม่ต้องไปพึ่งใครทั้งนั้น ต้องช่วยตัวเองก่อน พยายามเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัด แล้วไปวัดกันที่นัดสุดท้าย ที่เราจะเปิดราชมังฯ เจอกับ เติร์กเมนิสถาน ในเดือนมีนาคม ปีหน้า ซึ่งถ้าเรายังอยู่ในเส้นทาง เกมนั้นจะเป้นเกมตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม และได้ตั๋วเครื่องบินไปซาอุฯ
คราวนี้มาว่ากันที่ความพร้อมของทีมชาติไทย หลังจากที่ “มาซาทาดะ อิชิอิ” เรียกตัวนักเตะทั้ง 23 คนมาแล้ว ก็มีปัญหาเมื่อมีนักเตะในตำแห่งกองหน้า ถอนไปถึง 2 คน และแบ็กซ้ายถอนไป 1 คน รวมแล้วถอนไป 3 คน
ตำแหน่งที่เป็นปัญหาคือกองหน้า ที่ตอนแรกเรียกมา 3 คือ ศุภชัย ใจเด็ด, ปรเมศย์ อาจวิไล และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย นี่คือเรียงตามประสบการณ์ และอันดับกองหน้าที่เรียกมาเบอร์ 1-2-3
กลายเป็นว่าเบอร์ 1-2 ถอนตัวไป เหลือกองหน้าเบอร์ 3 ที่ใช้งานคนเดียว คือ “ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” โดยนักเตะที่เรียกมาแทนเป็นกองหลางตัวรุกทั้งสองคน อย่าง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว และ อนันต์ ยอดสังวาลย์
จากการเรียกตัวทดแทนของ “อิชิอิ” ที่ไม่เรียกกองหน้าคนใหม่เข้ามาเพิ่ม ทำให้เหลือกองหน้าตัวเดียว กลายเป็นที่ถูกพูดถึง และวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชี่ยล ซึ่งหลายคนเชียรืให้เรียก “พี่มุ้ย” กลับมา
ซึ่งผมก็เคยบอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ทั้ง “ธีรศิลป์” และ “ธีราทร” ดูจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมชาติไทยของ อิชิอิ แล้วในเวลานี้ โดยเซนเซ เลือกที่จะสร้างทีมเพื่ออนาคตและเป้าหมายคือฟุตบอลโลก 2030 (ซึ่งผมมั่นใจว่าถึงตอนนั้นแกน่าจะไม่ได้คุมทีมแล้ว)
แต่ก็นั่นแหละ นี่คือการตัดสินใจของ อิชิอิ ที่เลือกจะให้เป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นมันก็เหมือนเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของทั้งทีมชาติไทย และตำแหน่งเฮดโค้ชของ อิชิอิ ด้วย
อย่างที่บอกว่าเป้าหมายของฟีฟ่าเดย์รอบนี้ของทีมชาติไทยคือ 6 แต้มเต็ม พลาดไม่ได้เด็ดขาด นี่คือการเดิมพันของทีมช้างศึก
ขณะที่ผลงานช่วงหลังของกุนซือชาวญี่ปุ่น กับทีมช้างศึก ก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่ เก้าอี้ก็เริ่มไม่แข็งแรง แฟนบอลก็เริ่มไม่ชอบแล้ว ทำให้เซนเซ ก็ต้องเดิมพันอนาคตของตัวเองไว้ที่ 2 เกมนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าพลาดเกมใดเกมนึง ก็อาจจะต้อง “ซาโยนาระ” แน่นอน
และถ้าทีมชาติไทย ไม่สามารถเก็บ 6 แต้มในสองแมตช์นี้ ก็เท่ากับว่าจะหมดลุ้นไปลุยเอเชี่ยน คัพ 2027 รอบสุดท้ายด้วยเช่นกัน
การเดิมพันครั้งนี้มันใหญ่หลวงจริงๆ ซึ่ง “มาดามแป้ง” ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเราชนะ ไจ้หวัน ไม่ได้ในสองเกมนี้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ!!
ณ เวลานี้ ในการฝึกซ้อม นักเตะที่ต้องประคบประหงม และดูแลเป็นพิเศษไม่ให้เจ็บให้ป่วยก็คือ “ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” เพราะคือกองหน้าตัวความหวังคนเดียวที่เรามีอยู่ตอนนี้ ถ้าเจ็บไปอีกคน และต้องถอนตัวไปละก็ งานเข้าแน่นอน เพราะตัวใหม่ที่จะเข้ามาอาจจะไม่ใช่กองหน้าก็เป็นได้5555
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อิชิอิ จะจัดการเรื่องนี้ยังไง จะเปลี่ยนแผนการเล่นมาใช้กองหน้าตัวหลอกหรือที่ภาษาเทคนิคเรียกว่า “ฟอลส์ไนน์” หรือจะเล่นโดยมีกองหน้าคนเดียวนี่แหละ ถ้า “ธีรศักดิ์” เจ็บค่อยว่ากัน ซึ่งต้องเตรียมแผนสำรองไว้อยู่แล้ว
แต่สิ่งที่น่าคิดก็คือ ตอนที่เราเจอกับศรีลังกา, เยือนเติร์กฯ และสองเกมล่าสุดในคิงส์ คัพ เรามีกองหน้าแบบฟูลออฟชั่น 3 คน เราก็ยังมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์เลย กว่าจะยิงได้แต่ละลูกยากเย็นแสนเข็ญ และนี่กองหน้าตัวเดียว คิดว่าจะเป็นยังไง?
แต่ก็ไม่แน่!! สถานการณ์อาจจะสร้างวีรบุรุษก็เป็นได้ “ธีรศักดิ์” อาจจะยิงประตูได้ทั้งสองเกม รวมทั้งคนอื่นๆ ก็ยังมีที่ยิงประตูดีๆ หลายคน ทั้ง ชนาธิป, เบน เดวิส, สุภโชค ก็ยังฝากความหวังไว้ได้เช่นกัน
และว่ากันตามความจริง การเจอไต้หวัน เราก็ควรที่จะเอาชนะได้แบบไม่ยากเย็นอะไรทั้งสองนัด ถ้าโค้ชไม่คิดมาก และทำอะไรเพี้ยนๆ ลงไป
สุดท้ายทุกอย่างมันคือการตัดสินใจ และการเดิมพันของโค้ชอิชิอิ กับผลงานของทีมชาติไทย รอบนี้ ซึ่งถ้าผลลัพธ์ออกมาดี เราก็ต้องชื่นชม และก็สนับสนุนเซนเซกันต่อไป แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาตรงข้าม “เซนเซ” ก็ต้องรับผิดชอบกับผลงานด้วยเช่นกัน
ไว้เรามารอดูผลลัพธ์ ที่เกิดขึ้นในสองนัดของทีมชาติไทย ว่าจะเป็นแบบไหน ซึ่งอนาคตของทีมช้างศึก และโค้ชอิชิอิ มันก็จะได้คำตอบตอนนั้น!!
#ชิชาริเต่า