logo-heading

โค้ชฟุตบอลในยุคปัจจุบัน เก่งไม่เก่งไม่ได้มีวัดกันที่ตัวผู้เล่น แต่วิธีการที่นำไปฝึกสอนในการซ้อมดีพอที่จะนำจุดๆนั้นเอาไปใช้ในสนามจริงได้หรือไม่ เพราะคู่แข่งยุคนี้ก็จับทางเก่ง เดาได้ว่าทีมคู่ต่อกรใช้ใครลงสนาม มีกลยุทธ์เป็นอย่างไร ซึ่งต้องมีหลังบ้าน ทีมงานชั้นยอด ที่เที่ยวเช็คฟอร์มสเกาต์คู่แข่ง ประเมินสถานการณ์เกมต่อเกมของทีมตัวเองและทีมคนอื่น

โค้ชฟุตบอลที่ได้เปรียบคือคนที่ผ่านงานทำบอลเยาวชนมาก่อน ยิ่งเข้าใจธรรมชาติบอลเด็ก ย่อมรู้จิตวิทยาที่จะปกครองคน เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า บ้างครั้งเป็นนักบอลมีชื่อแต่เมื่อผันตัวมาเป็นโค้ชแล้วสอบตกเยอะแยะไป เพราะปราศจากวิธีการทำทีม อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย และ ฮาจิเมะ โมริยาสุ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่น ก็เคยผ่านทั้งการเป็นนักเตะระดับสโมสรและทีมชาติมาแล้ว เมื่อผันตัวมาทำทีมในฐานะกุนซือ เขาก็เริ่มต้นจากการทำงานในระดับเยาวชนมาด้วยกันทั้งคู่ และผันตัวไปทำทีมชาติทำให้เห็นภาพมุมกว้างได้เห็นโครงสร้างฟุตบอลระดับเด็ก ผู้ใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องมีแมวมองคุณภาพมือขวาข้างกาย เอาไว้เสาะแสว่งหานักเตะ และเป็นเพื่อนคู่คิดในการวางแผน กำหนดแท็คติกทิศทางทีมตั้งแต่ในสนามซ้อมจนถึงวันแข่งขัน ก่อนที่นิชิโนะและฮาจิเมะ โมริยาสุ จะหยิบจัดโทรฟี่แชมป์ในระดับสโมสรก่อนจะต่อยอดในการมาคุมทีมชาติญี่ปุ่นได้นั้น ทั้ง 2 คน มีมือขวาคนเดียวกันที่เป็นเสมือนกระดูกสันหลัง ซึ่งหมอนี่ซุกซ้อนตัวแบบเงียบๆไม่ค่อยมีคนรู้ถึงขีดความสามารถมากหนักที่เก่งกาจ ในช่วงขวบปีที่ผ่านมาในการชิงชัยในเจลีก 2019 เขาสามารถนำทีมเล็กๆต้นทุนไม่สูงเอาตัวรอดปลอดภัยได้แบบไม่ต้องไปกังวลหนีการตกชั้น โดยไปจบอันดับ 9  ทั้งที่ตอนต้นฤดูกาลโดยสบประมาทว่ายังไงก็ไม่มีทางเอาอยู่ในเจลีก ทีมที่ว่ามานี้ก็คือโออิตะ ตรินิตะ ภายใต้การคุมทีมโดย "คาตาโนะซัง" หรือ โทโมฮิโระ คาตาโนซากะ ผู้ที่ได้รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมปีล่าสุดจากสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นและเจลีก อดีตลูกพี่ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ และ จุนอิจิ อินาโมโตะ ที่กัมบะ โอซาก้า ในช่วงยุคต้นสองพัน เขาซึมซับแท็คติกฟุตบอลยุคเก้าศูนย์ที่ชอบเล่นระบบหลังสาม มีวิงแบ็คสองฝั่ง ด้วยความที่เติบโตมากับความนิยมฟุตบอลแบบอิตาเลี่ยนและบราซิเลี่ยน ที่มักจะมีแท็คติกสไตล์แบบนั้น เมื่อประกาศแขวนสตั๊ด "คาตาโนะซัง” เริ่มต้นกับโออิตะ ตรินิตะ ในฐานะสเกาต์ทีมชุดใหญ่ พ่วงด้วยการทำทีมเยาวชนชุด 15 ปี จากนั้นก็ถูกอากิระ นิชิโนะ ดึงไปเป็นผู้ช่วยโค้ชที่กัมบะ ในปี 2007-2009 เขาทำหน้าที่คุมซ้อมนำนักเตะวิ่งวอร์มและช่วยวางแท็คติก สเกาต์คู่แข่งฝั่งตรงข้าม 3 ปีทีมประสบความสำเร็จ ได้ 4 แชมป์เจลีก ลูวาน คัพ,เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และเอ็มเพอเรอร์ คัพ 2 สมัย ก่อนจะอพยพลงใต้ไปยังซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ผนึกกำลังกับฮาจิเมะ โมริยาสุ ช่วยทีมได้แชมป์เจลีก 2012, 2013 และรีเทิร์น กลับมาช่วยเด็กสายฟ้าแห่งโอซาก้าในฐานะมือขวาของเคนตะ ฮาเซกาวะ ช่วยทีมซิว 3 แชมป์ในประเทศทั้งเจลีก, ลูวาน คัพและเอ็มเพอเรอร์ คัพ เมื่อสั่งสมประสบการณ์มากพอแล้วในฐานะผู้ช่วย คาตาโนซากะ จึงตัดสินใจเดินหน้าในการเป็นโค้ชเบอร์ 1 สั่งการลูกทีมข้างสนาม โดยเริ่มต้นที่ทีมเก่าอย่าง โออิตะ ตรินิตะ ในปี 2016 เวลานั้นคลับลูกหนังแห่งคิวชู หล่นไปอยู่ในระดับเจ3 และเงินก็มีไม่มากพอที่จะไปวิ่งหาสปอนเซอร์ชื่อดัง ทำให้แบรนด์เสื้อเป็นสินค้าท้องถิ่น ส่วนสิทธิ์การทำทีมเป็นของสภาเมืองและหอการค้าในเมือง แม้สโมสรจะเคยไปใช้ฝีเท้าในเจลีกมาแล้ว 8 ครั้ง รอยต่อในช่วงปี 2003-2009 และปี 2013 แต่ทีมกลับประสบปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก แถมไม่มีองค์กรเป็นแบ็คอัพที่เป็นองค์กรยักษ์ใหญ่หนุนหลังเรื่องเม็ดเงิน "คาตาโนะซัง”มารับงานในปี 2016 เขาประกาศว่าทีมจะกลับสู่เจ2 ให้ได้แค่ปีเดียว มีแต่คนบอกว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่เขากลับทำมันได้จริงๆ ฟุตบอลญี่ปุ่นเน้นการเพรสซิ่งความฟิต บอลเฟิร์สทัช เขาไม่ได้เล่นแบบนั้นใช้แท็คติก 3-4-3 ในห้วงเวลาที่ระบบหลัง 4  เป็นที่นิยม เขาใช้วิงแบ็คเน้นการเข้าทำจากริมเส้นโจมตีใส่เข้าคู่แข่งเพื่อให้บอลมาถึงศูนย์หน้าจบสกอร์ เมื่อเงินมีไม่เยอะ นักเตะที่จะเล่นจึงเป็นประเภทเด็กท้องถิ่น หรือพวกเดินทางไม่ไกลจากเมืองโออิตะ ในภูมิภาคคิวชู ใส่ระบบแท็คติกเข้าไปให้ผู้เล่นเข้าใจฟอร์เมชั่น 3-4-3 ทีมประสบความสำเร็จซิวแชมป์เจ 3 อย่างที่ตั้งใจไว้ เมื่อขยับมาอยู่อีกระดับ เจ 2 เป็นบอลที่เน้นการแข่งขันด้วยพละกำลังเป็นหลัก ผลงานในปี 2017 ทีมรักษาสถานะอยู่กลางตารางจบในลำดับ 9  เมื่อเข้าสู่ปี 2018  คาตาโนซากะ รู้ถึงระดับบอลลีกรอง เขาจึงปรับเรื่องความฟิตผสมผสานกับแท็คติกและหานักเตะเกรดบีและซี ที่ไม่เคยสัมผัสเจลีกมาก่อน เข้าสู่ทีมรวมกับเด็กท้องถิ่นที่มีอยู่มาเข้าแคมป์ปรีซีซั่น ปรากฏว่าทีมไต่ระดับเบียดแย่งแชมป์ลีกกับมัตซูโมโตะ ยามางะ จนถึงนัดสุดท้าย ก่อนจะคัมแบ็คกลับสู่ลีกสูงสุดปลาดิบอีกครั้งใน5 ปี เป็นกราฟชีวิตที่พุ่งเร็วสุดขีด จากมือขวาผู้เงียบขรึมถนัดวางแผนอยู่เบื้องหลัง สร้างทีมที่ไม่มีใครถูกพูดถึงมากมาย เงินก็ไม่มี โออิตะ ตรินิตะ ไม่มีสตาร์ดัง อยู่ได้ด้วยระบบ แต่เน้นปล่อยนักเตะออกจากทีม หากว่ามีทีมที่ดีกว่าพร้อมทุ่มพร้อมจ่าย ในปี2019 พวกเขาคือทีมที่มีสถานะการเงินอยู่ในลำดับ 31 จากทั้งหมด 47 ทีมอาชีพจาก 3 ดิวิชั่นในญี่ปุ่น สิ่งที่น่าทึ่งเกิดขึ้นกับพลพรรคทริต้าในรอบ 4 ปีจากทีมที่ดูเหมือนจะล้มละลาย  ไร้แสงสว่าง แต่กลับมายืนหยัดได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งมันก็มาจาก โทโมฮิโระ คาตาโนซากะ ที่ใช้มันสมองและวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

เอ็มเร่

logoline