logo-heading

ชื่อของ ธีรศิลป์ แดงดา ไม่มีใครไม่รู้สึกฝีไม้ลายมือหัวหอกวัย 31 ปี ว่าที่คุณพ่อลูก 2 คือนักบอลไทยรายที่ 3 ที่ได้กลับไปล่าฝันในการลงเล่นในเจลีกปี 2020 ต่อจากชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน ซึ่งเจริญรอยตามปี 2018 ที่เป็นนักบอลไทยตัวท็อป 3 รายที่ได้ลงเล่นพร้อมหน้าพร้อมตากัน

ธีรศิลป์ แดงดา ปิดฉากชีวิต 10 ปีในสีเสื้อเมืองทอง ยูไนเต็ด ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนักบอลตัวท็อปของโครงการช้างเผือกอัสสัมชัญธนบุรี รุ่นที่ 2 เขาคือดาวรุ่งที่ตกเป็นใต้ร่มเงาของศักรินทร์ จันทร์โยธามาโดยตลอด สู้ไม่ได้ในเรื่องของพรสวรรค์ แต่กลับกลายเป็นว่า เขากลายเป็นนักบอลที่ขัดเส้นทางตัวเองด้วยผลแสว่งอย่างแท้จริง การได้รับการปลูกฝั่งที่ดีจากครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ ที่ฝึกสอนฟุตบอลเบสิคตั้งแต่วัยเยาว์ นำพาเด็กหนุ่มผู้เงียบขรึมพูดน้อยรายนี้ ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในเวลาต่อมา และติดธงไตรรงค์ไปแล้ว 104 นัด ทั้งๆที่มุ้ย โดนคำครหาสาระพัดทั้งเด็กฝากติดทีมชาติ จากอดีตผู้จัดการทีมชาติ อย่างกิตติรัตน์ ณ ระนอง และโค้ชหรั่ง อ.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่เอาเขาไปติดทีมตั้งแต่ยังไม่จบม.6 แถมยังโดนรุ่นพี่ในทีมไม่ต้อนรับ จนต้องไปนั่งกินข้าวกับคนขับรถบัส ธีรศิลป์ แดงดา ก้าวมาอย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะเป็นนักบอลในเจลีก เขาตัดสินใจไม่รับข้อเสนอจากบีอีซี เทโรศาสน แต่เลือกที่จะไปเล่นกับทีมจ่าอากาศ, ราชประชา และเมืองทอง ยูไนเต็ด ในวันที่ทีมเหล่านี้อยู่ในลีกระดับล่าง เพื่อให้ตัวเองได้สัมผัสเกมลงเล่นฟุตบอลได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องไปนั่งสำรองตูดด้านในทีมใหญ่ๆ แน่นอนว่าตรงนี้ทำให้เขา กล้าเลี้ยงบอล กล้าขอบอลจากรุ่นพี่อาวุโสเวลาไปซ้อมกับทีมชาติ เบสิคเทคนิคที่แน่นหนา เวลาลงเล่นในสนามเขากลายเป็นนักบอลที่แข็งแกร่ง สวนทางตัวการใช้ชีวิตน้อยสนามที่พูดน้อย ชีวิตในการลงเล่นฟุตบอลอาชีพในเมืองไทย ของมุ้ยซัง ประสบความสำเร็จมากมาย เขาได้มาเกือบทุกแชมป์ในประเทศ แชมป์ไทยลีก 4 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย, แชมป์คิงส์ คัพ, แชมป์อาเซียน คัพ, สัมผัสเหรียญทองซีเกมส์, ได้ลงแข่งฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายเอเชีย, ได้ลงเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม, ยิงเกิน 100 ประตูในไทยลีก ทุกอย่างอิ่มตัวหมดแล้ว ซึ่งมันก็ชัดเจนมาตั้งแต่เขากลับมาเล่นให้เมืองทองในปี 2019 หลังหมดสัญญายืมตัวกับซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ที่ใจและภาษากายบอกว่าไร้แรงจูงใจเหมือนคนอยู่ไปวันๆ สุดท้ายเขาจึงผลักดันตัวเองเพื่อให้ได้กลับไปเล่นฟุตบอลอาชีพในต่างแดนเป็นหนที่4 อีกครั้ง ต่อจากการไปสวิตเซอร์แลนด์ กับทีมสำรองกลาสฮอปเปอร์ ซูริค, อัลเมเรีย, ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า ชิมิสุ เอส พลัส ทีมฟุตบอลที่เกิดจากความนิยมคลั่งไคล้ฟุตบอลในเมืองชิซูโอกะ พวกเขาคือทีมเดียวในเจลีกยุคก่อตั้งที่ถูกเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขัน โดยที่ไม่มีกลุ่มทุนอุตสาหกรรมหนุนหลังอยู่ ทีมสีส้มแห่งชิซูโอกะ ในยุค 90 ถึงต้นยุค 2000 คือขาประจำของฟุตบอลสโมสรเอเชีย และมักจะมีโอกาสมาแข่งกับสโมสรในเมืองไทยอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะกับการเจอบีอีซี เทโรศาสน การเดินทางมาล่าฝันในแดนซามูไรหนที่ 2 ณ สนามไอเอไอนิฮงดะอิระ ถือเป็นเรื่องที่ลงตัวมากมายในหลายๆจุด ชิมิสุ รู้เม็ดเงินค่าฉีกสัญญาจะจ่ายเงินเพื่อดึงเขามาจากเมืองทอง ยูไนเต็ด โดยปีเตอร์ ชคลามอฟสกี กุนซือคนใหม่ชาวออสซี่ เป็นคนที่ต้องการแข้งชาวไทยมาสู่ทีม เพราะเป็นนักเตะเกมรุกที่มีความอเนกประสงค์ เล่นได้ทั้งหน้าต่ำ, หน้าเป้า, ถอยไปเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกก็ทำได้ แม้สถิติในเจลีก 2018 อาจจะไม่สวยหรูมากแค่ 32 เกม 6 ประตู และ 3 แอสซิสต์ แต่รูปร่างของมุ้ยซังเทียบเท่ากับนักเตะในยุโรป 181 เซนติเมตร แถมเป็นคนที่ครองบอลได้เหนียวแน่น ไม่หวงบอล ถ้าเพื่อนร่วมทีมว่าง ก็พร้อมจะผ่านให้ หากมีจังหวะที่ดีกว่า เมื่อเคมีเข้าแก็ปกับชิมิสุ เอส พลัส เขาจึงไม่รอช้าที่จะมาต่อสู้เพื่อหาแรงจูงใจครั้งใหม่กับชิมิสุ เอส พลัส ทันที ถึงอายุอานามจะเยอะเตะหลัก 31 ปีเข้าไปแล้ว แต่ไฟในตัวเขากลับมาหมอดไหม้ เนื่องจาก มุ้ย มีความทรงจำที่ดีงามในการค้าแข้งกับซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า เขาทึ่งกับวัฒนธรรมฟุตบอลในญี่ปุ่น ในเรื่องการฝึกซ้อมที่จริงจังของนักเตะและเพื่อนร่วมทีม ไม่มีใครมาสาย เรื่อยเปื่อย ต้องมีวินัยการดูแลร่างกายให้ดี วิ่งปรินท์ตัวเองให้ได้ 11-12 กิโลเมตร สิ่งนี่เองทำให้เราได้เห็น เคนโงะ นางามูระ, ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ, ชุนซูเกะ นางามูระ, โยชิโตะ โอคุโบะ, เคจิ ทามาดะ ฯลฯ สามารถยืนหยัดลงเล่นฟุตบอลอาชีพในระดับสูงได้สบายไร้ปัญหาแม้อายุจะเตะหลัก 40 ปีเข้าไปแล้ว พวกนี้กลับไม่หมดไฟในการเล่นบอลอาชีพ ซึ่งตัว ธีรศิลป์ ก็ประทับใจกับความเป็นมืออาชีพของแข้งซามูไรบูลส์มากๆที่ได้เห็นและสัมผัสมากับตาตัวเอง อีก1สิ่งที่ตัว “มุ้ยซัง” ชอบมากคือเรื่องการให้เกียรติกันในญี่ปุ่น หากเกมการแข่งขันในสนามเกิดแพ้แฟนบอลสต๊าฟฟ์โค้ชเพื่อนร่วมทีมไม่มาด่าหลังเกม วัฒนธรรมฟุตบอลในญี่ปุ่น ค่อนข้างจริงจังตั้งแต่การฝึกซ้อมในสนามไปจนถึงวันลงทำการแข่งขันผู้เล่นภายในทีมทุกคนช่วงชิงกันเป็น 11 ผู้เล่นผิดกับไทยลีก บางคนรู้ว่าไม่ได้เล่นมาสาย ขาดซ้อม ทำตัวเป็นซุปตาร์โพสต์เฟส,ไอจี แต่ที่ญี่ปุ่นทุกคนมองว่าเป็นเรื่องรอง แถมเมื่อจบเกมการแข่งขันหากบอลแพ้ ไม่มีนักเตะภายในทีมมานั่งตำหนิโทษกันเองว่า มึงเล่นพลาดมึงคือจุดอ่อน แถมไม่ต้องมาเจอเจ้าของทีมเจ้าของเงินหรือแฟนบอลทีมตัวเองมานั่งด่าท้อเสียๆหายให้เสียกำลังใจเสียความรู้สึกตัวเองอีก จบเกมก็จบกัน ไม่มีใครมานั่งต่อความยาวสาวความยืดกันอีก “มุ้ย” ธีรศิลป์ ชอบในจุดๆนี้ เขาเคยบอกกับล่ามส่วนตัวและนักข่าวที่ไปทำข่าวเขาเมื่อปี 2018 เขาชอบตรงนี้มาก ก็หวังว่าปี 2020 ธีรศิลป์ แดงดา จะประสบความสำเร็จกับการแย่งตำแหน่งตัวจริงภายในทีมชิมิสุ เอส พลัส และทำประตูได้มากกว่าตอนที่เล่นให้ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า เราชาวขอบสนามขอเป็น 1 เสียงที่สนับสนุน TD 10 ครับ

เอ็มเร่

[email protected]

logoline