logo-heading
ไวรัสโควิด-19 เริ่มจะลามเข้ามากระทบกับฟุตบอลไทยลีก ของเราแล้ว แม้สถานการณ์โควิดในบ้านเราจะยังไม่ร้ายแรงอะไร แต่ตอนนี้ทั่วโลกก็อยู่เฉยไม่ได้แล้ว เช่นเดียวกับวงการฟุตบอลที่เริ่มได้รับผลกระทบตามๆ กัน หลังจากที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และไทยลีก ได้มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ฟุตบอลไทยลีก 2020 ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะทำการแข่งขันแบบปิด นั่นคือไม่ให้แฟนบอลเข้าชมเกม ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรการที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลได้วางเอาไว้ 3 ขั้น ตั้งแต่แรก และนี่ก็เข้าสู่ขั้นที่สองที่ต้องปิดสนามแข่ง เพื่อความปลอดภัย แต่กระนั้นปัญหามันก็เกิดตามมา เมื่อมีหลายๆ สโมสร ทั้งไทยลีก 1 ยัน ไทยลีก 4 ไม่เห็นด้วยกับประกาศดังกล่าว และเตรียมที่จะมีการล่ารายชื่อเพื่อส่งให้สมาคมฯ โดยต้องการจะให้เลื่อนฟุตบอลไทยลีก ออกไปก่อน เพราะถ้าแข่งแบบปิดสโมสรจะเสียรายได้ ซึ่งทางสมาคมฯ เอง โดยว่าที่ นายก ส.บอล ก็ออกมายืนยันว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด ที่ได้วางเอาไว้ และสโมสรก็รับทราบดี ซึ่งการปิดสนามแข่งก็เป็นไปตามที่ลีกสากลปฏิบัติกันเมื่อมีปัญหา อีกทั้งถ้าต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป มันก็ไม่รู้ว่าจะเลื่อนไปถึงเมื่อไหร่ และถ้าโปรแกรมมันค้างจนเตะย้อนหลังไม่ทันก็ต้องยกเลิกโปรแกรมทั้งหมด ซึ่งมันจะได้รับผลกระทบมากกว่า เมื่อดูจากเหตุผลต่างๆ ก็ต้องบอกว่า เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมาก และก็เข้าใจทุกฝ่าย แน่นอนทางสมาคมฯ และไทยลีก ในฐานะที่เป็นฝ่ายจัดการแข่งขัน ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้การแข็งขันดำเนินต่อไปได้ และให้ทุกอย่างเป็นไปตามโปรแกรม ในขณะเดียวกัน ก็ต้องรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของทั้งนักกีฬา แฟนบอล และทุกๆ คนที่อยู่ในสนาม ซึ่งเป็นที่มาของการต้องปิดสนาม แต่ในมุมมองของสโมสร ก็แน่นอนว่าแข่งแบบปิดไป มันก็ต้องเสียรายได้จากค่าบัตรผ่านประตู ค่าของที่ระลึก ซึ่งก็ว่าไม่ได้เพราะนี่คือรายได้หลักของสโมสรฟุตบอลอาชีพ ยิ่งลีกล่างๆ ถ้าไม่มีรายได้ตรงนี้เข้ามาเลยก็ลำบาก ในส่วนของแฟนบอลเอง ถ้าแฟนบอลทั่วไป ถ้าจะกระทบก็คืออดดูทีมรักตัวเองที่สนาม ส่วนที่หนักคงจะเป็นแฟนบอลที่ถือตั๋วปี เพราะเข้าซื้อตั๋วไปแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปดูในสนาม มันก็ไม่คุ้ม ซึ่งทางสโมสรก็ต้องหาทางออกใสเรื่องนี้ให้กับแฟนบอล พอมานั่งดูเหตุผลของทุกฝ่ายแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดก็คือพบกันครึ่งทาง นั่นก็คือฟุตบอลก็คงต้องแข่งกันต่อไปตามโปรแกรม เพราะมันยังไม่ถึงขั้นที่จะแข็งขันกันไม่ได้ และเพื่อความปลอดภัยก็ต้องแข่งขันแบบปิดสนาม ส่วนเรื่องรายได้ที่หายไปของสโมสร ตรงนี้ทางสมาคมฯ อาจจะต้องเข้ามาช่วยเหลือ โดยอาจจะต้องการงบประมาณเข้ามาส่วนนึงเพื่อเยียวยาทุกๆ สโมสรที่ต้องลงแข่งในบ้านแล้วขาดรายได้ ก็ประเมินกันไปเป็นลีกๆ ไป แล้วก็ให้ตามความเหมาะสมที่แต่ละสโมสรควรจะได้ในแต่ละแมตช์ ถ้าทำได้ผมว่าสโมสรก็แฮปปี้ ส่วนแฟนบอลก็คงต้องยอมที่จะดูถ่ายทอดสด ส่วนคนที่ถือตั๋วปี สโมสรก็คงจะต้องจัดโปรโมชั่นคืนเงิน หรือมีอะไรตอบแทนให้จากโปรแกรมที่พวกเขาไม่ได้ดูในสนามตอบแทนไป ซึ่งมันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ปัญหาก็คือไอ้เงินที่จะเอามาช่วยสโมสรนั้น จะต้องใช้เท่าไหร่ และจะไปเอามาจากไหน แต่เชื่อว่าระดับบิ๊กอ๊อด น่าจะหามาได้ ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ใช่หน้าที่ หรือความจำเป็นที่จะสมาคมฯ จะต้องทำแบบนั้น แต่อย่างที่บอกถ้าไม่ถอยคนละก้าว แล้วมาเจอกันครึ่งทาง มันก็แก้ปัญหาไม่ได้ จากนี้คงต้องรอดูต่อไปว่าจะจบอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะได้คำตอบเร็วๆ นี้แหละ เพราะสุดสัปดาห์นี้ก็ยังมีโปรแกรมแข่งขันอยู่ ดังนั้นน่าจะได้เข้าตอบภายในวันสองวันนี้แน่นอน ขณะเดียวกันเรื่องของโปรแกรมทีมชาติ ก็มีแนวโน้มที่น่าจะเลื่อน 99.99 เปอร์เซ็นต์ สำหรับโปรแกรมฟีฟ่าเดย์เดือนมีนาคมนี้ ซึ่งทีมชาติไทย มีโปรแกรมคัดเลือกบอลโลก พบกับอินโดนิเซีย โดยเมื่อวานหลังเอเอฟซี มีการประชุมหาทางออกเรื่องนี้ บรรดาทีมจากชาติอาหรับก็ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่ลงเตะ และทางเอเอฟซี ก็จะชงเรื่องไปให้ฟีฟ่า รับรองในเรื่องนี้อีกที โดยตามข่าวคาดว่าเกมระหว่างไทย กับ อินโดฯ ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ก็น่าจะเลื่อนไปเตะหลังเดือนตุลาคม ซึ่งโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ในช่วง มิ.ย.นั้น ก็ต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป
logoline