logo-heading

ต้องยอมรับชื่อของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ในช่วงขวบปีที่ผ่านมานั้น มักมีเรื่องให้แฟนบอลพูดถึงในแย่ลบมากกว่าขั้วบวกเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่เจ้าเลือกบินข้ามน้ำทะเลมาคว้าความฝันที่ เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ฤดูกาลก่อน

อย่างที่เราทราบกัน และเห็นกันอยู่ตามหน้าสื่อว่า กูร์กตัวส์ กลายเป็นจุดหมายที่โดนแฟนบอลตามด่าอย่างสาดเสียเทเสีย ซึ่งส่วนมากจะมาจากความไม่พึ่งพอใจของแฟนบอล เชลซี และแอต.มาดริด โดยเฉพาะสาวกของ "สิงห์บลู" ที่จากลากันแบบเหม็นขี้หน้า แตกหักแบบไม่มีวันญาติดีด้วย ซึ่งเรื่องราวมันเริ่มมาจากพฤติกรรมที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพของนายทวารผู้นี้นี่เอง เพราะเขาปฎิเสธที่จะร่วมฝึกซ้อมกับทีมจนกว่าจะได้การอนุมัติให้ย้ายไปร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" ซึ่งนั้นเปรียบเสมือนการประกาศสงครามแบบกลายๆ ว่ากูไม่สนสัญญาที่มีอยู่ ขอแค่ได้ทำตามใจที่ต้องการ และนี่แหละครับคือจุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง จนแฟนบอลของ เชลซี ต่างมอบของชำรวยไม่ว่าจะเป็นฟักแฟง หรืออิโมจิรูป งู ที่สื่อถึงคนที่น่าขยะแขยงไม่น่าคบหาให้  ซึ่งมันก็เช่นเดียวกับแฟนบอล แอต.มาดริด ที่ไม่พอใจอดีตแข้งรายนี้ที่ย้ายไปร่วมทัพกับคู่อริร่วมเมือง และครั้งแรกที่ กูร์กตัวส์ กลับไปเยือนถิ่นเก่าคงไม่ต้องบรรยายบรรยากาศให้มากความว่านายทวารคนนี้จะโดนแฟนบอลเจ้าถิ่นจัดหนัก จัดเต็มมากขนาดไหน วันที่เสียงก่นด่า... แปรเปลี่ยนเป็นเสียงชื่นชม ของ "ติโบต์ กูร์กตัวส์" โดยในฤดูกาลแรกของ กูร์กตัวส์ ในสีเสื้อ "ราชันชุดขาว" มันไม่ได้ง่ายดายเลย ส่วนนึงเพราะเขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เคย์ลอร์ นาวาส นายทวารคนเก่าที่พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มา 3 สมัยติดต่อกัน และมันยิ่งโหมความรุนแรง และสร้างความไม่พอใจให้แฟนบอลตัวเองมากขึ้นไปอีก เพราะเมื่อเริ่มต้นซีซั่น 2018-19 ผู้รักษาประตูชาวเบลเยี่ยมไม่ได้แสดงสิ่งที่ดีกว่าคนเก่าออกมาให้เห็นเลย ซึ่ง 10 นัดแรกในลาลีกา เขาเก็บคลีนชีตได้เพียง 3 นัด และโดนเจาะตาข่ายไปมากถึง 15 ประตู แน่นอนเขาได้กลายเป็นแพะสำหรับความย่ำแย่นี้ ซึ่งมันก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเขาก็ทำตัวเอง เพราะทั้งตัวเลขสถิติ และผลงานบนฟฃอร์หญ้ามันสามารถตอบทุกคำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาแล้ว พอเสียงนกหวีดยาวบ่งบอกว่าซีซั่นแรกกับ เรอัล มาดริด ถูกรูดม่านปิดไปพร้อมกับตัวเลขที่ไม่น่าพึ่งพอใจที่การโดนยิงไปมากถึง 48 ประตู จากการลงสนาม 35 เกม และเก็บคลีนชีตได้เพียง 10 นัด สิ่งที่นายติโบต์ กูร์กตัวส์ ต้องทำอย่างรวดเร็วคือการกลับมาเป็นนายทวารคนเหนียวหนึบคนเดิมให้ได้ ม่านของฤดูกาล 2019-20 ถูกเปิดขึ้น ซึ่งมันมาพร้อมกับผลงานที่ยังไม่น่าประทับใจเพราะจากตัวเลขสถิติ กูร์กตัวส์ ที่มันฟ้องว่าการลงเฝ้าเสาในทุกรายการช่วง 9 นัดแรก เสียประตูไปมากถึง 12 ลูก และเซฟได้แค่ 11 ครั้งเท่านั้น ถือว่าเป็นสถิติที่โคตรแย่สำหรับตัวเอง และตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่แล้วด้วยความอดทน และใจสู้ทำให้เขากลับมายังลู่ทางที่ควรจะเป็น ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางข่าวที่ไม่เป็นมิตรต่อตัวเอง ความยอดเยี่ยมของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เริ่มแสดงออกให้แฟนบอลได้ยลโฉมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนับมาถึงตรงนี้เจ้าตัวลงสนามทุกรายการไปแล้วทั้งสิ้น 27 นัด และเก็บคลีนชีตไปได้มากถึง 14 เกม เสียประตูไปเพียง 19 ลูกเท่านั้น ซึ่งตัวเลขคลีนชีตที่กล่าวไปมันมากกว่าซีซั่นที่แล้วทั้งฤดูกาล ซึ่งนี่แหละคือจุดที่ทำให้เสียงด่าทอที่ก้องกังวานในหูเขาในวันนั้น เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียงชื่นชม และเสียงปรบมือ อย่างกึกก้อง วันที่เสียงก่นด่า... แปรเปลี่ยนเป็นเสียงชื่นชม ของ "ติโบต์ กูร์กตัวส์" ส่วนนึงที่ทำให้ กูร์กตัวส์ กลับมามีผลงานที่ดีอีกครั้งนั้นก็คือจิตใจของเขาที่แข็งแกร่ง ตามที่เขาเคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าต่อให้เสียงด่าจะมีมากขนาดไหน แต่สิ่งสำคัญคือการเชื่อมั่นในตนเองว่าสักวันจะทำได้  และนั้นมันก็ออกดอกผลิผลออกมาให้เห็นแล้ว และล่าสุดกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคม ที่เขาได้รับเลือกจากลาลีกา สเปน มันยิ่งเป็นเหมือนการตอกหมุดว่าผลงานในสนามของเขามันยอดเยี่ยม และควรค่าแก่การชื่นชมมากขนาดไหน ซึ่งสิ่งถึงตรงนี้ กูร์กตัวส์ เองยังคงทำงานอย่างหนัก เพราะมันไม่ใช่แค่การเรียกความมั่นใจของตัวเอง หรือการถูกยกย่องให้เป็นผู้รักษาประตูที่เก่งที่สุดในโลก แต่มันจะคงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดคือการเอาชนะใจแฟนบอล "ราชันชุดขาว" ให้ได้มากกว่านี้ และทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่านายทวารคนนี้สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้  บทสรุปสุดท้ายตลอดกว่า 18 เดือนที่ผ่านมาของชายที่ชื่อ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ในสีเสื้อ เรอัล มาดริด มันคงเป็นเส้นกราฟที่ดูจะเคลื่อนที่จากจุดต่ำสุด ขึ้นสู่จุดสูงอย่างทุลักทุเลไม่น้อย  แต่สุดท้ายเขาก็เดินผ่านมันมาได้อย่างสง่างาม พร้อมเสียงชื่นชมจากทุกสารทิศ ซึ่งนี่ก็คืออีกหนึ่งบทบทเรียน และข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน และพูดได้เต็มปากว่า “ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจจริงๆ”
logoline