ขวบปีที่ไม่น่าจดจำ... 10 นักเตะฟอร์มแย่ประจำปี 2019

ปี 2019 ที่พึ่งผ่านพ้นไปนั้น ถือว่าเป็นขวบปีที่ยอดเยี่ยมของนักเตะหลายๆ คน แต่ทว่ามันก็มีแข้งอยู่กลุ่มนึงที่เป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำใส่เมมโมรี่สมองเสียเท่าไหร่

ว่าแล้ว ขอบสนาม เราเลยจะขอย้อนพากลับไปดูกันหน่อยว่าในปีปฎิทิน 2019 แข้งคนไหนบ้างที่ฟอร์มแย่จนไม่น่าจดจำ เมซุต โอซิล (อาร์เซน่อล) ต้องบอกว่า เมซุต โอซิล ภายใต้การบัญชาของ อูไน เอเมรี่ นั้นทำให้ประสิทธิภาพของเขานั้นแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งในหน้าปฎิทิน 2019 ความสัมพันธ์ของเขากับเจ้านายคนนี้ดูเหมือนนับวันจะยิ่งดำดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องใน และนอกสนาม  และที่ดูจะเป็นเหมือนจุดแตกหักก็คือการที่ เอเมรี่ ไม่ใส่ชื่อ โอซิล ในทีมติดต่อกัน 5 นัด ทั้งที่ตัวนักเตะไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรบกวนแต่อย่างใด แต่ทว่าพลันที่ เอเมรี่ เป็นเพียงอดีตกับ "ไอ้ปืนใหญ่" และแต่งตั้ง มิเกล อาร์เตต้า กุมบังเหียนแทน แข้งรายนี้ก็เหมือนเกิดใหม่ เล่นด้วยความมั่นใจ และความกระหายแบบเต็มอัตราศึกอีกครั้งนึง ปอล ป็อกบา (แมนฯ ยูไนเต็ด) ช่วงเริ่มแรกของปี 2019 ดูเหมือนว่า ป็อกบา จะกลับมาเป็นโคตรมิดฟิลด์ควบคุมเกมแดนกลางให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง พร้อมกับมีทั้งการยิงประตู และจ่ายแอสซิสต์ให้เพื่อน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอันใดที่ทำให้ ป็อกบา ฟอร์มรูดตกลงไปอย่างน่าใจหาย ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน ป็อกบา ยิงประตูให้ทีมไปเพียง 2 ประตู กับเพียง 2 แอสซิสต์ เท่านั้น และเมื่อมาบวกกับการเริ่มต้นซีซั่น 2019-20 ที่แข้งชาวฝรั่งเศสได้รับบาดเจ็บยาวทำให้ลงเล่นไปเพียง 8 นัดในฤดูกาลนี้ ซึ่งล่าสุดก็พึ่งเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้าเป็นที่เรียบร้อย ก็ไม่รู้ว่าการกลับมาอีกครั้งของ ป็อกบา จะยังคงเป็นผู้เล่นของ "ปีศาจแดง" อยู่หรือเปล่า เอแด็น อาซาร์ (เรอัล มาดริด) คงจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรถ้าจะบอกว่า เอแด็น อาซาร์ คือ 'เดอะ แบก' ของ เชลซี อย่างแท้จริงในช่วงฤดูกาล 2018-19 ทั้งการยิงประตู และแอสซิสต์ เพราะตลอด 52 นัดในช่วงซีซั่นที่แล้ว เจ้าตัวยิงไปมากถึง 21 ประตู พร้อมทำอีก 17 แอสซิสต์ พ่วงด้วยการอำลาทัพ "สิงห์บลู" ด้วยตำแหน่งแชมป์ยูโรปา ลีก แต่หลังจากที่เจ้าตัวโยกย้ายไปทำตามความฝัน ณ เรอัล มาดริด ดูเหมือนเจ้าตัวจะประสบปัญหาในเรื่องของฟอร์มการเล่นมากพอสมควร นอกจากนั้นเขายังต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บที่เล่นงานเป็นครั้งที่ 2 ของฤดูกาลนี้ ทำให้ไม่สามารถลงเล่นแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยให้ต้นสังกัดมากเท่าไหร่เพียง 13 นัด เท่านั้น  และด้วยอาการบาดเจ็บนี่แหละคือบ่อที่ทำให้ อาซาร์ ยังไม่อาจหาฟอร์มเก่งเหมือนเมื่อครั้งสวมชุดสีน้ำเงินได้ ซึ่งแฟนบอล "ราชันชุดขาว" ในตอนนี้ก็หวังว่าหลังหายเจ็บกลับมา อาซาร์ ก็จะพกพาความเก่งกาจมาช่วงทีมไล่ล่าประตูเหมือนครั้งอดีตให้ได้อีกครั้ง อเล็กซิส ซานเชซ (อินเตอร์ มิลาน) ถ้าจะบอกจะบอกว่าขวบปี 2019 ของ อเล็กซิส ซานเชซ ยอดแย่ที่สุดคงจะไม่มากเกินไป เพราะทั้ง 2 ช่วง ทั้งในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด และอินเตอร์ มิลาน เจ้าตัวแทบจะไม่ได้รับการพูดถึงเลย เพราะทั้งอาการบาดเจ็บ ทั้งฟอร์มการเล่น มันแทบไม่หลงเหลือความแพรวพราวเลยสักนิดเดียว และที่สิ่งที่สะท้อนความย่ำแย่ได้มากที่สุดก็คือสถิติการยิงประตู เพราะถ้านับเฉพาะในหน้าปฎิทิน 2019 เขายิงประตูไปเพียง 2 ลูก เท่านั้น ซึ่งมันไม่แปลกเลยที่ทำไมแฟนบอล "ปีศาจแดง" ถึงไม่เสียดายที่หมาย 7 คนนี้ ถูกปล่อยตัวออกจากโรงละครแห่งความฝัน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (บาเยิร์น มิวนิค) ถึงแม้ บาร์เซโลน่า จะเป็นสโมสรในฝัน แต่มันไม่ได้สวยงามแบบภาพที่คิดไว้เลยสำหรับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพราะตลอดขวบปีที่ผ่านมานอกจากผลงานในสนามจะไม่ไฉไลเท่าที่ควรแล้ว ยังโดนแฟนบอลของตัวเองตามโห่อีกต่างหาก และแบบนี้ใครมันจะอยู่ไหว เมื่อช่วงซัมเมอร์เลยทำให้เก็บกระเป๋าย้ายไปเล่นที่เยอรมันกับ บาเยิร์น มิวนิค ดีกว่า ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเลยทีเดียว เพราะชีวิตในเมืองเบัยร์ดูเจ้าตัวจะเอ็นจอยมากกว่า โดยเฉพาะการได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และมีผลงานที่ค่อนข้างดีเยี่ยม ซึ่งมันก็เลยมีผลตอบแทนมาเป็น 1 แฮตทริกในสีเสื้อ "เสือใต้" แล้ว เป็นที่เรียบร้อย  ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด) จะว่าด้วยผลงานที่ผ่านๆ มามันทำให้แฟนบอลคาดหวังในตัวเขาค่อนข้างเยอะ แต่พอมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นกับนายทวารที่เคยถูกยกย่องว่า 1 ในมือดีที่สุดในโลก มันก็เลยกลายเป็นเรื่องแปลก และเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย และมันยิ่งตอกย้ำว่า เด เคอา กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดาวน์ลงคือการที่เขาไม่อาจเก็บคลีนชีตในฟุตอบลลีกได้เล่นถึง 14 นัดติดต่อกัน นับตั้งแต่ช่วงเดือน กันยายน-ธันวาคม 2019 โดยนี่ถือว่าเป็นสถิติเสียประตูติดต่อกันมากที่สุดของตัวเองนับตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้มันก็เลยมีเสียงแฟนบอล "ปีศาจแดง" บอกว่าให้ลองดร็อปเจ้าลามะ เป็นตัวสำรอง ดูบ้าง และให้โอกาส เซร์คิโอ โรเมโร่ เป็นตัวจริงบ้างก็ดีนะ ลูก้า โยวิช (เรอัล มาดริด) ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วชื่อของ ลูก้า โยวิช ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากจากผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ แฟร้งเฟิร์ต โดยเขายิงประตูไปมากถึง 27 ประตู จากการลงสนาม 48 นัด ทุกรายการ ซึ่งด้วยเหตุนี้ทำให้ เรอับ มาดริด ยอมทุ่มเงินถึง 60 ล้านยูโร คว้าตัวมาเสริมทีมในซีซั่นนี้ แต่ดูเหมือน โยวิช จะลืมเอาตำราการยิงประตูไว้ที่เยอรมัน หรืออย่างไรไม่ทราบได้ ทำให้ในบทบาทของผู้เล่น "ราชันชุดขาว" เหมือนเจ้าตัวรับประทานสากเข้าไปแทนที่ซะอย่างนั้น เพราะเจ้าตัวพึ่งเบิกสกอร์ให้ทีมไปเพียงประตูเดียว แต่ที่ย่ำแย่กว่านั้นคือผลงานในสนามที่ไม่น่าอภิรมย์เสียเท่าไหร่ ซึ่งวี่แววแบบนี้มันเริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ช่วงอุ่นเครื่องปรี-ซีซั่นแล้ว จนมีข่าวว่าจะปล่อยยืมตัวออกไป แต่สุดท้ายไม่ได้ออกไป แต่ผลงานของเขาก้ไม่ได้ดีขึ้นจากช่วงดังกล่าวสักเท่าไหร่เลย กอนซาโล่ อิกวาอิน (ยูเวนตุส) ถือว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างมากสำหรับ กอนซาโล่ อิกวาอิน ในช่วงปี 2019 เพราะเริ่มต้นด้วยการย้ายไปร่วมทัพ เชลซี พร้อมกับความหวังของแฟนบอล "สิงห์บลู" ว่าจะเข้ามาช่วยในการยิงประตู แต่ทว่าดูเหมือนความหวังตรงนั้นมันช่างแตกต่างจากความเป็นจริง ตลอด 18 นัด ในสีเสื้อ เชลซี หัวหอกชาวอาร์เจนติน่า ซัดประตูไปได้เพียง 5 ประตู เท่านั้น แต่อย่างน้อยก็มีโทรฟี่แชมป์ยูโรปา ลีก ติดมือกลับมาลุยศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี กับ ยูเวนตุส ในฤดูกาลนี้ ซึ่งการกลับมายังทัพ "ม้าลาย" ในครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะพกพาความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเป็นตัวหลักในแดนหน้าของทีมอีกด้วย อุสมาน เดมเบเล่ (บาร์เซโลน่า) "เจ้าหนู E-Sport" กลายเป็นฉายา และที่น่าจดจำของแฟนบอลมากกว่าการลงไปเล่นสนามเสียแล้วสำหรับเจ้าหนู เดมเบเล่ เพราะตลอดช่วงปีที่ผ่านมาเขามีปัญหามากมายเสียเหลือเกินโดยเฉพาะเรื่องของวินัย ซึ่งที่พีคสุดคือการขาดซ้อมเพราะอ้างว่าป่วย แต่แท้จริงคือมึงมั่วเล่นเกมกับเพื่อนจนดึก ! ส่วนผลงานในสนามนอกจากจะเจ็บแล้ว ยังแทบไม่มีอะไรให้พูดถึง และจดจำเลยสักนิดเดียว เพราะตลอดปี 2019 พี่แกเล่นยิงไปเพียง 2 ประตู เท่านั้น และเมื่อเป็นแบบนี้มันก็เลยทำให้แฟนบอลลืมไปแล้วว่าหมอนี้เคยถูกยกย่องให้เป็นเด็กพรสวรรค์ที่น่าจับตามอง เจสซี่ ลินการ์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด) ไม่รู้ว่าจะพยายามหาความเก่งกาจของชายผู้นี้ออกมาอย่างไร แต่ว่าถ้าเป็นในเรื่องของฟอร์มการเล่นเหี้ยๆ นี่ต่อให้พูดยันเช้าก็ยังเหลาไม่หมด คือเรื่องนอกสนามอย่างที่เราเห็นกันนั้นก็คือวีรกรมม บีนส์ บีนส์ บีนส์ อันเลื่องชื่อ ซึ่งนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับจุดเริ่มต้นความห่วยแตกอย่างแท้จริงเลย ส่วนเรื่องในสนามตลอดปี 2019 ก็ไม่รู้จะให้พูดว่าห่วยแตกขนาดไหน เอาแค่ว่าตัวเลขสถิติคือสิ่งที่บ่งบอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี เพราะตลอด 365 วัน ในหน้าปฎิทิน 2019 พี่แก ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกไปทั้งสิ้น 28 นัด เดชะบุญ และขอกราบประทานโทษ จำนวนประตูคือ 0 แถมด้วย แอสซิสต์ 0 !! ไม่รู้ว่าสถิติแบบนี้จะมีใครมาลอกเลียนแบบนี้ไปได้บ้าง